ซื้อ หรือ เช่า “ที่อยู่อาศัย” แบบไหนตอบโจทย์การใช้ชีวิตยุคใหม่ ?

ซื้อ หรือ เช่า “ที่อยู่อาศัย” แบบไหนตอบโจทย์การใช้ชีวิตยุคใหม่ ?

18 ก.ย. 2020
ผลสำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภคที่มีต่อตลาดอสังหาฯ
DDproperty’s Thailand Consumer Sentiment Study ฉบับล่าสุด พบว่า 75% ของผู้ตอบแบบสำรวจฯ เลือกที่จะชะลอการซื้อ-ขายอสังหาฯ ออกไปก่อน เนื่องจากผลกระทบจากโควิด-19
ในขณะที่ผู้บริโภค 3 ใน 4 ยังคงวางแผนจะซื้อที่อยู่อาศัยในอนาคต
DDproperty เว็บไซต์มาร์เก็ตเพลสด้านอสังหาฯ นำเสนอข้อควรพิจารณา เพื่อเป็นแนวทางให้ผู้บริโภคสามารถตัดสินใจเลือกซื้อหรือเช่าที่อยู่อาศัย
“ซื้อ” มีกรรมสิทธิ์ในอสังหาฯ ต่อยอดลงทุนได้ในอนาคต คนซื้ออย่ารีบร้อน คนขายต้องใจเย็น
-การซื้อบ้านหรือคอนโดฯ ทำให้ผู้ซื้อมีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์นั้นๆ
นอกจากตอบโจทย์ในการใช้เป็นที่พักอาศัย ยังสามารถนำไปสร้างรายได้จากการปล่อยเช่า หรือขายต่อ
แต่ผู้ซื้อจำเป็นต้องมีความพร้อมทางด้านการเงิน เพื่อเป็นค่าดำเนินการต่างๆ เช่น ค่าจอง ค่าธรรมเนียมการโอน ค่าจดจำนอง
และการซื้อ ยังทำให้เกิดเป็นภาระผูกมัด หากต้องเปลี่ยนที่ทำงาน หรือโยกย้าย
-เนื่องจากการผ่อนชำระเป็นภาระทางการเงินระยะยาว
ดังนั้น ผู้ซื้อต้องใช้เวลาในการพิจารณาอย่างรอบคอบและถี่ถ้วน ทั้งเปรียบเทียบคุณภาพของโครงการ ทำเล อัตราดอกเบี้ยจากธนาคาร เพื่อเลือกสิ่งที่ดีและตอบโจทย์ที่สุด
และอาจย้ายเข้าอยู่ทันทีไม่ได้ ต้องเผื่อเวลาในการดำเนินการทางเอกสารต่างๆ
รวมทั้งรอเวลาการอนุมัติจากธนาคาร การโอน การตกแต่งหรือปรับสภาพให้พร้อมอยู่
-ผู้ซื้อต้องวางแผนด้านการเงินที่รัดกุม เพราะสินเชื่ออสังหาฯ ในปัจจุบันมีตัวเลือกระยะเวลาผ่อนชำระได้นานถึง 30-40 ปี และควรมีเงินเก็บสำรองเผื่อเหตุฉุกเฉินที่ไม่คาดคิด ซึ่งอาจกระทบต่อรายรับในอนาคต เช่น การว่างงาน
-เทรนด์ Work from Home ส่งผลให้ผู้บริโภคหันมาพิจารณาเลือกซื้อโครงการหรือที่อยู่อาศัยแนวราบ หรือคอนโดฯ ที่มีจำนวนยูนิตน้อยๆ ไม่แออัดในแถบชานเมือง
เมื่อเทียบความคุ้มค่าในการเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัย ในราคาที่ถูกกว่าการซื้อบ้าน/คอนโดฯ ย่านศูนย์กลางธุรกิจของกรุงเทพฯ (CBD)
-ราคาอสังหาฯ ในปีนี้ยังมีแนวโน้มลดลง อันเนื่องมาจากสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว
สอดคล้องกับรายงานดัชนีราคาอสังหาฯ DDproperty Thailand Property Market Index ไตรมาสที่ 3 ปี 2563 ที่ระบุว่าดัชนีราคาอสังหาริมทรัพย์ในไตรมาสที่ผ่านมา ต่ำที่สุดในรอบ 11 ไตรมาส
ผู้ประกอบการแข่งขันด้านราคาอย่างเข้มข้นและปล่อยโปรโมชัน ทั้งส่วนลด ทั้งผ่อนให้ก่อน หรือแหวกแนวแจกบัตรทางด่วนสิบปี เป็นต้น เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจของผู้ซื้อ
จึงเป็นโอกาสทองสำหรับผู้ซื้อที่มีความพร้อม และกลุ่มเรียลดีมานด์ที่วางแผนซื้อบ้าน/คอนโดฯ ในอนาคต
“เช่า” ปรับเปลี่ยนได้ตามไลฟ์สไตล์ ลดภาระผูกพันระยะยาว
-การเช่าที่อยู่อาศัยเป็นทางเลือกที่ปลอดภัย สำหรับผู้บริโภคที่เริ่มสร้างฐานะ หรือยังมีภาระค่าใช้จ่ายในส่วนอื่น เพราะการมีเงินออมเก็บอยู่กับตัวถือเป็นสิ่งจำเป็นในยุคนี้ เพื่อลดความเสี่ยงของปัญหาทางการเงินจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด
-ผู้บริโภคสามารถเลือกพิจารณาที่อยู่อาศัยที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ได้ง่ายขึ้น
เพราะการเช่าอสังหาฯ จะมีความยืดหยุ่นมากกว่าการซื้อ
หากมีการเปลี่ยนงานหรือย้ายที่อยู่อาศัย ก็สามารถโยกย้ายได้ง่ายกว่า
หรือเลือกเช่าได้ตามไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปตามความต้องการในช่วงวัยต่างๆ เช่น เน้นความสงบใกล้ชิดธรรมชาติ เน้นพื้นที่ส่วนตัวมากขึ้น เพื่อรองรับการสร้างครอบครัว
-เมื่อพบที่พักอาศัยที่ถูกใจแล้ว ผู้บริโภคก็สามารถตกลงเช่าได้ทันที เพียงมีกระเป๋าใบเดียวสามารถเข้าอยู่ได้เลย เพราะอสังหาฯ ให้เช่าส่วนใหญ่ จะมาพร้อมกับการตกแต่งที่สวยงามรองรับการเข้าอยู่อาศัยได้ทุกเวลา
นอกจากนี้ บางแห่งยังมีเฟอร์นิเจอร์หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าให้อย่างครบครัน
-โดยปกติการเช่าบ้าน/คอนโดฯ ผู้เช่าไม่จำเป็นต้องมีเงินก้อน
ค่าใช้จ่ายเบื้องต้นจะเป็นค่าเช่าล่วงหน้า และเงินประกันทรัพย์สินเท่านั้น
และไม่สร้างภาระผูกพันในระยะยาว เหมือนการซื้อขาดที่ต้องผ่อนธนาคารในระยะเวลาหลายสิบปี
รวมทั้งไม่จำเป็นต้องมีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา หรือเสียภาษีต่างๆ หากเราเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์
-แม้การเช่าที่อยู่จะไม่ก่อให้เกิดภาระผูกพันระยะยาว
แต่อีกมุมหนึ่งสำหรับคนที่มองอนาคตไกลๆ อาจดูเป็นการปล่อยเงินให้จมหายไปกับการจ่ายค่าเช่าทุกเดือน เมื่อเปรียบเทียบกับการผ่อนชำระสินเชื่ออสังหาฯ ที่ผู้ซื้อยังได้รับกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์นั้น
ทั้งนี้ ข้อมูลจากผลสำรวจฯ DDproperty’s Thailand Consumer Sentiment Study ฉบับล่าสุด
ยังพบว่า 43% ของผู้บริโภคชาวไทยที่ยังไม่ได้ครอบครองอสังหาฯ วางแผนจะเช่าที่อยู่อาศัยในปีหน้า
ในขณะที่ 38% ของผู้ตอบแบบสำรวจฯ ตั้งใจจะเช่าก่อน 2 ปี และวางแผนจะซื้อบ้านในภายหลัง
© 2024 Marketthink. All rights reserved. Privacy Policy.