Apple ลดกำลังการผลิต iPad ลงกว่าครึ่ง เพื่อเอาชิ้นส่วนไปผลิต iPhone 13 แทน

ล่าสุด ทางบริษัท Apple จำเป็นต้องลดกำลังการผลิต iPad ลง เพื่อเอาชิ้นส่วนอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น ชิป และชิ้นส่วนอื่น ๆ ที่ใช้ทดแทนใน iPhone ได้ ไปใช้ในกระบวนการผลิต iPhone 13 แทน

ซึ่งนี่เป็นหนึ่งในสัญญาณการขาดแคลนชิปที่ทั่วโลกกำลังเผชิญ เพราะแม้แต่บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่าง Apple ก็ยังต้องหันมาบริหารจัดการซัปพลายเชนภายในด้วยเช่นกัน

โดยในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา จากปัญหาด้านการขาดแคลนชิปทั่วโลก
ทำให้ Apple ต้องลดกำลังการผลิต iPad ลงกว่าครึ่งหนึ่ง จากแผนการผลิตเดิม
รวมถึงชิ้นส่วนสำหรับผลิต iPhone รุ่นเก่าบางส่วน ก็จะถูกเปลี่ยนมาผลิต iPhone 13 แทนด้วย

ทั้งนี้ ถึงแม้ว่ากระบวนการผลิต iPhone 13 จะได้รับผลกระทบจากการปิดโรงงานในประเทศจีนชั่วคราวในช่วงที่ผ่านมา และเผชิญกับความท้าทายด้านการขาดแคลนชิปทั่วโลก
สวนทางกับปริมาณความต้องการ iPhone 13 ที่มีเพิ่มขึ้นในช่วงปลายปี
แต่ทาง Apple ก็ยังมีความสามารถในการบริหารจัดการซัปพลายเชนได้ดีกว่าหลาย ๆ บริษัท

เพราะทางบริษัทมีแต้มต่อที่ดีกว่าในเรื่องของกำลังซื้อ และข้อตกลงระยะยาวในการจัดหาชิปกับบริษัทผู้ผลิตและซัปพลายเออร์ต่าง ๆ
ส่งผลให้ Apple สามารถจัดการระบบซัปพลายเชนได้ดี และได้ส่วนแบ่งทางการตลาดมาครองเพิ่มในไตรมาสที่ 3

ส่วนเหตุผลที่ทาง Apple จำเป็นต้องลดกำลังการผลิต iPad และให้ความสำคัญกับการผลิต iPhone 13 ก่อน เนื่องจากมีการคาดการณ์ถึงความต้องการของผู้บริโภคในสมาร์ตโฟน ที่มากกว่า iPad

ซึ่งสาเหตุส่วนหนึ่ง ก็อาจมาจากประเทศฝั่งตะวันตก ที่เริ่มมีการเปิดประเทศและเศรษฐกิจกันมากขึ้นแล้ว ทำให้ความต้องการซื้อ iPad ไม่ได้ร้อนแรงเหมือนในช่วงล็อกดาวน์
ในขณะที่ตอนนี้ ความต้องการใน iPhone 13 โดยเฉพาะรุ่นท็อปอย่าง iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max ในหลายประเทศทั่วโลก กลับมีมากเกินกว่าที่คาดไว้ จนสินค้าขาดตลาด นั่นเอง

อ้างอิง :
-https://www.reuters.com/technology/apple-cuts-ipad-production-feed-chips-iphone-13-nikkei-2021-11-02/
-https://asia.nikkei.com/Business/Tech/Semiconductors/Apple-trims-iPad-production-to-feed-chips-to-iPhone-13