มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ขึ้นแท่นรวยอันดับ 3 ของโลก ! หลังราคาหุ้น Facebook พุ่งทะยาน

หลังจากต้องเผชิญกับมรสุมหลายอย่างตั้งแต่ต้นปี ไม่ว่าจะเป็นโควิด-19 ที่ทำให้ธุรกิจบางส่วนต้องชะลองบโฆษณาออกไป ซึ่งโฆษณาเป็นรายได้หลักของ Facebook (98.5%)
การบอยคอตต์ไม่ลงโฆษณาบนโซเชียล มีเดียอย่าง Facebook และ Instagram ของแบรนด์ต่างๆ
และการที่รัฐสภาสหรัฐ กำลังไต่สวน มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก อย่างหนักเกี่ยวกับประเด็นการผูกขาดธุรกิจ

แต่หุ้นของ Facebook ก็ทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่อง นับแต่จุดต่ำสุดของปีในเดือนมีนาคม
หลังจากประกาศผลประกอบการทั้งในไตรมาสที่ 1 และไตรมาสที่ 2 ซึ่งเติบโตดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

และล่าสุดเมื่อคืนนี้ ราคาหุ้นของ Facebook ได้พุ่งทะยานไป 6.5% ภายในวันเดียว
หลังจากได้เปิดตัวฟีเจอร์คลิปวิดีโอสั้นที่มีชื่อว่า “Reels” บน Instagram ให้กว่า 50 ประเทศได้ใช้งานกัน เพื่อออกมาแข่งกับ TikTok

ทำให้ตอนนี้ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ Facebook มีความมั่งคั่งเพิ่มขึ้น
จนปัจจุบันมีทรัพย์สินอยู่ที่ 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 3,113,350 ล้านบาท
(ร่ำรวยขึ้น 28.4% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว)
และรวยเป็นอันดับที่ 3 ของโลก

ตามข้อมูลของ Bloomberg Billionaires Index ณ วันที่ 7 ส.ค. 2020

ซึ่งเป็นรองเพียง
อันดับที่ 1 เจฟฟ์ เบโซส์ ผู้ก่อตั้ง และ CEO ของ Amazon
ที่มีทรัพย์สิน 190,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 5,915,365 ล้านบาท
(ร่ำรวยขึ้น 65.6% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว)

อันดับที่ 2 บิลล์ เกตส์ ผู้ก่อตั้ง Microsoft
ที่มีทรัพย์สิน 120,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 3,736,020 ล้านบาท
(ร่ำรวยขึ้น 6.5% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว)

ที่น่าสนใจคือ
มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก มีอายุเพียง 36 ปี ! ก็สามารถไต่เต้าจนขึ้นเป็นเบอร์ 3 ของโลกได้แล้ว
ในขณะที่ เจฟฟ์ เบโซส์ มีอายุ 56 ปี และบิลล์ เกตส์ มีอายุ 64 ปี

ดังนั้นด้วยอายุเพียงเท่านี้ หาก Facebook ไม่เจอขั้นวิกฤติจริงๆ เช่น เจอคู่แข่งที่มาแย่งฐานลูกค้าของ Facebook เป็นจำนวนมาก หรือ มาร์ก เดินแตะตัดขาตัวเองจนสะดุดล้ม

ก็มีความเป็นไปได้สูงที่ “มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก” อาจจะกลายเป็นคนที่รวยสุดในโลก ในวันข้างหน้า..

อ้างอิง :
https://www.bloomberg.com/billionaires/