Facebook รายได้-กำไร โตไม่หยุดในไตรมาสล่าสุด และมียอดผู้ลงโฆษณาเพิ่ม
30 ต.ค. 2020
Facebook ได้ประกาศผลประกอบการไตรมาสล่าสุด (ก.ค - ก.ย. 2020)
ซึ่งรายได้และกำไร ยังโตต่อเนื่อง แต่ผู้ใช้งานต่อวัน (DAUs) ในสหรัฐฯ และ แคนาดา ลดลงเล็กน้อย
ซึ่งรายได้และกำไร ยังโตต่อเนื่อง แต่ผู้ใช้งานต่อวัน (DAUs) ในสหรัฐฯ และ แคนาดา ลดลงเล็กน้อย
-รายได้รวม 668,790 ล้านบาท เติบโต 22% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
โดยแบ่งเป็น
รายได้จากค่าโฆษณา 661,034 ล้านบาท (98.8%)
และรายได้อื่น (เช่น รายได้จากการขายอุปกรณ์ VR Oculus) อีก 7,756 ล้านบาท (1.2%)
รายได้จากค่าโฆษณา 661,034 ล้านบาท (98.8%)
และรายได้อื่น (เช่น รายได้จากการขายอุปกรณ์ VR Oculus) อีก 7,756 ล้านบาท (1.2%)
-กำไรสุทธิ 244,403 ล้านบาท เติบโต 29% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
ส่วนในด้านผู้ใช้งานของ Facebook
-มียอดผู้ใช้งานต่อวัน (Daily active users) 1,820 ล้านบัญชี เพิ่มขึ้น 12%
-มียอดผู้ใช้งานต่อเดือน (Monthly active users) 2,740 ล้านบัญชี เพิ่มขึ้น 12% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
-มียอดผู้ใช้งานต่อเดือน (Monthly active users) 2,740 ล้านบัญชี เพิ่มขึ้น 12% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
สำหรับยอดผู้ใช้งานต่อวัน ของทั้งเครือ Facebook (นับรวม Messenger, WhatsApp และ Instagram)
อยู่ที่ 2,540 ล้านบัญชี เพิ่มขึ้น 15%
และผู้ใช้งานต่อเดือน อยู่ที่ 3,210 ล้านบัญชี เพิ่มขึ้น 14% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
อยู่ที่ 2,540 ล้านบัญชี เพิ่มขึ้น 15%
และผู้ใช้งานต่อเดือน อยู่ที่ 3,210 ล้านบัญชี เพิ่มขึ้น 14% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
พอเห็นแบบนี้ ก็คงบอกได้ว่า กระแส “บอยคอตต์” หรือคว่ำบาตรการลงโฆษณาบนแพลตฟอร์ม Facebook (รวมถึงแพลตฟอร์มในเครืออย่าง Instagram) ของแบรนด์ใหญ่ๆ หลายแบรนด์ ไม่ได้กระทบต่อการเติบโตของรายได้ Facebook มากนัก
เนื่องจาก ณ สิ้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา Facebook มียอดผู้โฆษณากับแพลตฟอร์ม (Active advertisers) รวมทั้งสิ้นประมาณ 10 ล้านบัญชี ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 9 ล้านบัญชี ในเดือนกรกฎาคม แต่บริษัทที่ประกาศคว่ำบาตรการลงโฆษณาบน Facebook มีแค่ประมาณ 1,000 กว่าบัญชีเท่านั้น
แต่ที่เรื่องที่น่าสนใจคือในไตรมาสนี้
ยอดผู้ใช้งานต่อวัน (Daily active users)ในสหรัฐฯ และแคนาดา เท่ากับ 196 ล้านคน ซึ่งลดลงจาก 198 ล้านคน จากไตรมาสก่อนหน้า
ยอดผู้ใช้งานต่อวัน (Daily active users)ในสหรัฐฯ และแคนาดา เท่ากับ 196 ล้านคน ซึ่งลดลงจาก 198 ล้านคน จากไตรมาสก่อนหน้า
โดย มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก CEO ของ Facebook ได้ให้เหตุผลว่า เป็นเพราะปัจจัยความไม่แน่นอนหลายอย่างในช่วงการระบาดของ COVID-19
ซึ่งปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ยอดผู้ใช้งานในสองประเทศนี้ลดลง ก็อาจเป็นเพราะกระแสความไม่พอใจในการที่ Facebook ค่อนข้างนิ่งเฉยกับโพสต์ที่แสดงออกถึงความรุนแรง ในช่วงที่เกิดกระแส #Blacklivesmatterซึ่งทำให้ผู้ใช้งานบางส่วน อาจหยุดการใช้งาน Facebook ไปก็เป็นได้
มาร์ก ยังบอกในรายงานอีกว่า
ไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ (ต.ค. - ธ.ค. 2020) รวมถึงปี 2021 ที่กำลังจะมาถึง
Facebook มีปัจจัยแห่งความไม่แน่นอนอีกหลายอย่างที่ต้องเผชิญ
ไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ (ต.ค. - ธ.ค. 2020) รวมถึงปี 2021 ที่กำลังจะมาถึง
Facebook มีปัจจัยแห่งความไม่แน่นอนอีกหลายอย่างที่ต้องเผชิญ
อย่างเช่น การเปิดตัวเวอร์ชันใหม่ของระบบปฏิบัติการ iOS ที่อาจส่งผลกระทบบางประการกับการโฆษณาบนแพลตฟอร์ม
รวมถึงการระบาดของ COVID-19 ที่อาจสร้างความไม่แน่นอนให้กับการดำเนินธุรกิจของลูกค้าที่จะมาใช้บริการโฆษณาบนแพลตฟอร์ม Facebook ด้วย
ซึ่งก็ต้องติดตามกันต่อไป ว่ายักษ์ใหญ่แห่งวงการโซเชียลแพลตฟอร์มรายนี้ จะรับมือกับความท้าทายที่รออยู่ ได้ดีมากน้อยแค่ไหน..
References
-Facebook Reports Third Quarter 2020 Results
-https://www.cnbc.com/.../facebook-fb-earnings-q3-2020.html
-Facebook Reports Third Quarter 2020 Results
-https://www.cnbc.com/.../facebook-fb-earnings-q3-2020.html
Tag:Facebook