Carro แพลตฟอร์มซื้อขายรถยนต์ออนไลน์ ที่เติบโตท่ามกลางวิกฤติ

Carro แพลตฟอร์มซื้อขายรถยนต์ออนไลน์ ที่เติบโตท่ามกลางวิกฤติ

23 มิ.ย. 2021
ใครจะไปคิดว่า เราจะเดินมาถึงจุดที่สามารถตัดสินใจ ซื้อ-ขายรถยนต์ กันผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ได้ด้วยปลายนิ้ว​ ไม่ต่างจากการชอปปิงออนไลน์ซื้อของใช้ทั่วไป
ทั้งที่ในมุมมองของหลาย ๆ คน อาจรู้สึกว่าการซื้อ-ขายรถ เป็นเรื่องใหญ่
ยิ่งถ้าเป็นรถมือสอง หลายคนยิ่งกังวล เพราะกลัวว่าจะโดนหลอก หรือว่าถูกย้อมแมวหรือเปล่า
ด้วยสารพัด Pain Point นี้เอง จึงกลายเป็นที่มาของสตาร์ตอัปสัญชาติสิงคโปร์ ที่ชื่อว่า คาร์โร (Carro)
ผู้ให้บริการซื้อ-ขายรถยนต์มือสอง บนแพลตฟอร์มออนไลน์ ซึ่งเปิดตัวเมื่อปี พ.ศ. 2558
ก่อนจะเข้ามาเปิดให้บริการในประเทศไทย เมื่อปี พ.ศ. 2561
ล่าสุด คาร์โร กลายเป็นที่จับตามอง ในฐานะยูนิคอร์นตัวใหม่ ของประเทศสิงคโปร์
เพราะถูกประเมินมูลค่าบริษัทมากกว่า 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (31,100 ล้านบาท)
และเป็นยูนิคอร์นรายแรกในตลาดซื้อขายยานยนต์ แห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ที่น่าสนใจคือ ในขณะที่หลายธุรกิจ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมรถยนต์ ได้รับผลกระทบหนักจากวิกฤติโควิด 19
แต่คาร์โร กลับได้รับอานิสงส์จากวิกฤติครั้งนี้ไม่น้อย
คำถามคือ ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น ?​
หากประเมินจากรายได้ในภาพรวมของคาร์โร ซึ่งปัจจุบันมีบริการใน 4 ประเทศ
ได้แก่ สิงคโปร์, มาเลเซีย, อินโดนีเซีย และไทย
เมื่อปี พ.ศ. 2563 คาร์โร สามารถทำ​รายได้ 300 ล้านเหรียญสหรัฐ (9,340 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นเป็น 2.5 เท่าจากปีก่อนหน้า
ส่วนผลประกอบการในเมืองไทย ก็ถือว่าเป็นประเทศ ที่มีผลประกอบการโดดเด่น เป็นอันดับ 3 และยังเติบโตได้ดี
คุณอรรณพ “ไมเคิล” เกษตระทัต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คาร์โร (ประเทศไทย) จำกัด
เผยถึงเหตุผล ที่ทำให้เทรนด์การซื้อ-ขายรถยนต์ ผ่านทางแพลตฟอร์มออนไลน์ในไทย มาแรงว่า
มาจาก 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่
-ความกังวลด้านสุขภาพ ทำให้ผู้คนหันมาใช้รถยนต์ส่วนตัว แทนระบบขนส่งสาธารณะ มากขึ้น
-แต่ผู้คนยังคงระมัดระวังในการใช้จ่าย จึงหันมาซื้อรถมือสอง มากกว่ารถป้ายแดง
-สถานการณ์โควิด 19 ทำให้ผู้คนใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังมากขึ้น จึงหันมาทำธุรกรรมออนไลน์กัน และเต็มใจที่จะซื้อรถยนต์ผ่านทางออนไลน์ โดยไม่จำเป็นต้องไปที่โชว์รูมมากขึ้น
ดังนั้น คาร์โร ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ออกแบบมาเพื่อแก้ Pain Point คลายความกังวลในการซื้อรถยนต์มือสอง
ไม่ว่าจะเป็น สภาพรถจะเหมือนที่เห็นหรือไม่, เรามีความรู้พอที่จะซื้อรถมือสองหรือเปล่า ฯลฯ
จึงกลายเป็นอีกหนึ่งทางเลือก ที่ตอบโจทย์ของผู้บริโภค
โดยเฉพาะจุดเด่นในการการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรม AI เข้ามาใช้ในการดำเนินธุรกิจ อาทิ
-เทคโนโลยีสแกนภาพรถ เพื่อดูว่ามีตำหนิ เช่น รอยบุบหรือรอยข่วนที่จุดไหน เพื่อนำไปใช้วิเคราะห์และประเมินราคาของรถได้
-Virtual Viewing ช่วยให้คนซื้อ สามารถดูสภาพรถได้เสมือนจริง แบบ 360 องศา ผ่านหน้าจอ ดูได้ทั้งภายนอกและภายใน เปรียบเสมือนไปโชว์รูปจริง ๆ
-การวิเคราะห์เสียงเครื่องยนต์ เช่น รถยนต์รุ่นปี พ.ศ. 2560 ควรมีเสียงเครื่องยนต์เป็นอย่างไร
แล้วถ้ารถคันนี้ มีเสียงเครื่องยนต์แบบนี้ เทียบกับข้อมูลหลังบ้านที่เรามีแล้ว สะท้อนว่า สภาพเครื่องยนต์คันนี้เป็นอย่างไร
สำหรับแผนการรุกธุรกิจหลังจากนี้ คุณอรรณพ กล่าวว่า
หลายประเทศเริ่มตื่นตัวเรื่องเทรนด์รถไฟฟ้า ซึ่งทางคาร์โร (ประเทศไทย) ได้เริ่มเตรียมความพร้อม ด้วยการจับมือกับพันธมิตร เพื่อพัฒนา AI รองรับการซื้อขายรถมือสอง ที่เป็นรถยนต์ไฟฟ้า
และยังมีแผนจะนำเงิน 360 ล้านเหรียญสหรัฐ (11,200 ล้านบาท) จากการระดมทุนรอบ Series C มาต่อยอดในการพัฒนาเทคโนโลยี AI
เพื่ออำนวยความสะดวกและตอบโจทย์ในเรื่องความโปร่งใส ราคาดี และปลอดภัยในทุกขั้นตอน เพื่อลดความกังวลใจในการเป็นเจ้าของรถยนต์
สามารถทำธุรกรรมซื้อ-ขายรถยนต์มือสองออนไลน์ได้ง่าย สะดวก และรวดเร็วยิ่งขึ้น
รวมไปถึง อนาคตอาจจะมีการบูรณาการฐานข้อมูล จากการเป็นให้ผู้บริการใน 4 ประเทศ เพื่อยกระดับการให้บริการ
© 2024 Marketthink. All rights reserved. Privacy Policy.