“ฟ้าปลาทาน” ข้าวต้มปลาไม่ง้อหน้าร้าน น้องใหม่จาก iberry Group

หลังจากเมื่อปีที่แล้ว iberry Group ซึ่งมีร้านอาหารชื่อดังในเครือมากมาย
อาทิ iberry, กับข้าว’ กับปลา, รส’นิยม, iBERISTA, Café Pla, โรงสีโภชนา และโรงสีริมน้ำ
หันมาจับตลาดข้าวแกง ด้วยการเปิดตัวแบรนด์ใหม่อย่าง “เจริญแกง”
มาพร้อมคอนเซปต์ขายข้าวแกงดิลิเวอรี โดยไม่ต้องมีหน้าร้าน

และล่าสุด​ iberry Group เพิ่งเปิดตัวแบรนด์ใหม่ อย่างข้าวต้มปลา “ฟ้าปลาทาน”
ที่ยังคงคอนเซปต์เดิม คือ เน้นดิลิเวอรี ไม่มีหน้าร้าน เพราะใช้ครัวกลางเป็นฐานทัพกระจายความอร่อย

อ่านมาถึงตอนนี้ หลายคนอาจเต็มไปด้วยคำถามว่า
- ทำไมต้องเป็นข้าวต้มปลา
- แล้วทำไม iberry Group ถึงเลือกเปิดแบรนด์ใหม่
แทนที่จะใส่เมนูนี้เข้าไปในเชนร้านอาหารที่มีอยู่แล้ว
- ที่สำคัญ ข้าวต้มปลาที่พ่วงท้ายด้วยนามสกุล ปลา ไอเบอร์รี่ จะมีทีเด็ดอย่างไร

ก่อนจะไขทุกข้อข้องใจ คุณปลาฉายให้เห็นภาพที่มาของโมเดลทำร้านอาหารแบบไม่มีหน้าร้านก่อนว่า
ต้องการหารายได้เข้ามาชดเชยยอดขายที่หายไป

สิ่งที่คุณปลาทำ คือ นอกจากจะหันมาลุยช่องทางดิลิเวอรีอย่างจริงจัง
ยังมองไปถึงเป้าหมายระยะยาว คือ การมองหาโมเดลธุรกิจใหม่ๆ ที่ไม่ต้องเปิดสาขาในห้าง เพราะไม่รู้ว่าวิกฤติครั้งนี้จะจบเมื่อไร​

ซึ่งหนึ่งในสิ่งที่เธอตัดสินใจทำ คือ การสร้าง Cloud Kitchen ในจุดที่เป็น Strategist Location
ซึ่งก็คือ ใกล้ย่านที่พักอาศัย ออฟฟิศ และมีพื้นที่ให้คนขับรถจอดรอออเดอร์ได้
ที่สำคัญค่าเช่าไม่แพง แต่ค่าเช่าต้องไม่สูงมาก

ปัจจุบัน iberry Group มี Cloud Kitchen อยู่ 3 คือ ทองหล่อ ทาวน์อินทาวน์ และเย็นอากาศ
โดยปีนี้ยังมีแผนจะขยายเพิ่มอีก 2-3 แห่ง
เพื่อรองรับแบรนด์ที่มีแผนว่าจะทยอยเปิดตัวออกมาอีก

ทั้งสามแห่ง จะรองรับแบรนด์ร้านอาหารน้องใหม่ในเครือที่ไม่มีหน้าร้านทั้งหมด
ซึ่งตอนนี้มีพี่ใหญ่ คือ เจริญแกง และ น้องคนรอง คือ ข้าวต้มปลาฟ้าปลาทาน​​
ส่วนเหตุผลว่าทำไมต้องขายข้าวต้มปลา คุณปลาบอกว่ามาจากอินไซต์ที่เจอกับตัว

“พอมาทำเจริญแกง ทำให้พบว่า ร้านข้าวแกงจะขายดีแค่ช่วงกลางวัน
พอช่วงเย็นถึงค่ำ ออเดอร์จะน้อย
เพราะคนส่วนใหญ่ติดภาพว่าร้านข้าวแกง ทำทีเดียวขายตั้งแต่เช้าถึงเย็น
เลยไม่มั่นใจว่า ถ้าสั่งช่วงเย็น แล้วคุณภาพของอาหารจะดีเหมือนเดิมหรือเปล่า”

จากจุดนี้ เลยจุดประกายให้ลองหาเมนูอะไรที่ตอบโจทย์ลูกค้าในมื้อเช้าหรือมื้อดึก
เพื่อเพิ่มยอดขาย และยังเป็นการสร้างงานและรายได้ให้กับพนักงานที่มีอยู่

อีกเหตุผลสำคัญ คือ ถ้าลองไปสำรวจตลาดจะพบว่า ร้านข้าวต้มปลาในกรุงเทพฯ ที่มาทำดิลิเวอรีเต็มรูปแบบยังมีน้อย
เพราะส่วนใหญ่ ถ้าเป็นร้านดั้งเดิม หรือเจ้าดัง ก็ต้องไปกินที่ร้าน ซึ่งอาจไม่ตอบโจทย์สถานการณ์ตอนนี้

ทั้งหมดนี้ จึงกลายเป็นที่มาของ ข้าวต้มปลาฟ้าปลาทาน
ซึ่งหลายคนอาจไม่รู้ว่า ข้าวต้มปลาเป็นเมนูที่ไม่เคยวางขายในร้านอาหารของ iberry Group
มาก่อน
แต่เป็นเมนูที่คุณปลาชื่นชอบ และมั่นใจว่าพัฒนาสูตรมาจนถูกปากคนชิมอย่างแน่นอน

ด้วยรสชาติที่ไม่เหมือนใคร ตั้งแต่น้ำจิ้มเต้าเจี้ยวสูตรพิเศษ กรรมวิธีการปรุงน้ำซุป
ความสดของปลาที่เสิร์ฟ มีทั้งปลากะพง ปลาเก๋า และปลาจาระเม็ดทอง

ไปจนถึงการดิลิเวอรี ที่คิดมาอย่างดีว่าทำอย่างไร ให้ลูกค้าได้ความอร่อยเหมือนมากินที่ร้าน
เพราะนอกจากจะแยกข้าวต้ม เครื่องเคียง น้ำซุป ยังมีวิธีการอุ่นให้ลูกค้าทำตาม

นอกจากเมนูข้าวต้มปลา ยังมีข้าวต้มหมู และลวกจิ้มทะเลเป็นทางเลือก
โดยราคาข้าวต้มปลาเริ่มต้นที่ 129-339 บาท

ส่วนที่มาของชื่อ ฟ้าปลาทาน ที่จำง่าย แถมฟังแล้วสะดุดหู
คุณปลา บอกว่า เป็นชื่อที่ภูมิใจนำเสนอเพราะคิดเอง ตั้งเอง​
แถมยังมีชื่อ “ปลา” อยู่ในชื่อแบรนด์ตามที่ตั้งใจ

โดยเธอตั้งใจว่า อยากให้ฟ้าปลาทานเป็นแบรนด์ที่อยู่ในใจลูกค้า
คิดถึงข้าวต้มปลาเมื่อไร ต้องนึกถึง ฟ้าปลาทาน

นี่จึงเป็นเหตุผลให้คุณปลาเลือกที่จะสร้างแบรนด์ใหม่
แทนที่จะรวมข้าวต้มปลา เป็นอีกเมนูในร้านอาหารที่มีอยู่แล้ว

ทั้งนี้คุณปลายังทิ้งท้ายด้วยว่า หลังจากเปิดมาได้เกือบสัปดาห์ กระแสตอบรับค่อนข้างดี
ทำให้มั่นใจว่า สิ่งที่คิดเป็นไปได้จริงๆ

และต่อจากนี้ คงจะมีแบรนด์ใหม่ๆ ออกมาเรื่อยๆ
โดยจะโฟกัสที่แบรนด์อาหารเป็นหลักก่อน
เพราะมองว่า อาหารเป็น 1 ในปัจจัย 4 ที่ทุกคนต้องกิน
ไม่เหมือนขนมที่จะกินหรือไม่กินก็ได้ ที่สำคัญยังมีข้อจำกัดในการดิลิเวอรีมากกว่า

จากนี้ คงต้องจับตาดูว่า ผู้หญิงเก่งแห่งวงการอาหารบ้านเรา จะมีแบรนด์อะไรใหม่ๆ มาให้ได้ลิ้มรส และเปิดประสบการณ์ใหม่กันอีก..