ทำไม Google ต้องยอมจ่ายเงินให้คู่แข่งอย่าง Apple ปีละเกือบ 5 แสนล้านบาท..

Google และ Apple เป็นสองยักษ์ใหญ่ ในวงการเทคโนโลยี ที่เป็นคู่แข่งกันมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะการแข่งขันระหว่าง Android และ iOS ซึ่งเป็นสองระบบปฏิบัติการสำหรับอุปกรณ์พกพา ที่แย่งชิงส่วนแบ่งตลาดกันอย่างดุเดือด

รวมถึงในครั้งหนึ่ง สตีฟ จอบส์ ถึงกับมอง Android เป็นคู่แข่ง ที่เขาจะใช้กระแสเงินสดที่ Apple มีในช่วงเวลานั้นกว่า 40,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.3 ล้านล้านบาท) ในการทำลาย Android ให้ได้

แต่รู้หรือไม่ว่า ในความจริงแล้ว แม้ Google และ Apple จะเป็นคู่แข่งทางธุรกิจ แต่ในบางครั้ง ความสัมพันธ์ของทั้งสองบริษัท ก็ออกมาในรูปแบบของ “คู่ค้า” ที่จ่ายเงินให้กันในทุก ๆ ปี..

อย่างในปี 2021 มีการรายงานว่า Apple คือหนึ่งในลูกค้ารายใหญ่ ของ Google Cloud ซึ่งให้บริการด้าน Cloud Computing คิดเป็นค่าบริการที่ Apple ต้องจ่ายให้ Google กว่า 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 9,800 ล้านบาท) ต่อปี

และคาดการณ์ว่าในอนาคต ความต้องการของ Apple ในการใช้ Google Cloud จะเพิ่มขึ้นอีกมาก เพื่อรองรับการให้บริการต่าง ๆ ของ Apple นั่นเอง..

ส่วนในฝั่งของ Google เอง ก็มีการจ่ายเงินให้กับ Apple เช่นกัน แต่เป็นจำนวนที่มากกว่าที่ Apple จ่ายให้ Google มาก..

โดยจากการรายงาน พบว่า ตลอดทั้งปี 2021 Google จ่ายเงินให้กับ Apple คิดเป็นมูลค่ากว่า 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 4.9 แสนล้านบาท)
แลกกับการให้ Apple ใช้ Google เป็น Search Engine เริ่มต้น (Default) บนอุปกรณ์ทุกชนิดของ Apple ทั้ง iPhone, iPad และคอมพิวเตอร์ Mac

เพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจนยิ่งขึ้น ว่าเงินที่ Google จ่ายให้กับ Apple นี้ มากน้อยเพียงใด
ก็สามารถเทียบได้ง่าย ๆ ว่า เงินจำนวนนี้ คิดเป็นสัดส่วนเกือบ 50% ของรายได้ที่ Google ได้จากโฆษณาบน YouTube ในแต่ละปี..

คำถามคือ ทำไม Google ต้องยอมจ่ายเงินก้อนใหญ่ขนาดนี้ให้กับ Apple เพื่อแลกกับการเป็น Search Engine เริ่มต้น ในทุกอุปกรณ์ของ Apple

ทั้งที่ในปัจจุบัน Google ก็ครองส่วนแบ่งในตลาด Search Engine ไปเกิน 90% เป็นที่เรียบร้อย และดูเหมือนว่าจะไม่มีบริษัทอื่น ๆ ขึ้นมาแข่งขันกับ Google ได้เลย..

ก่อนที่จะตอบคำถามนี้ได้ ต้องขอพาไปดูสถิติจำนวนอุปกรณ์ของ Apple ที่คนทั่วโลกใช้งานกันอยู่ในขณะนี้ก่อน ว่ามีจำนวนเท่าไร

จากข้อมูล พบว่าในช่วงไตรมาส 1 ปี 2022 มีอุปกรณ์ Apple ทุกชนิด ที่กำลังถูกใช้งาน (Active Device) รวมแล้วกว่า 1,800 ล้านอุปกรณ์

หรือหากนับเฉพาะ iPhone เพียงอย่างเดียว ก็จะมีอุปกรณ์ชนิดนี้ ที่กำลังถูกใช้งานอยู่ถึง 1,000 ล้านอุปกรณ์

นั่นหมายความว่า การจ่ายเงินเกือบ 5 แสนล้านบาท ในแต่ละปี จะทำให้ Google ได้โอกาสในการเข้าถึงฐานลูกค้า ที่จะใช้ Google เป็น Search Engine ในทันที รวมแล้วกว่า 1,800 ล้านอุปกรณ์

(หรือคิดง่าย ๆ เฉลี่ยแล้ว Google จ่ายเงินให้ Apple เพื่อเข้าถึงฐานลูกค้า ปีละ 276 บาท/เครื่อง)

เพราะไม่ว่าใคร ที่ซื้ออุปกรณ์ Apple มาใช้งาน และต้องการค้นหาข้อมูลต่าง ๆ จากอินเทอร์เน็ต ก็จะถูกเลือกให้ใช้ Google โดยอัตโนมัติ ตั้งแต่เปิดเครื่องใช้งานเป็นครั้งแรก โดยไม่จำเป็นต้องตั้งค่าอื่น ๆ เพิ่มเติมให้ยุ่งยาก

- จะเกิดอะไรขึ้น หาก Google ไม่ยอมจ่ายเงินให้ Apple อีกต่อไป ?

ซึ่งหาก Google เลือกที่จะไม่จ่ายเงินให้กับ Apple ก็จะทำให้ Apple มีสิทธิ์ในการเลือก Search Engine รายอื่น ๆ มาเป็นค่าเริ่มต้น แทน Google นั่นเอง

อย่างในหน้าเมนูการตั้งค่า Search Engine ของ Safari ใน iPhone มี Search Engine ที่เป็นตัวเลือกให้กับผู้ใช้งาน นอกเหนือจาก Google ได้แก่ Yahoo, Bing, DuckDuckGo และ Ecosia

หรือไม่แน่ว่า Apple อาจเลือกที่จะไปทำ “ข้อตกลง” กับ Search Engine รายอื่น ๆ เพื่อใช้เป็น Search Engine เริ่มต้น แทน Google ก็เป็นได้

และนั่นก็จะทำให้ Google เสียโอกาส ในการเข้าถึงอุปกรณ์ต่าง ๆ ของ Apple จำนวนหลักพันล้านอุปกรณ์ ในทันที ซึ่ง Google ก็คงไม่อยากให้เป็นเช่นนั้น

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเข้าถึงอุปกรณ์ “พกพา” อย่าง iPhone และ iPad ที่ในปัจจุบัน การค้นหาสิ่งต่าง ๆ ใน Search Engine กว่า 60% มาจากอุปกรณ์เหล่านี้

อย่างไรก็ตาม แม้ในปัจจุบัน Apple จะยินดี ที่จะรับเงินมูลค่าเกือบ 5 แสนล้านบาท จาก Google เป็นประจำทุกปี แต่ Apple ก็เลือกที่จะ “รักษาสมดุล” ที่จะไม่สนิทสนมกับ Google มากจนเกินไป..

เพราะแม้ Google จะยังเป็น Search Engine เริ่มต้นบนอุปกรณ์ต่าง ๆ ของ Apple ทั้ง iPhone, iPad และคอมพิวเตอร์ Mac

แต่ก็เป็นค่าเริ่มต้นเมื่อผู้ใช้งานค้นหาสิ่งต่าง ๆ ผ่าน Safari เท่านั้น..

เพราะหากเป็นการค้นหาข้อมูลต่าง ๆ ด้วยเสียงผ่าน Siri Apple จะเลือกใช้ Bing เป็น Search Engine ที่ใช้หาข้อมูลแทน

ซึ่งนี่ก็อาจเป็นสัญญาณเตือน ที่ Apple ส่งถึง Google ก็ได้ว่า Apple เอง ก็พร้อมที่จะหา Search Engine รายอื่น ๆ มาทดแทน Google ได้ตลอดเวลา

และจากประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา Apple ก็เคย “หักดิบ” ทิ้ง Google มาแล้วเช่นกัน

ย้อนกลับไปในช่วงก่อนปี 2012 Apple และ Google ได้จับมือกัน ในการติดตั้งแอป YouTube มากับ iPhone ทุกเครื่อง รวมถึงใช้ข้อมูลแผนที่ จาก Google Maps มาแสดงในแอป Maps บน iPhone

จนกระทั่งในท้ายที่สุด Apple ตัดสินใจยุติความร่วมมือที่มีกับ Google ทำให้อุปกรณ์ของ Apple ไม่มีแอป YouTube ติดตั้งมาเป็นพื้นฐานอีกต่อไป
รวมถึงเลิกใช้ข้อมูลแผนที่จาก Google Maps และหันไปพัฒนา Apple Maps ของตัวเองขึ้นมาแทนที่

ทำให้ในปัจจุบัน ผู้ใช้งานอุปกรณ์ Apple จำเป็นที่จะต้องดาวน์โหลดแอปชื่อดังของ Google ด้วยตัวเอง จาก App Store ซึ่งรวมถึง YouTube และ Google Maps ด้วย

แม้ในท้ายที่สุดแล้ว Apple จะไม่ประสบความสำเร็จกับ Apple Maps มากเท่าไรนัก โดยเฉพาะในด้านคุณภาพ ที่ยังสู้ Google Maps ไม่ได้

- Google ต้องกลัว Apple จริงหรือ ?

เมื่ออ่านมาจนถึงตรงนี้ หลาย ๆ คน อาจตั้งคำถามว่า Google จำเป็นต้องกลัว Apple หรือไม่..
หาก Apple ไม่ได้เลือกให้ Google เป็น Search Engine เริ่มต้น อีกต่อไป

ความจริงแล้ว Google อาจไม่จำเป็นต้องกลัว Apple อย่างที่คิด เพราะอย่าลืมว่าในปัจจุบัน Google ครองส่วนแบ่งตลาด Search Engine ไปได้เกิน 90% และเหลือที่ว่างในตลาดให้กับ Search Engine รายอื่น ๆ เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

เช่น Bing ของ Microsoft มีส่วนแบ่งตลาดเพียง 3% เท่านั้น
หรือแม้แต่ Yahoo ที่ในยุคหนึ่ง เคยยิ่งใหญ่ไม่แพ้ Google ก็มีส่วนแบ่งตลาดเพียง 1.25%

นั่นหมายความว่า ในขณะนี้ ผู้คนทั่วโลกเคยชินกับการใช้ Google ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หาก Apple เลือกที่จะใช้ Search Engine รายอื่น ๆ เป็นค่าเริ่มต้น ผู้ใช้อุปกรณ์ Apple ก็อาจเปลี่ยนการตั้งค่า Search Engine ให้กลับมาเป็น Google ด้วยตัวเอง ได้แบบง่าย ๆ อยู่แล้ว

ซึ่งเรื่องนี้ ก็เคยเกิดขึ้นจริง กับ Microsoft ที่เลือกใช้ Bing เป็น Search Engine เริ่มต้น บนระบบปฏิบัติการ Windows ของตัวเอง

แต่ผู้ใช้งาน Windows จำนวนมาก ก็ยังคงหาหนทาง ในการเปลี่ยน Search Engine กลับมาเป็น Google ตามความเคยชินของตัวเองเช่นเดิม

แต่ถึงอย่างไรแล้ว Google คงไม่อยาก “เสียโอกาส” ในการเข้าถึงฐานผู้ใช้งานอุปกรณ์ Apple หลักพันล้านอุปกรณ์ อย่างแน่นอน..

อ้างอิง:
-https://appleinsider.com/articles/21/06/29/apple-is-now-googles-largest-corporate-customer-for-cloud-storage
-https://www.oberlo.com/statistics/how-does-google-make-money
-https://www.theverge.com/2022/1/28/22906071/apple-1-8-billion-active-devices-stats
-https://www.theguardian.com/technology/2012/nov/05/apple-google-maps-iphone-dropped
-https://gs.statcounter.com/search-engine-market-share
-https://9to5mac.com/2021/08/25/analysts-google-to-pay-apple-15-billion-to-remain-default-safari-search-engine-in-2021/
-https://www.thewebmaster.com/what-percentage-of-search-are-mobile/