SCB ชู 3 กลยุทธ์ รุกตลาด Private Banking ตั้งเป้า 3 ปี มีทรัพย์สินที่บริหาร ทะลุ 1 ล้านล้านบาท

เพราะเห็นเทรนด์การเติบโตของกลุ่มลูกค้าเวลธ์ ทำให้ธนาคารไทยพาณิชย์ เดินหน้ากลยุทธ์เพื่อผลักดันธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง (Wealth Management)
ซึ่งเป็นหนึ่งในธุรกิจสำคัญ ที่จะช่วยสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับธนาคาร และทดแทนรายได้แบบเดิม

คุณสารัชต์ รัตนาภรณ์ ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ เผยถึงภาพรวมการคาดการณ์ตลาดเวลธ์ทั่วโลก ว่า ในปี 2567 มีแนวโน้มเติบโตเฉลี่ยปีละ 7% จากปี 2561โดยเฉพาะในจีนและกลุ่มเอเชียแปซิฟิก

สอดคล้องกับแนวโน้มธุรกิจเวลธ์ในไทย ยังมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง
มีการคาดการณ์ว่า ทรัพย์สินมีโอกาสเติบโตปีละ 5% โดยเฉพาะในกลุ่มบุคคลที่มีความมั่งคั่งระดับสูง (High Net Worth Individuals/ HNWIs) ขึ้นไป

ด้วยเหตุนี้ SCB ซึ่งมีฐานลูกค้าบุคคลมากกว่า 16 ล้านคน และมีฐานเงินฝากติดอันดับ 1 ใน 3 ของประเทศ จึงให้ความสำคัญกับธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง

โดยได้เริ่มแผน Wealth Transformation มาตั้งแต่ปี 2560
จนกระทั่งในปี 2563 สามารถทำผลงานได้อย่างน่าพึงพอใจ​ ทำรายได้โตสวนกระแส ทั้งธุรกิจการลงทุนและธุรกิจประกัน
สร้างผลกำไรให้กับธนาคารกว่า 15% หรือคิดเป็นสัดส่วน 56% ของรายได้ที่มาจากค่าธรรมเนียม

ซึ่งปัจจุบัน SCB Wealth มีฐานลูกค้าจำนวนกว่า 300,000 ราย
แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่
-ลูกค้า SCB Prime มีสินทรัพย์ 2-10 ล้านบาท
-ลูกค้า SCB First มีสินทรัพย์ 10-50 ล้านบาท
-ลูกค้า SCB Private Banking มีสินทรัพย์ 50 ล้านบาทขึ้นไป

ดร.เมธินี จงสฤษดิ์หวัง รองผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน Private Banking ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า แม้ในปี 2563 จะเต็มไปด้วยความท้าทาย
ทั้งความผันผวนของตลาดการเงิน การลงทุนทั่วโลก​ และการแข่งขันในธุรกิจ “Private Banking” ที่ดุเดือด

แต่ SCB Private Banking ยังสามารถทำผลงานได้ดี
มีมูลค่าสินทรัพย์สุทธิที่อยู่ภายใต้การบริหาร (AUM) กว่า 850,000 ล้านบาท
สามารถสร้างผลตอบแทน จากการบริหารพอร์ตการลงทุนให้ลูกค้า ได้สูงถึง 14.9% ในระยะเวลา 1 ปี
ซึ่งเป็นอัตราผลตอบแทนที่สูงกว่าการลงทุนประเภทความเสี่ยงปานกลาง ตามคำนิยามของ AIMC

เพราะฉะนั้น เพื่อสานต่อความสำเร็จ SCB Private Banking วาง 3 กลยุทธ์หลักในการบริหารนับจากนี้

-Investment Solutions for Wealth Preservation
ต่อยอดความมั่งคั่งส่วนบุคคลให้ลูกค้า ด้วยทีมที่ปรึกษาด้านการเงินการลงทุนส่วนบุคคลระดับมืออาชีพ
จัดพอร์ตการลงทุนให้ปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์อย่างทันท่วงที รวมทั้งใช้เครื่องมืออันชาญฉลาดที่เน้นการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก

นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงิน ที่หลากหลายครบวงจร ในรูปแบบ Open Architecture เพื่อเข้าถึงทุกการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ในสินทรัพย์หลากหลายประเภทกว่า 10,000 หลักทรัพย์และกองทุน

ไม่ว่าจะเป็น Public assets หรือ Private assets รวมไปถึงมี Discretionary Portfolio Management เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า

-Business Solutions for Wealth Creation บริการที่ปรึกษาด้านธุรกิจอย่างครอบคลุมรอบด้าน
อาทิ SCB Property Backed Loan สินเชื่อเพื่อใช้ในการบริหารความมั่งคั่ง

-SCB Financial Business Group ผสานความแข็งแกร่งของกลุ่มไทยพาณิชย์
เพื่อเปิดกว้างด้านการลงทุน ครอบคลุมเรื่องธุรกิจ ยกระดับประสบการณ์การบริหารและสร้างความมั่งคั่ง ให้แก่ลูกค้าในทุก ๆ ช่องทาง

ภายใต้กลยุทธ์ดังกล่าว SCB เชื่อมั่นใจว่า​ ภายในสิ้นปี 2566 จะเพิ่ม AUM ให้แตะระดับ 1 ล้านล้านบาท..