เมื่อ ธุรกิจที่เอาใจลูกค้า แบบชอบกินเที่ยวคนเดียว กำลังเนื้อหอม

เรากำลังอยู่ในยุคที่หลายคนเริ่มมองหาอิสระในการใช้ชีวิต และเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น
ทำให้หลายคนกล้าทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการ ไม่ต้องเดินตามหรือมัวแต่รอใคร
อยากกินอะไรก็ออกไปกิน อยากไปเที่ยวคนเดียวก็จัดทริปลุยเดี่ยว แบกเป้ไปเลย

อีกทั้งจำนวนคนที่แต่งงานมีครอบครัว ก็ลดน้อยถอยลงเรื่อย ๆ
แปลว่า คนโสดที่มีแนวโน้มว่าจะต้องใช้ชีวิตและกินเที่ยวคนเดียว ก็จะมีจำนวนมากขึ้น

และจากเทรนด์ที่หลายคนเริ่มชอบการลุยเดี่ยว และจำนวนคนโสดที่มากขึ้นนี้เอง
จึงทำให้เกิดรูปแบบธุรกิจใหม่ ๆ มากมาย ที่มาตอบโจทย์คนกลุ่มนี้โดยเฉพาะ
เช่น ร้านอาหารสำหรับนั่งกินคนเดียว, บ้านเช่าสำหรับคนโสด
ไปจนถึงร้านคาราโอเกะ สำหรับคนที่อยากร้องเพลง แต่ว่ามาคนเดียว

แล้วตลาดที่รองรับคนชอบกินเที่ยวคนเดียวนี้ เนื้อหอมแค่ไหน ?
เราลองมาดูตัวอย่างมูลค่าตลาดของแต่ละธุรกิจ ในประเทศญี่ปุ่น
ประเทศที่ขึ้นชื่อว่า “มีวิกฤติคนโสดรุนแรงที่สุด” กัน

ข้อมูลจาก Yano Research ปี 2020 ระบุว่า

- ร้านอาหารที่รองรับการทานแบบเดี่ยว (Solo Dining Market) มีมูลค่า 2.3 ล้านล้านบาทต่อปี
- กลุ่มนักเดินทางคนเดียวเฉพาะเดินทางในประเทศ (Solo Travelling Market) สร้างมูลค่าได้มากถึง 5 หมื่นล้านบาทต่อปี
- คาราโอเกะสำหรับคนที่มาคนเดียว (Solo Karaoke Market) มีมูลค่า 1.3 หมื่นล้านบาทต่อปี

และสาเหตุที่ทำให้ธุรกิจที่รองรับลูกค้าแบบ Solo ในญี่ปุ่นนั้นมีมูลค่ามหาศาล
เพราะญี่ปุ่นถือเป็นหนึ่งในประเทศที่มีวิกฤติคนโสดค่อนข้างหนัก จากความกดดันเรื่องของเศรษฐกิจและสังคม

โดยข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการของญี่ปุ่น ระบุว่า ในปี 2020 คนญี่ปุ่นมีการแต่งงาน 537,583 คู่ ซึ่งน้อยกว่าปีก่อนหน้า 78,069 คู่ หรือลดลง 12.7%
ซึ่งก็มีแนวโน้มว่าจะลดลงอีกในอนาคต

จากตัวเลขดังกล่าวนี้ จึงทำให้เกิดกลุ่มลูกค้าที่ชอบกินเที่ยวคนเดียวค่อนข้างเยอะ และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีก นั่นเอง

แล้วธุรกิจที่รองรับลูกค้าที่ชอบ Solo เหล่านี้ มีความน่าสนใจอะไรบ้าง ?

1. ลูกค้าที่มาเดี่ยว จะใช้เวลาในร้านน้อยลง ทำให้มีโต๊ะหมุนเวียนได้มากขึ้น

โดยปกติหากร้านอาหารที่มีโต๊ะสำหรับครอบครัวหรือคนที่มาเป็นกลุ่ม จะมีประมาณ 4 ที่ขึ้นไป จึงมักจะใช้เวลาหมุนเวียนต่อโต๊ะค่อนข้างนาน เฉลี่ย 1-2 ชั่วโมงต่อโต๊ะ

เพราะการที่ลูกค้ามากันเป็นกลุ่ม จะใช้เวลาในการสั่งอาหารให้คนทุกคนที่ค่อนข้างนาน และยิ่งสั่งเยอะก็ต้องรออาหารที่จะมาเสิร์ฟ ด้วยระยะเวลาที่นานขึ้นไปอีก

และช่วงเวลามื้ออาหาร ก็ถือเป็นมื้อสำคัญของใครหลายคน เพราะเป็นช่วงเวลาที่จะได้นัดพูดคุยสังสรรค์
ทำให้ลูกค้าต้องมีการกินไปคุยไป ก็ยิ่งทำให้การใช้ช่วงเวลาบนโต๊ะอาหารนั้นยิ่งเพิ่มขึ้น

แต่ร้านปิ้งย่างข้อสอบชื่อดังในญี่ปุ่น หรือปิ้งย่างแบบนั่งกินคนเดียว ที่ชื่อว่า Yakiniku LIKE
ระบุว่า ลูกค้าที่มากินปิ้งย่างแบบข้อสอบในร้าน ใช้เวลาต่อโต๊ะเพียงแค่ 30-40 นาทีเท่านั้น

ส่งผลให้ลูกค้าคนอื่น ๆ ไม่ต้องรอคิวนาน และทางร้านยังกล่าวว่าสามารถรับลูกค้าในแต่ละวันได้เพิ่มขึ้นอีกด้วย

อีกทั้งทางร้านยังมีการใช้ระบบอัตโนมัติ เพื่อให้ลูกค้าบริการตัวเอง ซึ่งช่วยให้ระบบภายในร้านเป็นไปอย่างรวดเร็ว และลูกค้าก็ได้รับอาหารอย่างรวดเร็ว
รวมถึงช่วยลดต้นทุนค่าแรงงาน จากการจ้างพนักงาน ซึ่งทางร้านก็จะได้นำเงินไปลงทุนกับตัวสินค้า คือ เนื้อที่มีคุณภาพ เพื่อให้ลูกค้าเกิดความประทับใจ

ดังนั้นหากเราอยากทำธุรกิจที่รองรับตลาดแบบ Solo ก็จะต้องคิดดีไซน์โต๊ะ สำหรับรองรับลูกค้าที่ต้องการนั่งเดี่ยว ให้พวกเขาได้รับประสบการณ์ที่ดี และต้องวางระบบภายในร้านให้เกิดความสะดวกรวดเร็วอีกด้วย

2. ร้านจะอยู่รอดง่ายขึ้น แม้ในช่วงวิกฤติโควิด

ในช่วงโควิด 19 ก็จะมีบางบ้านบางครอบครัว ที่ไม่อยากให้ลูกหลานออกมาเที่ยว เพราะห่วงเรื่องความปลอดภัย ทำให้หลายคนยิ่งเจอกับเพื่อนยากขึ้น และจำเป็นที่จะต้องกินดื่มคนเดียว

อีกทั้งยังมีลูกค้าหลายคนที่อยากกินสุกี้หรือเนื้อย่าง แต่ไม่สะดวกใจที่จะแชร์เตากับเพื่อน
การมีโต๊ะปิ้งย่างหรือหม้อไฟแยกเดี่ยว จึงตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มนี้ด้วยเช่นกัน

ซึ่งร้านปิ้งย่างข้อสอบ Yakiniku LIKE ก็ขายดิบขายดี มีคนต่อคิวยาว เติบโตจนขยายสาขาในช่วงโควิด 19 เกือบทั่วเอเชีย รวมถึงไทย
ในขณะที่ร้านอาหารอื่น ๆ ในญี่ปุ่นต้องปิดตัวลงมากมาย จากการที่มีลูกค้าแบบกลุ่มเข้ามาน้อยลง

3. มีกลุ่มลูกค้าที่ชัดเจน และถือเป็นการสร้างจุดเด่นให้กับธุรกิจ

ลองสังเกตกันว่า ร้านอาหารที่รองรับการกินดื่มคนเดียว มักจะเป็นที่นิยมตั้งแต่วันแรกที่เปิดร้าน บางร้านก็เกิดเป็นกระแสในโซเชียลมีเดีย ภายหลังจากเปิดตัวร้านในไม่กี่วัน

เช่น ร้านราเมงข้อสอบ ราเมงแบบมีคอกกั้น, MK สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ ที่มีบาร์สำหรับนั่งทานคนเดียว พร้อมสายชาร์จ USB
รวมไปถึง Yakiniku LIKE ปิ้งย่างแบบเดี่ยวจากญี่ปุ่น ที่เพิ่งมาเปิดสาขาแรกในไทย ก็มีคนต่อแถวกันยาวเหยียดตั้งแต่วันแรก

การที่ร้านเหล่านี้เป็นกระแสฮอตฮิตได้นั้น ก็แปลว่า มีกลุ่มคนที่ชื่นชอบการกินดื่มคนเดียวอยู่ไม่น้อย ในขณะที่ร้านรูปแบบนี้ก็ยังมีไม่เยอะ

ดังนั้นธุรกิจที่เข้าใจอินไซต์ และสามารถสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจให้กับคนโสด หรือคนที่ชอบกินดื่มคนเดียวได้ ก็จะกลายเป็นร้านที่มีจุดขายและเนื้อหอมมาก ๆ นั่นเอง..

อ้างอิง:
-https://www.yanoresearch.com/en/press-release/show/press_id/2418
-https://www.statista.com/statistics/1008135/japan-solo-dining-market-size/
-https://mainichi.jp/english/articles/20210402/p2a/00m/0li/014000c