สายยิงแอดเตรียมปรับตัว ปีหน้า Facebook จะไม่อนุญาตให้ระบุคีย์เวิร์ดที่มีความอ่อนไหว

สายยิงแอดเตรียมปรับตัว ปีหน้า Facebook จะไม่อนุญาตให้ระบุคีย์เวิร์ดที่มีความอ่อนไหว

10 พ.ย. 2021
ทาง Facebook (Meta) ได้ประกาศว่า จะไม่อนุญาตให้ผู้ที่ต้องการโฆษณาสินค้า/บริการ บนแพลตฟอร์ม ระบุคีย์เวิร์ดเพื่อยิงโฆษณา ด้วยคีย์เวิร์ดหรือหัวข้อที่มีความอ่อนไหว
อาทิ ความเชื่อทางศาสนา, การเมือง, รสนิยมทางเพศ และสุขภาพ
ซึ่งแน่นอนว่า การตัดสินใจที่จะลบรายละเอียดเหล่านี้ออก ย่อมมีผลกระทบต่อธุรกิจของ Facebook อย่างมาก โดยทาง Facebook ได้เขียนอธิบายว่า
“ข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิพลเมือง, ผู้กำหนดนโยบาย และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่น ๆ มีส่วนในการตัดสินใจครั้งนี้ด้วย ถึงแม้ว่ารายได้จากการโฆษณา จะเป็นแหล่งรายได้สำคัญของ Facebook ก็ตาม”
ทั้งนี้ โดยปกติแล้วการยิงโฆษณาของ Facebook จะสามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการ ตามข้อมูลที่ให้ไว้ในโปรไฟล์ได้ เช่น อายุ, ตำแหน่งที่อยู่, เพศ
และยังมีหมวดหมู่ความสนใจ ที่ผู้ใช้งานสามารถเพิ่มลงไปเองในการตั้งค่าได้ เช่น หนังสือ, K-pop, รถยนต์
รวมไปถึงโฆษณาที่ยิงหาผู้ใช้งาน อาจขึ้นอยู่กับว่าผู้ใช้งานมีส่วนร่วมกับเนื้อหาประเภทไหนบน Facebook ด้วย
ซึ่งหมวดหมู่ความสนใจนี่เองที่เป็นปัญหา เนื่องจากในบางความสนใจนั้น เป็นเรื่องที่ทางบริษัทเรียกว่าเป็นประเด็นที่ "ละเอียดอ่อน" เช่น วัฒนธรรมชาวยิวอเมริกัน, สิทธิของ LGBT, การรับรู้เรื่องมะเร็งปอด หรือแม้กระทั่งชื่อนักการเมืองหรือพรรคการเมือง
โดยตั้งแต่วันที่ 19 มกราคม 2022 เป็นต้นไป ผู้ลงโฆษณาจะไม่สามารถกำหนดเป้าหมายโฆษณาตามความสนใจเช่นนี้ได้อีกต่อไป
ส่วนด้านกลุ่มอื่น ๆ ที่ไม่ถือว่าเป็นประเด็นที่อ่อนไหว เช่น การปีนหน้าผา หรือ การถักนิตติง จะยังคงกำหนดเป้าหมายสำหรับการโฆษณาได้ปกติ
ซึ่งผู้ใช้งาน Facebook สามารถดูกลุ่มความสนใจของบัญชีตนเอง และตั้งค่าการรับโฆษณาได้
โดยการตั้งค่าผ่านเดสก์ท็อป เลือกเมนู “การตั้งค่าและความเป็นส่วนตัว > การตั้งค่า > โฆษณา > การตั้งค่าโฆษณา > หมวดหมู่ที่ใช้ในการเข้าถึงคุณ > หมวดหมู่ความสนใจ
หากไม่ต้องการรับโฆษณาตามความสนใจ ผู้ใช้งาน Facebook สามารถเลือกที่จะไม่รับโฆษณาได้
โดยสาเหตุที่ Facebook ต้องออกนโยบายนี้ออกมา ก็มาจากข่าวที่รั่วไหล ว่าทาง Facebook ไม่สนใจความปลอดภัยของผู้ใช้งาน ซึ่งปล่อยข่าวโดยคุณ Frances Haugen อดีตพนักงานของ Facebook เอง
เรื่องนี้ทำให้ช่วงที่ผ่านมา ทาง Facebook ต้องถูกตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างละเอียดจากหลายฝ่าย
ซึ่งทาง Facebook ก็พยายามออกมาปฏิเสธเรื่องที่ถูกกล่าวหา โดยทางบริษัทบอกว่า การรายงานของนักข่าวบางคนได้บิดเบือนไปจากข้อเท็จจริง รวมไปถึง มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ก็ได้ออกมาชี้แจงผ่าน Facebook ส่วนตัวในประเด็นนี้ด้วย
นอกจากนี้ ก็ยังมีประเด็นละเอียดอ่อนอีกมากมาย ที่ทาง Facebook จำเป็นต้องจัดการแก้ไข ซึ่งก็นำมาสู่การออกมาตรการการโฆษณาที่เข้มงวดมากขึ้น นั่นเอง
อย่างไรก็ดี การตัดสินใจลบประเด็นที่อ่อนไหวออกจากการกำหนดกลุ่มเป้าหมายนั้น ก็ยังมี “ประโยชน์เชิงบวก” ที่หายไปกับการตัดสินใจในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน
ตัวอย่างเช่น หากมีใครสนใจเกี่ยวกับ "โรคเบาหวาน" เดิมที พวกเขาจะสามารถเชื่อมโยงกับองค์กรไม่แสวงหากำไรที่ทำงานด้านนี้ได้ แต่พอปัญหาด้านสุขภาพไม่สามารถถูกกำหนดเป้าหมายเพื่อโฆษณาได้
หมายความว่าองค์กร จะไม่สามารถยิงโฆษณาหาคนกลุ่มนี้ได้โดยตรง นั่นเอง
แต่ถึงจะอย่างนั้น ทาง Facebook เอง ก็มีเครื่องมือมากมายสำหรับธุรกิจในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย
เช่น หากผู้ใช้เลือกใช้การติดตามโฆษณาบน iPhone (Ad Tracking) ก็จะทำให้ผู้โฆษณาบน Facebook สามารถใช้ข้อมูลนั้น เพื่อกำหนดเป้าหมายโฆษณาได้ รวมไปถึงเทคนิคอื่น ๆ
แน่นอนว่าเรื่องนี้ ทำให้ธุรกิจบางประเภท เช่น ธุรกิจเกี่ยวกับสุขภาพ หรือองค์กรไม่แสวงหากำไร อาจจะต้องปรับตัวในการทำการตลาดกันยกใหญ่ เลยทีเดียว..
อ้างอิง :
-https://techcrunch.com/2021/11/09/facebook-will-no-longer-allow-advertisers-to-target-political-beliefs-religion-sexual-orientation/
© 2024 Marketthink. All rights reserved. Privacy Policy.