สิ่งที่คาดว่า จะได้เห็นจาก “Tesla” ในปีนี้

ในปีที่ผ่านมา Tesla ถือเป็นหนึ่งในบริษัทที่มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด ท่ามกลางวิกฤติโควิด 19
โดยทำกำไรติดกันตลอดทั้งปี และมีราคาหุ้นที่พุ่งขึ้นถึง 700%

ซึ่งในปี 2021 นี้เอง Tesla ก็ไม่หยุดการพัฒนาผลิตภัณฑ์และธุรกิจของตัวเอง
และนี่คือสิ่งที่คาดกันว่า จะได้เห็นจาก Tesla ในปีนี้..

1.Tesla Model S Plaid Plus
เราจะได้เห็น Model S Plaid Plus รุ่นใหม่ มาเปิดตัวในปลายปี 2021 โดยราคาจะอยู่ที่ 139,900 เหรียญ (4.2 ล้านบาท)

ส่วนในเรื่องความแรงจะอยู่ที่ 1,100 แรงม้า และความเร็วจะแตะ 96 กม./ชม. ภายในสองวินาที
และในการชาร์จหนึ่งครั้ง จะวิ่งได้ไกลถึง 836 กม.

2.Tesla Cybertruck
หลายคนคงจะได้เห็นรถกระบะไฟฟ้ารูปทรงอวกาศแบบเหลี่ยมกันมาบ้างแล้ว ซึ่งคุณสมบัติเด่นก็มีมากมาย เช่น ตัวถังที่คงทน มีกระจกกันกระสุน รถสามารถลอยน้ำได้ในช่วงสั้นๆ

โดย Tesla Cybertruck จะเริ่มผลิตรุ่น 3 มอเตอร์ก่อน หลังจากนั้นปลายปีจะผลิตรุ่น 2 มอเตอร์
ส่วนอีกรุ่นคือ มอเตอร์เดียว จะผลิตในปี 2022

3.Tesla Semi
Tesla Semi คือ รถเทรลเลอร์ไฟฟ้า ที่เปิดตัวไปเมื่อปี 2017 โดยมีระยะวิ่ง 805 กม.

และมีเป้าหมายเพื่อต้องการลดการปล่อยมลพิษในอากาศ ซึ่งได้รับคำสั่งซื้อล่วงหน้าแล้ว
ประมาณ 450 คัน จาก Walmart, FedEx, DHL และบริษัทอื่นๆ

4.Tesla Roadster
Tesla Roadster เป็นรถสปอร์ตไฟฟ้า ที่เปิดตัวเมื่อปี 2017 มีความเร็ว 402 กม./ชม. และมีระยะวิ่ง 998 กม. โดยมีแผนจะผลิตในโรงงาน Giga Texas แต่ต้องรอคิวหลังจาก Cybertruck และ Semi

ซึ่งก็มีคาดการณ์กันว่า ความหวังที่จะได้เห็น Roadster ในปีนี้นั้น มีโอกาสน้อยมาก

5.เปิดโรงงาน Gigafactory ในเท็กซัส และเบอร์ลิน
Tesla ต้องการขยายตลาดรถยนต์ไฟฟ้าไปยังยุโรป จึงได้เริ่มสร้าง Gigafactory 4 หรือก็คือ Giga Berlin ในเยอรมนี

Gigafactory 5 หรือ Giga Texas จะอยู่ในออสตินรัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐฯ ซึ่งเป็นโรงงานผลิตรถยนต์แห่งที่ 2 ในสหรัฐฯ โดยแห่งแรกอยู่ในฟรีมอนต์ รัฐแคลิฟอร์เนีย
และใน Giga Texas จะใช้เป็นฐานผลิตรถยนต์ Cybertruck และ Model Y ด้วย

6.ราคารถยนต์ของ Tesla จะเริ่มต้น 25,000 เหรียญ (7.5 แสนบาท)
Elon Musk เผยในงาน Battery Day เมื่อปีที่แล้วว่า ใน 3 ปีข้างหน้า Tesla จะสามารถขายรถยนต์ไฟฟ้าราคาเริ่มต้นที่ 25,000 เหรียญ หรือ 750,000 บาท

โดยตอนนี้ Tesla กำลังอยู่ในขั้นศึกษา ทดลอง และพัฒนาประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น และมีต้นทุนถูกลง

7.เทคโนโลยีไร้คนขับเต็มรูปแบบของ Tesla
เทคโนโลยีรถยนต์ไร้คนขับของ Tesla ได้พัฒนาจนถึงขั้นขับจาก San Francisco ไปถึง Los Angeles ที่รวมระยะทางราว 600 กม. ได้แล้ว

และ Elon Musk ยังกล่าวอีกว่า จะทำให้ปลอดภัยกว่ามนุษย์ขับเองอย่างน้อย 100% โดยจะทำให้เสร็จสิ้นภายในปี 2021

8.โมเดล S และ X มีพวงมาลัยเป็นทรงสี่เหลี่ยม
ในโมเดล S และ X จะมีการปรับพวงมาลัย ให้เป็นทรงสี่เหลี่ยม ดีไซน์คล้ายกับผีเสื้อ
และเรียกว่า “Yoke Steering”

ซึ่งมาจากคำว่า Yoke ที่เป็นชื่อเรียกจอยบังคับเครื่องบินจำลอง ที่เอาไว้ใช้ต่อกับ PC สำหรับเล่นเกมขับเครื่องบิน

9.Tesla เปิดศูนย์บริการเพิ่มเติม
โดยปกติ Tesla จะเน้นขายรถยนต์ผ่านออนไลน์เป็นหลัก ไม่ได้เน้นการเปิดโชว์รูมตัวแทนจำหน่ายเหมือนบริษัทรถยนต์เจ้าอื่นๆ ดังนั้นเมื่อรถมีปัญหา หรือเสียหาย ก็จะยุ่งยากในการซ่อม และเปลี่ยนอะไหล่

ทำให้ Tesla มีแผนที่จะเปิดศูนย์บริการสัปดาห์ละ 1 แห่ง ตลอดทั้งปี
และคาดว่าปี 2021 จะมีศูนย์บริการของ Tesla ในสหรัฐฯ มากกว่า 50 แห่ง

10. ขยายตลาดเพิ่ม โดยเฉพาะเอเชีย
นอกจากประเทศจีนแล้ว Tesla ยังมีแผนว่าจะขยายธุรกิจไปยังประเทศอื่นๆ ในเอเชียเร็วๆ นี้อีกด้วย เช่น อินเดีย
โดยคาดว่า จะเริ่มบุกตลาดด้วยรถยนต์รุ่น Model 3 ซึ่งเป็นรุ่นที่มีราคาถูกที่สุดของ Tesla

แต่อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่แผนคาดการณ์ของ Tesla
ก็ต้องติดตามกันต่อว่า โครงการทั้งหมดนี้ จะเกิดขึ้นก่อนสิ้นปีนี้ ได้จริงหรือไม่..

อ้างอิง :
-https://www.cnet.com/.../tesla-elon-musk-model-s-plaid.../
-https://www.cnet.com/.../elon-musk-full-self-driving.../
-https://www.beartai.com/news/car-news/521199
-https://www.magcarzine.com/tesla-models-2021mc-107/
-https://www.autodeft.com/.../tesla-comfirm-to-build...