DISNEY รายได้เพิ่มขึ้น 21% แต่กำไรดิ่งหนัก -92% ในไตรมาสล่าสุด

DISNEY รายได้เพิ่มขึ้น 21% แต่กำไรดิ่งหนัก -92% ในไตรมาสล่าสุด

6 พ.ค. 2020
DISNEY มีอายุเกือบ 100 ปี เคยผ่านวิกฤติเศรษฐกิจมาหลายครั้ง
แต่ต้องยอมรับว่า คงไม่มีมรสุมไหน ที่จะทำให้ DISNEY เจ็บหนักขนาดนี้ได้
เพราะที่ผ่านมา วิกฤติเศรษฐกิจหรือโรคระบาด ที่สามารถทำให้ผู้คนทั่วโลกต้องกักตัวอยู่บ้าน
สวนสนุก และโรงหนังเกือบทั่วโลกต้องปิดให้บริการลงชั่วคราว
แทบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ซึ่งแม้แต่ผู้สร้างดินแดนในจินตนาการ อย่าง DISNEY ก็ยังจินตนาการโรคระบาดนี้ไม่ออก..
ธุรกิจหลักของ DISNEY จะเกี่ยวกับกิจกรรมนอกบ้าน เช่น สวนสนุก, รีสอร์ต, การดูภาพยนตร์
ซึ่งโควิด-19 ทำให้ DISNEY ป่วยหนักขนาดไหน มาดูผลประกอบการกัน
ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2020 (ม.ค. - มี.ค. 2020)
DISNEY มีรายได้ 583,131 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% เมื่อเทียบกับปีก่อน
โดยสัดส่วนรายได้มาจาก
-ธุรกิจสวนสนุก, กิจกรรมสร้างประสบการณ์ และสินค้า มีรายได้ 179,482 ล้านบาท (-10%)
กำไรจากการดำเนินงาน 20,691 ล้านบาท (-58%)
ซึ่งธุรกิจได้ผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้ต้องปิดให้บริการสวนสนุก, รีสอร์ต และร้านค้า
จนทาง Disney ต้องสั่งพักงานพนักงานหลายหมื่นคน
และโชคร้าย ช่วงปิดสวนสนุกฯ ดันเป็นช่วงพีกที่สุดของปี
เพราะตรงกับเทศกาลสำคัญอย่างตรุษจีน และ Easter
และมีการระงับให้บริการธุรกิจเรือสำราญของ Disney ทุกเส้นทาง
นอกจากนี้ รายได้ค่าลิขสิทธิ์จากการขายสินค้าต่างๆ ก็ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เช่นกัน
-ธุรกิจเครือข่ายมีเดีย เช่น Disney Chanel, ESPN, Freeform, National Geographic, ABC
มีรายได้ 234,982 ล้านบาท (+28%)
กำไรจากการดำเนินงาน 76,903 ล้านบาท (+7%)
แม้รายได้จะเติบโต แต่ก็ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เช่นกัน จากรายได้ค่าโฆษณาที่ชะลอตัวลง
เพราะภาคธุรกิจและแบรนด์ต่างๆ ลดงบการตลาดและโฆษณาลง
-ธุรกิจสตูดิโอภาพยนตร์ เช่น Walt Disney Pictures, Twentieth Century Fox, Marvel, Lucasfilm, Pixar
มีรายได้ 82,213 ล้านบาท (+18%)
กำไรจากการดำเนินงาน 15,089 ล้านบาท (-8%)
ธุรกิจสตูดิโอได้รับผลกระทบหนัก จากการต้องหยุดถ่ายทำและเลื่อนฉายภาพยนตร์ออกไป
และที่ธุรกิจสตูดิโอมีรายได้เพิ่มขึ้น เพราะนับรวมรายได้จาก Twentieth Century Fox ที่ DISNEY ซื้อกิจการไป
ซึ่งไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว ไม่มีรายได้ในส่วนนี้
-ธุรกิจสตรีมมิง และเครือข่ายโทรทัศน์ในต่างประเทศ เช่น Disney +, ESPN+, Hotstar, Hulu
มีรายได้ 133,503 ล้านบาท (+260%)
ขาดทุนจากการดำเนินงาน 26,293 (ขาดทุนเพิ่ม 111%)
รายได้เติบโตอย่างก้าวกระโดด เพราะได้รับอานิสงส์จากธุรกิจสตรีมมิงเป็นหลัก
จากจำนวนสมาชิกเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ทั้งจาก Disney + ที่เปิดตัวไปเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา
และการเสนอขายแพ็กเกจสมาชิกแบบเหมารวมของ Disney +, ESPN + และ Hulu
โดยจำนวนสมาชิกที่ต้องชำระเงิน ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2020
Disney+ มีจำนวนสมาชิก 33.5 ล้านคน
ESPN+ มีจำนวนสมาชิก 7.9 ล้านคน (+259%)
Hulu มีจำนวนสมาชิก 32.1 ล้านคน (+27%)
ส่วนธุรกิจเครือข่ายโทรทัศน์ในต่างประเทศ ได้รับกระทบจากการชะลอตัวของรายได้โฆษณา
และที่ธุรกิจมีขาดทุนจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น
เพราะมีค่าใช้จ่ายในการเปิดตัว และลงทุนในแพลตฟอร์ม Disney +
รวมถึงพัฒนาแพลตฟอร์มอื่นๆ
สรุปแล้วไตรมาสนี้ Disney
มีกำไรจากการดำเนินงาน 78,230 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 37%
กำไรสุทธิ 14,895 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 92%
สาเหตุที่กำไรดิ่งลงหนัก แม้รายได้โดยรวมจะเพิ่มขึ้น 99,957 ล้านบาท (+21%)
เนื่องจาก Disney มีต้นทุนและค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 165,300 ล้านบาท (+44%)
ดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มขึ้น 5,084 ล้านบาท (+110%)
และมีรายได้อื่นๆ ได้แก่ กำไรจาการควบรวมกิจการ Hulu และได้รับเงินประกันคืน
หายไป 160,702 ล้านบาท
ซึ่งเมื่อปีก่อน Disney มีรายได้ส่วนนี้ แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว เพราะเป็นรายได้ที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว
ล่าสุดหลังประกาศผลประกอบการ ราคาหุ้นของ Disney -2.1% ในเวลาซื้อขายนอกเวลาทำการ
อ้างอิง : Financial Report_Q2 2020
Tag:Disney
© 2024 Marketthink. All rights reserved. Privacy Policy.