
กรณีศึกษา realme สมาร์ตโฟนเพื่อคนรุ่นใหม่ ที่เติบโตแรง จนส่งมอบมือถือได้ร้อยล้านเครื่องทั่วโลก ใน 3 ปี
11 ส.ค. 2021
รู้หรือไม่ ? realme เป็นแบรนด์สมาร์ตโฟนที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก โดยภายในระยะเวลาน้อยกว่า 3 ปี มียอดขายสูงถึง 100 ล้านเครื่อง จากข้อมูลสถิติของ Strategy Analytics บริษัทที่ปรึกษาด้านการวิจัยตลาด
อีกทั้งยังครองตำแหน่งแบรนด์สมาร์ตโฟนที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 7 ของโลก อย่างต่อเนื่องอีกด้วย และ realme ได้กลายมาเป็นผู้เขย่าวงการอุตสาหกรรมสมาร์ตโฟนเป็นที่เรียบร้อย
สำหรับประเทศไทย ตามรายงานการจัดส่งสมาร์ทโฟนทั่วโลกของ Canalys ในไตรมาสที่ 2 ปี 2564 พบว่า realme ติด 1 ใน 5 แบรนด์สมาร์ทโฟนชั้นนำในตลาดประเทศไทยด้วย และหลายคนก็คงจะเห็นกันอยู่แล้วว่า ในอุตสาหกรรมนี้ ก็มีเจ้าตลาดสมาร์ตโฟนยักษ์ใหญ่ครองกันอยู่ไม่น้อย ดังนั้นนี่จึงเป็นตัวเลขที่บอกได้ว่า realme ไม่ใช่แบรนด์สมาร์ตโฟนที่มาเล่น ๆ ในสนามนี้แน่นอน
แล้วกลยุทธ์อะไรบ้าง ที่ทำให้ realme ได้ชื่อว่าเป็นสมาร์ตโฟนเพื่อคนรุ่นใหม่และเติบโตเร็วที่สุดในโลก ?
- realme มุ่งเป้าชัดเจนไปที่คนรุ่นใหม่
ในทุกกระบวนการการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของ realme นั้น จะยึดความต้องการและไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่เป็นหลัก โดยกลุ่มคนรุ่นใหม่มักจะเลือกสิ่งที่ให้ความคุ้มค่ากับพวกเขา ทั้งในด้านความสามารถในการใช้งาน ดีไซน์ และราคาของผลิตภัณฑ์

เมื่อมีกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนว่า “เป็นใคร” และ “ต้องการอะไร”
จึงทำให้ realme ออกแบบทุกผลิตภัณฑ์ได้แบบนำเทรนด์ แต่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้ยอดขายเติบโตได้อย่างรวดเร็ว
จึงทำให้ realme ออกแบบทุกผลิตภัณฑ์ได้แบบนำเทรนด์ แต่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้ยอดขายเติบโตได้อย่างรวดเร็ว
- realme กับเทคโนโลยี AIoT ที่ทำให้การใช้มีประสิทธิภาพ ในราคาที่คุ้มค่า
สมาร์ตโฟนของ realme เน้นพัฒนาให้มีคุณภาพสูงและล้ำสมัยอยู่ตลอด
โดยอาศัยการนำเทคโนโลยี AIoT (Artificial Intelligence of Things) มาใช้
ทำให้ผู้ใช้งานสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โดยอาศัยการนำเทคโนโลยี AIoT (Artificial Intelligence of Things) มาใช้
ทำให้ผู้ใช้งานสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อีกทั้งเทคโนโลยี AIoT นี้ ทำให้การเชื่อมต่อระหว่างสมาร์ตโฟน realme กับผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เป็นไปอย่างราบรื่นไม่มีสะดุด
และมาพร้อมกับดีไซน์ โดดเด่นทันสมัย ซึ่งเมื่อประกอบกับปัจจัยด้านคุณภาพและราคาที่เข้าถึงได้แล้ว ทำให้ชื่อของ realme เข้าไปอยู่ในใจของกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้ไม่ยาก
- realme เน้นทำธุรกิจแบบตัวเบา เพื่อให้เคลื่อนตัวได้ไว
ทาง realme มีโมเดลธุรกิจที่ทำให้การกระจายสินค้าและการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย เป็นไปได้อย่างรวดเร็ว
นั่นก็คือ การเน้นทำธุรกิจและการตลาด ผ่านทางช่องทางออนไลน์มากกว่าการสร้างร้านค้าขนาดใหญ่ เพื่อเป็นการลดขั้นตอนให้กับผู้บริโภคในการซื้อสินค้า
นั่นก็คือ การเน้นทำธุรกิจและการตลาด ผ่านทางช่องทางออนไลน์มากกว่าการสร้างร้านค้าขนาดใหญ่ เพื่อเป็นการลดขั้นตอนให้กับผู้บริโภคในการซื้อสินค้า
และเมื่อแบรนด์มาดูช่องทางออนไลน์โดยตรง การปรึกษาหรือการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ก็จะทำได้ง่ายและรวดเร็วมากขึ้น
และนี่เองจึงทำให้ realme สามารถขยายตลาดไปได้อย่างรวดเร็ว มากถึง 61 ตลาดทั่วโลก และยังเป็นแบรนด์ติด 1 ใน 5 ในตลาดอีก 13 แห่ง เช่น ครองอันดับ 1 ในตลาดฟิลิปปินส์และบังกลาเทศ อันดับ 4 ในตลาดอินเดียและรัสเซีย และอันดับ 5 ในตลาดภูมิภาคยุโรป

- “Dare to Leap” กับแนวคิดการตั้งทีมงาน ที่เต็มไปด้วยคนรุ่นใหม่ไฟแรง
สิ่งสำคัญที่จะทำให้แบรนด์เข้าใจกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้มากพอก็คือ การมีทีมงานที่เป็นคนรุ่นใหม่
เพื่อให้ทุกกระบวนการออกแบบตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ได้อย่างแท้จริง
เพื่อให้ทุกกระบวนการออกแบบตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ได้อย่างแท้จริง
และเมื่อทีมงานทุกคนมีความเข้าใจและเป้าหมายที่ตรงกัน จึงทำให้ realme มีวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่ง ทุกคนกล้าคิดกล้าทำ กล้าที่จะก้าวกระโดดไปข้างหน้า เพื่อฉีกออกจากรูปแบบเดิม ๆ เหมือนสโลแกนที่ว่า “Dare to Leap”
อนาคตของ realme คืออะไร ในอีก 3 ปีข้างหน้า ?
realme ต้องการขยายธุรกิจและส่งมอบสมาร์ตโฟนให้กับผู้ใช้งาน จำนวน 300 ล้านเครื่อง ภายในปี 2566
โดยจะผลักดันให้แบรนด์เติบโต ด้วย 2 กลยุทธ์ที่เป็นเรือธงสำคัญ นั่นก็คือ
1. ขยายกลุ่มลูกค้าไปถึงระดับกลาง-สูง ด้วยผลิตภัณฑ์เรือธง หรือ GT Series ซึ่งได้รับการขนานนามว่า เป็นสมาร์ตโฟน realme ที่ดีที่สุด

โดย realme GT 5G ถือเป็นสมาร์ตโฟนเครื่องแรก ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 12 Beta 1 และซิปเซตล้ำสมัย Snapdragon 888 5G ซึ่งสำหรับประเทศไทย สมาร์ตโฟน GT Series นี้ก็เพิ่งเปิดตัวไปในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
ซึ่งรุ่นดังกล่าว มาพร้อมกับหน้าจอที่ลื่นไหล ซึ่งมีอัตราการรีเฟรช 120Hz
เทคโนโลยีการชาร์จที่รวดเร็ว แบตเตอรี่เต็มภายในเวลา 35 นาที
รวมถึงการออกแบบ ที่ได้รับความร่วมมือจากดีไซเนอร์ระดับโลกอย่าง Naoto Fukasawa
เทคโนโลยีการชาร์จที่รวดเร็ว แบตเตอรี่เต็มภายในเวลา 35 นาที
รวมถึงการออกแบบ ที่ได้รับความร่วมมือจากดีไซเนอร์ระดับโลกอย่าง Naoto Fukasawa
และถึงแม้จะพัฒนาเทคโนโลยีให้ล้ำสมัยไปเพียงใด แต่ realme ก็จะยังคงรักษาระดับราคาให้คุ้มค่ากับผู้ใช้งาน

2. การเจาะไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งานให้มากขึ้น ผ่านกลยุทธ์ “1+5+T”
- 1 หมายถึง สมาร์ตโฟน realme ที่เป็นศูนย์กลางของ AIoT ecosystem ทั้งหมด
- 5 หมายถึง หมวดหมู่ผลิตภัณฑ์ AIoT ของ realme
ประกอบด้วย True Wireless Stereo, อุปกรณ์สวมใส่, โทรทัศน์, ลำโพงอัจฉริยะ และแล็ปท็อป
ประกอบด้วย True Wireless Stereo, อุปกรณ์สวมใส่, โทรทัศน์, ลำโพงอัจฉริยะ และแล็ปท็อป
- T ย่อมาจาก TechLife ซึ่งเป็นการค้นหาพาร์ตเนอร์ ที่มีนวัตกรรมล้ำสมัยจากทั่วโลก เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพทางเทคโนโลยี โดยเน้นไปที่สินค้า 3 หมวดหลัก ๆ ได้แก่ Smart Entertainmentม Smart Care และ Smart Connect
โดยทั้งหมดนี้จะมี realme Link แอปพลิเคชันเชื่อมต่อทุกผลิตภัณฑ์ ซึ่งจะเป็นศูนย์กลางของ realme’s AIoT ecosystem ในอนาคตสินค้าทั้งหมด เพื่อมอบประสบการณ์ AIoT ที่สมบูรณ์ให้กับผู้ใช้งาน
จากเรื่องราวทั้งหมดนี้ เราก็คงจะเห็นแล้วว่า การเริ่มต้นจากแบรนด์เล็ก ๆ จนก้าวมาสู่ความสำเร็จในเวลาอันรวดเร็ว นอกจากจะอาศัยกลยุทธ์ที่แข็งแกร่งแล้ว realme ยังมี “ความกล้า” อยู่ในสัญชาตญาณของตัวเองมาโดยตลอด
ทั้งกล้าเสี่ยง กล้าตัดสินใจ กล้าเผชิญกับอุปสรรค และกล้าที่จะเป็นตัวของตัวเอง
ในเมื่อความ “กล้า” สามารถทำให้ realme ประสบความสำเร็จได้ คุณก็สามารถทำได้เช่นกัน
โดยที่ผ่านมา realme ประเทศไทย ได้ชวนคนรุ่นใหม่ NEXT GEN มาปลดปล่อยความกล้าและความสามารถบนเวทีทั้งด้าน E-Sport การเเข่งขันเต้น ออกแบบเเฟชั่นดีไซน์ รวมถึงกิจกรรมประกวดถ่ายรูปสุดสร้างสรรค์ ตามสโลแกนของแบรนด์อย่าง ‘Dear to Leap’ กล้าที่จะกระโดดและกระโดดไปให้ไกลกว่าจุดที่ยืน ในงาน realme Empower The Next Gen’ Fan Festival
ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง และมีผู้ให้ความสนใจเข้าร่วมกิจกรรมจำนวนอย่างมาก
และล่าสุดในปีนี้ ทางแบรนด์จึงอยากชวนคนรุ่นใหม่ไฟแรงให้กล้าที่จะแสดงออก ในรูปแบบที่เป็นตัวของตัวเอง กับแคมเปน How Dare You Be You
โดยถ่ายภาพ พร้อมบอกเล่าเรื่องราวความกล้าของตัวเองผ่านโซเชียลมีเดีย
โดยถ่ายภาพ พร้อมบอกเล่าเรื่องราวความกล้าของตัวเองผ่านโซเชียลมีเดีย
หากเรื่องราวของผู้กล้าคนไหนโดนใจ จะถูกคัดเลือกให้โปรโมตในปารีส ลอนดอน และบาร์เซโลนา
ใครที่สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางเพจ realmeTH
ใครที่สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางเพจ realmeTH
ไม่แน่ว่า.. คุณอาจเป็น 1 ใน 100 ล้านแฟนคลับของ realme ที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจในความกล้าให้กับคนอีกหลายล้านคนก็เป็นได้
และนี่คือกลยุทธ์สำคัญที่ทำให้ realme เติบโตแรง
เพราะแบรนด์ไม่ได้มีแค่เรื่องของเทคโนโลยีที่ทันสมัย แต่ยังต้องมีความกล้าที่จะเผชิญกับความท้าทายใหม่ ๆ อีกด้วย
เพราะแบรนด์ไม่ได้มีแค่เรื่องของเทคโนโลยีที่ทันสมัย แต่ยังต้องมีความกล้าที่จะเผชิญกับความท้าทายใหม่ ๆ อีกด้วย
และเชื่อว่าจากนี้ ชื่อของ realme ก็จะปรากฏอยู่ในใจลูกค้าได้มากขึ้นอีกเท่าตัว..