เอบีม คอนซัลติ้ง เผยผลสำรวจ พฤติกรรมความต้องการซื้อรถ ชาว Gen Z ซึ่งมีค่านิยม ใช้รถไว้โชว์ความรวย ลดลง

เอบีม คอนซัลติ้ง เผยผลสำรวจ พฤติกรรมความต้องการซื้อรถ ชาว Gen Z ซึ่งมีค่านิยม ใช้รถไว้โชว์ความรวย ลดลง

17 ส.ค. 2023
ในเดือนเมษายนปี พ.ศ. 2566 เอบีม คอนซัลติ้ง ได้ทำการสำรวจ โดยมีผู้ตอบแบบสำรวจจำนวน 2,200 คนในประเทศอินโดนีเซียและไทย ซึ่งเป็น 2 ประเทศที่มีตลาดรถยนต์ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ผลการสำรวจพบว่าแม้กลุ่ม Gen Z จะมีความคล้ายคลึงกับผู้บริโภคในเจเนอเรชันอื่น แต่ก็ยังมีความแตกต่างที่เห็นได้ชัดหลายประการ ดังนั้นจึงสามารถคาดการณ์ได้ว่า การจำหน่ายรถยนต์ในอนาคตจะต้องมีการปรับเปลี่ยนเพื่อเอาใจกลุ่มลูกค้ารุ่นใหม่นี้
Gen Z คือประชากรที่ในตอนนี้มีอายุระหว่าง 14 ถึง 26 ปี และเติบโตท่ามกลางยุคที่มีการใช้อินเตอร์เน็ต รวมทั้งโซเชียลมีเดียและสมาร์ตโฟนอย่างแพร่หลาย โดยกลุ่ม Gen Z กำลังเติบโต และไปแทนที่สัดส่วนของจำนวนประชากรผู้ใหญ่ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างรวดเร็ว
คาดว่าจะมีจำนวนถึง 30% ของประชากรทั้งหมดในภูมิภาคภายในปี พ.ศ. 2573 
และเป็นกลุ่มที่มีแนวความคิด และมีค่านิยมที่แตกต่างจากคนรุ่นก่อน ๆ อย่างมาก
โดยเฉพาะถ้าเทียบกับคนในกลุ่ม Gen X (อายุระหว่าง 43 ปี ถึง 58 ปี ในตอนนี้) ที่มองว่าการครอบครองรถยนต์ แสดงถึงสถานะทางสังคมมากถึง 45%
ในขณะที่กลุ่ม Gen Z ในประเทศไทยเพียง 31% เท่านั้นที่มีค่านิยมแบบนี้ และมองว่ารถยนต์เป็นปัจจัยที่มีไว้เพื่อมอบความสะดวกสบาย ให้กับตนเองและครอบครัว มากกว่าจะเอาไว้ใช้แสดงความร่ำรวย
มากไปกว่านั้น ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมก็มีความสำคัญอย่างมากต่อการตัดสินใจซื้อรถของกลุ่ม Gen Z
จากผลสำรวจ “ราคารถยนต์” ยังเป็นปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจเป็นอันดับ 1  
โดย 57% ของผู้ตอบแบบสำรวจ มองว่าราคาเป็นปัจจัยที่สำคัญ
ขณะที่ปัจจัยด้าน “ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม” มีความสำคัญเป็นอันดับ 2 เทียบเท่ากับความสามารถของรถยนต์ด้านการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง โดยอยู่ที่ 24% ของจำนวนผู้ตอบแบบสอบถาม
ซึ่งแตกต่างจากผู้ซื้อในกลุ่มเจเนอเรชันอื่น ที่ให้ความสำคัญกับสภาพแวดล้อมเป็นอันดับที่ 9
มากไปกว่านั้น 68% ของ Gen Z ที่ตอบแบบสอบถามยังแสดงความสนใจต่อยานยนต์พลังงานไฟฟ้ามากขึ้นอย่างมาก เพราะเหตุผลด้านราคาน้ำมัน 
และอีก 43% ยังคำนึงถึงความต้องการที่จะลดผลกระทบจากสิ่งแวดล้อม
นอกจากนี้ยังพบว่า 30% ของผู้ตอบแบบสอบถาม มองเรื่องของเงินสนับสนุนจากภาครัฐก็มีส่วนในการตัดสินใจอย่างมากด้วย
และแม้ Gen Z จะเป็นกลุ่มคนที่คุ้นเคย รวมถึงเชี่ยวชาญการใช้งานช่องทางดิจิทัล 
ผู้ซื้อในกลุ่ม Gen Z จำนวนไม่น้อยที่มีมากถึง 78% ยังชอบการซื้อรถด้วยวิธีการออฟไลน์มากกว่า
ดังนั้นในอนาคต ตัวแทนจำหน่าย จึงยังคงมีบทบาทสำคัญในการซื้อขายรถยนต์อยู่ แต่ก็ควรที่จะพัฒนาวิธีการขายให้ครอบคลุมมากขึ้น
เช่น การเน้นประสบการณ์ขายแบบผสมผสานทุกช่องทางการตลาดที่รวมทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์เข้าด้วยกัน (Omnichannel) การใช้วิธีการสื่อสารทางการตลาดที่ปรับให้เหมาะกับแต่ละบุคคล และเพิ่มการมีส่วนร่วมกับลูกค้าให้มากขึ้น
ทั้งนี้ ผลการสำรวจของ เอบีม คอนซัลติ้ง แสดงให้เห็นถึงพลวัตที่กำลังเปลี่ยนแปลงไป ของการเป็นเจ้าของรถยนต์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีเหตุปัจจัยมาจากรสนิยมและความชอบของผู้ซื้อใน Gen Z เป็นหลัก
ซึ่งข้อมูลเชิงลึกที่ได้นี้จะช่วยให้ OEMs ผู้จำหน่าย และตัวแทนจำหน่าย สามารถปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ได้อย่างทันท่วงที เพื่อให้สอดคล้องกับกลุ่มผู้ซื้อใหม่ที่มีอิทธิพลมากขึ้น และสร้างรากฐานสำหรับตลาดยานยนต์ที่จะเติบโตยิ่งขึ้นต่อไปในอนาคต
—-----------------------------
สามารถหากดูข้อมูลเพิ่มเติม หรือผลการสำรวจโดยละเอียด 
ติดต่อ เอบีม คอนซัลติ้ง ที่เว็บไซต์ https://www.abeam.com/th/en
© 2024 Marketthink. All rights reserved. Privacy Policy.