นกแอร์ เตรียมรีแบรนด์ จากสายการบินโลว์คอสต์ เป็น พรีเมียมแอร์ไลน์

นายวุฒิภูมิ จุฬางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงความคืบหน้าของแผนฟื้นฟูกิจการ ในวันที่ 4 ส.ค. 2564 ที่ผ่านมา
ว่าเจ้าหนี้มีมติโหวตยอมรับแผนฟื้นฟูกิจการ ด้วยคะแนนเสียง 76.72%
จากจำนวนเจ้าหนี้ 173 ราย รวมมูลหนี้ทั้งสิ้น 5,153 ล้านบาท

และแผนฟื้นฟูของนกแอร์ มีนัดพิจารณาแผนฟื้นฟูโดยศาลล้มละลายกลาง ในวันนี้

สำหรับประเด็นที่น่าสนใจ ที่กล่าวในแผนฟื้นฟู ก็จะมี

-นกแอร์มีแผนที่จะเพิ่มทุน 5 พันล้านบาท ภายใต้ระยะเวลาของแผนฟื้นฟู 5 ปี
โดยใช้วิธีกู้เงินจากสถาบันการเงิน หรือหานักลงทุนรายใหม่เข้ามาร่วมทุน และจะเริ่มทยอยเพิ่มทุนในปีหน้า

ส่วนปีนี้ ยังไม่จำเป็นต้องเพิ่มทุน เพราะมีวงเงินกู้จากผู้ถือหุ้น 3 พันล้านบาท ที่ยังใช้ไม่หมดอยู่ จึงมีสภาพคล่องเพียงพอต่อการดำเนินธุรกิจ ไปจนถึงสิ้นปี

-จะเพิ่มจำนวนเครื่องบิน เฉลี่ยปีละ 2 ลำ เป็นเครื่องโบอิง 737-800 หรือเทียบเท่า

-มีแผนทำการบินสนับสนุนเมืองรอง โดยเฉพาะเบตง รวมถึงสนามบินที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
ด้วยเครื่องบิน Q400 ที่มีความปลอดภัยสูง และมีความสะดวกสบายในการเดินทาง

-ปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ จากสายการบินต้นทุนต่ำหรือ โลว์คอสต์แอร์ไลน์ ก้าวสู่การเป็น “พรีเมียมแอร์ไลน์” ที่มีบริการแบบฟูลเซอร์วิส ภายในปลายปีนี้

โดยใช้จุดแข็งของนกแอร์ เช่น เครื่องบินโบอิง 737-800 ที่มีขนาดที่นั่งและมีที่วางขา กว้างกว่าโลว์คอสต์ทั่วไป ทำให้นั่งแล้วเข่าไม่ติด

และจะมีบริการใหม่ ๆ เหมือนกับสายการบินเต็มรูปแบบ (ฟูลเซอร์วิส) เช่น บริการอาหารร้อน, บริการฟรีน้ำหนักกระเป๋า, บริการเปลี่ยนตั๋วฟรี, สามารถเลือกที่นั่งได้ เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้โดยสาร

รวมทั้งเตรียมเป็นพาร์ตเนอร์ กับร้านอาหารและเครื่องดื่มชื่อดัง อาทิ สตาร์บัคส์ ในการเสิร์ฟเครื่องดื่มให้กับผู้โดยสารบนเครื่องบิน

และบริษัทท่องเที่ยวออนไลน์ (OTA) อย่าง Booking.com และ Agoda เพื่อให้บริการขายตั๋วบินของนกแอร์พ่วงกับโรงแรม เป็นต้น

ด้าน นายธีรพล โชติชนาภิบาล ประธานเจ้าหน้าที่สายการพาณิชย์ ของบริษัท กล่าวเสริมว่า
คาดว่าภายในไตรมาส 4 ปีนี้ ปริมาณการเดินทางสำหรับเส้นทางบินภายในประเทศ จะเริ่มกลับมาเห็นชัดเจนมากขึ้น โดยนกแอร์ ได้เตรียมแผนทำการส่งเสริมการขายเส้นทางท่องเที่ยวในไทยแล้ว

ส่วนเที่ยวบินระหว่างประเทศนั้น คาดว่าช่วงกลางปี 2565 จะเริ่มทำการบินได้
โดยจะเริ่มมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ เดินทางเข้าไทยมากขึ้น
เบื้องต้น อาจจะนำร่องบินตลาดญี่ปุ่น, จีน และรอบ ๆ ภูมิภาคก่อน