แถลงการณ์จาก แกร็บ ประเทศไทย กรณีที่มีข้อกังวลด้านความปลอดภัยและสุขอนามัยที่เกี่ยวข้องกับคนขับฟู้ดเด ลิเวอรี่

แถลงการณ์จาก แกร็บ ประเทศไทย กรณีที่มีข้อกังวลด้านความปลอดภัยและสุขอนามัยที่เกี่ยวข้องกับคนขับฟู้ดเด ลิเวอรี่

5 พ.ค. 2021
จากกรณีที่มีการส่งต่อข้อความในโซเชียลมีเดีย จนเกิดเป็นข้อกังวลด้านความปลอดภัยและสุขอนามัยที่เกี่ยวข้องกับคนขับฟู้ดเดลิเวอรี่ ทาง แกร็บ ประเทศไทย ได้รับทราบถึงเหตุการณ์ดังกล่าว และขอชี้แจงให้ทราบว่า บริษัทฯ ได้มีมาตรการในการดูแลด้านความปลอดภัยและสุขอนามัยของพาร์ทเนอร์คนขับ-ผู้จัดส่งอาหารและพัสดุอย่างต่อเนื่อง และพร้อมให้ความร่วมมือกับภาครัฐอย่างเต็มที่ในการแจ้งข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19
ทั้งนี้หากบริษัทฯ ได้รับแจ้งจากหน่วยงานภาครัฐ หรือเมื่อได้รับการติดต่อจากพาร์ทเนอร์คนขับว่าตนเองติดเชื้อโควิด-19 หรือเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง บริษัทฯ จะทำการระงับสัญญาณทันที และจะร่วมมืออย่างเต็มที่กับกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ในการตรวจสอบข้อมูลการเดินทางย้อนหลัง รวมถึงผู้ใช้บริการทุกคนที่ได้มีปฏิสัมพันธ์กับพาร์ทเนอร์คนขับทั้งหมดในช่ว งเวลาดังกล่าว บริษัทฯ จะทำการเปิดระบบกลับมาอีกครั้ง หากได้รับเอกสารยืนยันผลการตรวจเป็นลบเป็นที่เรียบร้อย
นอกจากนี้ พาร์ทเนอร์ยังสามารถแจ้งความประสงค์เพื่อรับเงินชดเชย ซึ่งครอบคลุมถึงค่าตรวจโรคโควิด-19 มูลค่า 500 บาท เงินชดเชยรายได้ 2,000 บาทในกรณีที่ตรวจพบว่าติดเชื้อ และเงินชดเชยรายวัน 500 บาทต่อวัน สูงสุดไม่เกิน 15 วัน ต่อการเข้าพักรักษาตัวในฐานะผู้ป่วยในที่มีสาเหตุจากการติดโรคโควิด-19
ทั้งนี้ แกร็บ ประเทศไทย ยังคงให้ความสำคัญกับมาตรการด้านความปลอดภัยและสุขอนามัยอย่ างต่อเนื่อง ทั้งในบริการการเดินทาง และบริการรับ-ส่งอาหารและพัสดุ ภายใต้โครงการ “แกร็บแคร์” (GrabCares) ซึ่งได้ดำเนินการมาตั้งแต่เริ่มมีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในปี 2563 สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดในระลอกที่ 3 นี้ แกร็บมุ่งเน้นการสื่อสารเพื่อเน้นย้ำให้พาร์ทเนอร์คนขับ- ผู้จัดส่งอาหารและสินค้า รวมถึงพาร์ทเนอร์ร้านอาหาร ปฏิบัติตามแนวทางด้านความปลอดภัยต่างๆ เหล่านี้อย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยสำหรับตนเอง และสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้บริการ อาทิ
-การแนะนำให้พาร์ทเนอร์คนขับปฏิบัติตามแนวทางหรือข้อกำหนดของ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ทั้งการตรวจวัดอุณหภูมิ การสวมหน้ากากอนามัย การล้างมืออย่างสม่ำเสมอ การหมั่นทำความสะอาดยานพาหนะ รวมถึงการดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคล
-การใช้มาตรการจัดส่งอาหารแบบไร้สัมผัส (Contactless Delivery) โดยให้พาร์ทเนอร์คนขับเว้นระยะห่างกับลูกค้าอย่างน้อย 2 เมตรตลอดเวลา รวมถึงการรอรับอาหารที่ร้านจะต้องยืนห่างกันไม่น้อยกว่า 1 เมตร ขณะต่อคิวที่ร้านอาหาร
-การส่งเสริมให้ผู้ใช้งานชำระค่าบริการผ่านบัตรหรือกระเป๋าเงินอิเล็กท รอนิกส์ (GrabPay หรือ GrabPay Wallet) โดยได้มีการร่วมมือกับพันธมิตรธนาคารในการส่งเสริมการชำระเงินแ บบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อลดการสัมผัสเงินสดในช่วงการแพร่ระบาด
-การใช้เทคโนโลยีเพื่อยกระดับมาตรฐานด้านความปลอดภัย  เช่น การใช้ระบบคัดกรองด้านสุขภาพและสุขอนามัยผ่านแอปพลิเคชัน โดยพาร์ทเนอร์คนขับทุกคนจะต้องทำแบบประเมินเพื่อยืนยันว่าไม่มีอา การป่วยจากโรคโควิด-19 และจะต้องถ่ายภาพเซลฟี่ของตนเองขณะสวมใส่หน้ากาก พร้อมอัปโหลดภาพผ่านระบบ เพื่อยืนยันตัวตนก่อนให้บริการในทุกวัน
ทาง บริษัทฯ ขอความร่วมมือให้ทุกท่านติดตามและรับข้อมูลข่าวสารจาก หน่วยงานภาครัฐ สำนักข่าวที่มีความน่าเชื่อถือ เพื่อป้องกันการรับข้อมูลข่าวสารที่เป็นเท็จ หรือยังไม่ได้รับการยืนยันข้อมูลอย่างเป็นทางการ
© 2024 Marketthink. All rights reserved. Privacy Policy.