
บอร์ด True และ dtac มีมติอนุมัติให้บริษัท “ควบรวมกิจการ” กัน
22 พ.ย. 2021
ล่าสุด บริษัทผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือรายใหญ่ของประเทศไทยอย่าง True และ dtac ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า
ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท มีมติให้ศึกษาความเป็นไปได้ในการควบรวมบริษัท ระหว่างบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) หรือ Ture และ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จํากัด (มหาชน) หรือ dtac
ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท มีมติให้ศึกษาความเป็นไปได้ในการควบรวมบริษัท ระหว่างบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) หรือ Ture และ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จํากัด (มหาชน) หรือ dtac
และทั้ง 2 บริษัท รับทราบความประสงค์ในการทําคําเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของทั้งบริษัทฯ โดยสมัครใจแบบมีเงื่อนไขก่อนการทําคําเสนอซื้อ (Conditional Voluntary Tender Offer)
โดยรายละเอียดสำคัญของมติที่ประชุมมีดังนี้
ทั้ง 2 บริษัท อนุมัติให้บริษัทฯ ทําการศึกษาความเป็นไปได้ และดําเนินการตามขั้นตอนที่เกี่ยวข้องกับการควบบริษัทระหว่าง True และ dtac ภายใต้บทบัญญัติของพระราชบัญญัติบริษัท มหาชนจํากัด พ.ศ. 2535 (รวมทั้งที่ได้แก้ไขเพิ่มเติม)
และอนุมัติให้เข้าทําบันทึกความตกลงเบื้องต้นแบบไม่มีผลผูกพัน (Non-Binding Memorandum of Understanding) (MOU) ระหว่างกัน เพื่อบันทึกความประสงค์ของคู่สัญญาในการพิจารณาและศึกษาการรวมธุรกิจระหว่าง True และ dtac เข้าด้วยกันด้วยวิธีการควบบริษัท (Amalgamation) รวมถึงกําหนดเงื่อนไขบังคับก่อนของการควบบริษัท ซึ่งรวมถึง (แต่ไม่จํากัดเพียง)
-True และ dtac ทําการตรวจสอบกิจการ (Due Diligence) ของอีกฝ่ายหนึ่งแล้วเสร็จเป็นที่พอใจ
-ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทและที่ประชุมผู้ถือหุ้นของ True และ dtac ได้พิจารณาและมีมติอนุมัติการควบบริษัท
-True และ dtac สามารถดําเนินการให้เงื่อนไขอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องสําเร็จครบถ้วนตามที่ที่ประชุม, คณะกรรมการบริษัทและที่ประชุมผู้ถือหุ้นของ True และ dtac จะได้พิจารณากําหนดต่อไปในการพิจารณาอนุมัติการควบบริษัทและในการเข้าทําสัญญาควบรวมกิจการสําหรับการควบบริษัทระหว่าง True และ dtac
นอกจากนี้ ทั้ง 2 บริษัทได้พิจารณากําหนดอัตราการจัดสรรหุ้น (Swap Ratio) สําหรับการจัดสรรหุ้นในบริษัทใหม่ที่เกิดจากการควบบริษัท ให้แก่ผู้ถือหุ้นของ True และผู้ถือหุ้นของ dtac ในอัตราส่วนดังนี้
1 หุ้นเดิมใน True ต่อ 2.40072 หุ้นในบริษัทใหม่
1 หุ้นเดิมใน dtac ต่อ 24.53775 หุ้นในบริษัทใหม่
1 หุ้นเดิมใน dtac ต่อ 24.53775 หุ้นในบริษัทใหม่
โดยอัตราการจัดสรรหุ้นข้างต้น กําหนดขึ้นจากสมมุติฐานว่า ภายหลังการควบบริษัท
บริษัทใหม่จะมีหุ้นที่ออกและจําหน่ายแล้วทั้งหมดจํานวน 138,208,403,204 หุ้น โดยมีมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท
บริษัทใหม่จะมีหุ้นที่ออกและจําหน่ายแล้วทั้งหมดจํานวน 138,208,403,204 หุ้น โดยมีมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท
อย่างไรก็ตาม จํานวนหุ้นที่ออกและจําหน่ายแล้วทั้งหมดและมูลค่าที่ตราไว้ของหุ้นของบริษัทใหม่ภายหลังการควบบริษัท จะมีการเสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นร่วมของ True และ dtac พิจารณาอนุมัติตามขั้นตอนของการควบบริษัทต่อไป
ทั้งนี้ การควบบริษัทและการจัดสรรหุ้นในบริษัทใหม่ให้แก่ผู้ถือหุ้นของ True และผู้ถือหุ้นของ dtac ตามอัตราการจัดสรรหุ้นดังกล่าวข้างต้น จะเกิดขึ้นต่อเมื่อ True และ dtac พิจารณาที่จะดําเนินการควบบริษัทต่อไปโดยได้รับการอนุมัติที่เกี่ยวข้องจากที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทและที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัท
ตลอดจนสามารถดําเนินการให้เงื่อนไขและขั้นตอนตามกฎหมายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการควบบริษัทตามที่ กําหนดไว้ใน พ.ร.บ. บริษัทมหาชน, กฎหมาย และกฎเกณฑ์อื่น ๆ สําเร็จลงอย่างครบถ้วน
ในส่วนของความประสงค์ที่จะทําคําเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของ True และ dtac โดยสมัครใจแบบมีเงื่อนไขก่อนการทําคําเสนอซื้อ
จะมีราคาเสนอซื้อหุ้นของ True หุ้นละ 5.09 บาท
และจะมีราคาเสนอซื้อหุ้นของ dtac หุ้นละ 47.76 บาท
จะมีราคาเสนอซื้อหุ้นของ True หุ้นละ 5.09 บาท
และจะมีราคาเสนอซื้อหุ้นของ dtac หุ้นละ 47.76 บาท
โดยการควบรวม 2 กิจการผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือยักษ์ใหญ่ของประเทศไทยอย่าง dtac และ True เข้าด้วยกัน
จะช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน, ลดต้นทุนการดำเนินงาน และทำให้เกิดการ Synergy ระหว่างธุรกิจ
ซึ่งดีลนี้ก็จะมีมูลค่ากว่า 250,000 ล้านบาท
จะช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน, ลดต้นทุนการดำเนินงาน และทำให้เกิดการ Synergy ระหว่างธุรกิจ
ซึ่งดีลนี้ก็จะมีมูลค่ากว่า 250,000 ล้านบาท
และอาจทำให้เกิดการเปลี่ยนตำแหน่งของผู้นำในตลาดโทรคมนาคมไทย
เพราะอย่างที่รู้กันว่า ปัจจุบัน AIS เป็นผู้นำอยู่
โดย AIS มีฐานผู้ใช้งานกว่า 43.7 ล้านเลขหมาย
เพราะอย่างที่รู้กันว่า ปัจจุบัน AIS เป็นผู้นำอยู่
โดย AIS มีฐานผู้ใช้งานกว่า 43.7 ล้านเลขหมาย
ในขณะที่ True มีฐานผู้ใช้งานอยู่ 32.0 ล้านเลขหมาย
และ dtac มีฐานผู้ใช้งานอยู่ 19.3 ล้านเลขหมาย
ซึ่งหาก True และ dtac ควบรวมกิจการกัน ก็จะมีฐานผู้ใช้งานรวมกันคร่าว ๆ ถึง 51.3 ล้านเลขหมาย
และ dtac มีฐานผู้ใช้งานอยู่ 19.3 ล้านเลขหมาย
ซึ่งหาก True และ dtac ควบรวมกิจการกัน ก็จะมีฐานผู้ใช้งานรวมกันคร่าว ๆ ถึง 51.3 ล้านเลขหมาย
ส่วนในแง่ของรายได้นั้น ช่วง 9 เดือนแรกปี 2564
AIS มีรายได้อยู่ 132,020 ล้านบาท
AIS มีรายได้อยู่ 132,020 ล้านบาท
ในขณะที่ True มีรายได้ 103,177 ล้านบาท
และ dtac มีรายได้ 59,855 ล้านบาท
หากรวมรายได้ของทั้ง 2 บริษัทเข้าด้วยกัน จะมีรายได้ถึง 163,032 ล้านบาท
และ dtac มีรายได้ 59,855 ล้านบาท
หากรวมรายได้ของทั้ง 2 บริษัทเข้าด้วยกัน จะมีรายได้ถึง 163,032 ล้านบาท