
ส่อง “การตลาดแบบเกินจริง” ที่หลายแบรนด์ในโลกออนไลน์ชอบใช้กัน
2 ม.ค. 2022
คงปฏิเสธไม่ได้ว่าช่วงนี้หลาย ๆ คน หันมาทำอาชีพเป็นแม่ค้าพ่อค้าออนไลน์กันมากขึ้น
อย่างไรก็ตามการที่ทุกคนหันมาขายของกันหมด ก็ทำให้ตลาดมีการแข่งขันที่สูงขึ้น
หลาย ๆ ร้านจึงใช้กลยุทธ์มากมายในการทำการตลาด เพื่อให้ลูกค้ามาซื้อสินค้า
อย่างไรก็ตามการที่ทุกคนหันมาขายของกันหมด ก็ทำให้ตลาดมีการแข่งขันที่สูงขึ้น
หลาย ๆ ร้านจึงใช้กลยุทธ์มากมายในการทำการตลาด เพื่อให้ลูกค้ามาซื้อสินค้า
และหนึ่งในกลยุทธ์ที่มักจะเห็นได้บ่อย โดยเฉพาะสินค้าพวกสกินแคร์และอาหารเสริม
รวมถึงแบรนด์สินค้าตามอินเทอร์เน็ต ที่มักใช้มาโปรโมตสินค้ากัน
คือ การตลาดหรือโฆษณาแบบเกินจริง
รวมถึงแบรนด์สินค้าตามอินเทอร์เน็ต ที่มักใช้มาโปรโมตสินค้ากัน
คือ การตลาดหรือโฆษณาแบบเกินจริง
อย่างเช่น น้ำยาปลูกผมบางยี่ห้อที่โฆษณาว่า ถ้าใช้แล้ว ผมดกจนถึงขั้นมีขนขึ้นที่หน้า
หรือครีมขัดผิว ที่แค่เพียงการขัดครั้งแรก ผิวก็ขาวขึ้นทันที
หรือครีมขัดผิว ที่แค่เพียงการขัดครั้งแรก ผิวก็ขาวขึ้นทันที
แต่ทั้ง ๆ ที่หลาย ๆ โฆษณาสินค้าจะดูเวอร์เกินจริงมาก จนผู้บริโภครู้สึกตงิดใจ แต่ก็ยังมีคนยอมจ่ายเงินเพื่อซื้อสินค้านั้น ๆ อยู่
แล้วทำไมจึงเป็นแบบนั้น ?
จริง ๆ เรื่องแบบนี้ อาจมีเหตุผลและปัจจัยหลาย ๆ อย่าง มากระตุ้นต่อมนักช็อปของผู้บริโภค เช่น
เหตุผลข้อแรก คือ ความอยากรู้และอยากลอง
หากย้อนกลับไปประมาณ 10 ปีที่แล้ว วิดีโอขายของชิ้นหนึ่งที่ดังมาก ๆ คือวิดีโอที่เป็นผู้ชายคนหนึ่ง
ออกมาขายสินค้าเทปแปะซ่อมของแบบสารพัดประโยชน์ชื่อ Flex Tape
หากย้อนกลับไปประมาณ 10 ปีที่แล้ว วิดีโอขายของชิ้นหนึ่งที่ดังมาก ๆ คือวิดีโอที่เป็นผู้ชายคนหนึ่ง
ออกมาขายสินค้าเทปแปะซ่อมของแบบสารพัดประโยชน์ชื่อ Flex Tape
ซึ่งภายในโฆษณาก็ถึงขั้นบอกว่าเทปนี้สามารถซ่อมเรือที่ขาดออกจากกัน ให้นำกลับมาใช้ต่อได้อีกครั้ง
จนหลายคนเกิดความสงสัยว่า เทปนี้มันสามารถทำได้ถึงขนาดนั้นจริงหรือไม่ และถึงขั้นที่มีรายการทีวี
นำเอาสินค้านี้มาทดลองออกรายการเลยทีเดียว
จนหลายคนเกิดความสงสัยว่า เทปนี้มันสามารถทำได้ถึงขนาดนั้นจริงหรือไม่ และถึงขั้นที่มีรายการทีวี
นำเอาสินค้านี้มาทดลองออกรายการเลยทีเดียว
ที่น่าสนใจคือ แม้โฆษณาในวันนั้นจะเวอร์มาก ๆ จนทำให้สินค้าดูไม่น่าเชื่อถือ
แต่หากมาลองดูรายได้ของบริษัท Flex Seal ที่ขายสินค้า Flex Tape จะพบว่า
ในปี 2019 บริษัทยังคงทำรายได้อยู่ที่ 828 ล้านบาท
แต่หากมาลองดูรายได้ของบริษัท Flex Seal ที่ขายสินค้า Flex Tape จะพบว่า
ในปี 2019 บริษัทยังคงทำรายได้อยู่ที่ 828 ล้านบาท
แม้จะเป็นรายได้ที่รวมกับผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ด้วย แต่ก็แสดงให้เห็นว่า แม้สินค้าจะดูเกินจริง
แต่คนก็พร้อมจะซื้อสินค้าไปทดลอง รวมถึงอาจลองซื้อสินค้าชิ้นอื่น ๆ ของบริษัทด้วยก็ได้
แต่คนก็พร้อมจะซื้อสินค้าไปทดลอง รวมถึงอาจลองซื้อสินค้าชิ้นอื่น ๆ ของบริษัทด้วยก็ได้
เหตุผลข้อที่สอง คือ คำพูดที่ใช้ในการดึงดูดคน
คำที่เรามักจะเห็นบ่อยมาก ๆ โดยเฉพาะในโฆษณาอาหารเสริมที่เกี่ยวข้องกับการลดน้ำหนัก
คือ ทานแล้วน้ำหนักลดลง 3-5 กิโลกรัม ภายในหนึ่งเดือน หรือน้ำหนักลงภายในหนึ่งเดือน เป็นต้น
คำที่เรามักจะเห็นบ่อยมาก ๆ โดยเฉพาะในโฆษณาอาหารเสริมที่เกี่ยวข้องกับการลดน้ำหนัก
คือ ทานแล้วน้ำหนักลดลง 3-5 กิโลกรัม ภายในหนึ่งเดือน หรือน้ำหนักลงภายในหนึ่งเดือน เป็นต้น
ซึ่งคำพูดเหล่านี้ไปสอดคล้องกับหลักจิตวิทยาที่มีชื่อว่า Possibility Effect หรือก็คือ
คนเรามีแนวโน้มจะเชื่อสิ่งที่คนเรามองว่าเป็นไปได้ แม้จะมีโอกาสเล็กน้อย แต่อย่างน้อยก็ยังมีโอกาส..
คนเรามีแนวโน้มจะเชื่อสิ่งที่คนเรามองว่าเป็นไปได้ แม้จะมีโอกาสเล็กน้อย แต่อย่างน้อยก็ยังมีโอกาส..
สำหรับกรณีอาหารเสริมลดความอ้วนก็คือ ถ้าหากเราทานอาหารเสริม อย่างน้อย ๆ
เราก็มีโอกาสที่จะน้ำหนักลง มากกว่าคนที่ไม่ทานอาหารเสริม แม้ว่าหลายคนจะรู้อยู่แล้วว่า
การลดน้ำหนักที่ดีคือ การคุมอาหาร, ออกกำลังกาย แต่ถ้ามีโอกาสที่จะทำให้เราไปสู่เป้าหมายได้เร็วขึ้น
แม้จะจริงหรือไม่จริง บางคนก็พร้อมที่จะจ่ายนั่นเอง
เราก็มีโอกาสที่จะน้ำหนักลง มากกว่าคนที่ไม่ทานอาหารเสริม แม้ว่าหลายคนจะรู้อยู่แล้วว่า
การลดน้ำหนักที่ดีคือ การคุมอาหาร, ออกกำลังกาย แต่ถ้ามีโอกาสที่จะทำให้เราไปสู่เป้าหมายได้เร็วขึ้น
แม้จะจริงหรือไม่จริง บางคนก็พร้อมที่จะจ่ายนั่นเอง
และอีกเหตุผลก็คือ มีรีวิวจากบุคคลอื่น หรือคนที่มีชื่อเสียงมาช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ
ยิ่งในยุคนี้ที่ Influencer Marketing กำลังเป็นการตลาดที่มาแรงมาก ๆ
หลายแบรนด์จึงเลือกพยายามสร้างความน่าเชื่อถือให้กับตนเอง ด้วยการจ้างคนรีวิว
ยิ่งในยุคนี้ที่ Influencer Marketing กำลังเป็นการตลาดที่มาแรงมาก ๆ
หลายแบรนด์จึงเลือกพยายามสร้างความน่าเชื่อถือให้กับตนเอง ด้วยการจ้างคนรีวิว
แน่นอนว่าพอเป็นแบบนี้ มันก็จะมีทั้งรีวิวที่เป็นรีวิวจากผู้ใช้งานจริง แต่ในขณะเดียวกัน
ก็จะมีรีวิวที่เป็นรีวิวที่ถูกจ้างให้ทำขึ้น โดยไม่ใช่ผลลัพธ์จริง ๆ ที่เกิดขึ้นจากการใช้ผลิตภัณฑ์
ก็จะมีรีวิวที่เป็นรีวิวที่ถูกจ้างให้ทำขึ้น โดยไม่ใช่ผลลัพธ์จริง ๆ ที่เกิดขึ้นจากการใช้ผลิตภัณฑ์
และกรณีแบบนี้ก็มีหลายครั้งที่รูปรีวิวจากสินค้าหนึ่ง ถูกนำไปใช้กับอีกสินค้าหนึ่ง
หรือบางครั้งอาจเป็นรูปตัดต่อ จนสร้างความเข้าใจผิดให้ลูกค้าได้เหมือนกัน
หรือบางครั้งอาจเป็นรูปตัดต่อ จนสร้างความเข้าใจผิดให้ลูกค้าได้เหมือนกัน
สรุปแล้ว การตลาดหรือโฆษณาแบบเกินจริง
ในแง่ยอดขายของผู้ขาย การทำการตลาดแบบนี้ อาจช่วยสร้างยอดขายที่ดีได้ในระยะสั้น ๆ
ในแง่ยอดขายของผู้ขาย การทำการตลาดแบบนี้ อาจช่วยสร้างยอดขายที่ดีได้ในระยะสั้น ๆ
แต่ในระยะยาว เมื่อลูกค้าเริ่มรู้ทันถึงสิ่งที่แบรนด์กำลังทำ ก็จะทำให้ไม่สามารถขายสินค้าได้ต่อไป
เนื่องจากเป็นการแสดงถึงความไม่จริงใจที่มีต่อผู้บริโภคนั่นเอง..
เนื่องจากเป็นการแสดงถึงความไม่จริงใจที่มีต่อผู้บริโภคนั่นเอง..
อ้างอิง :
-https://strategencecapital.com/2020/03/13/the-possibility-effect/#:~:text=When%20an%20outcome%20is%20possible,about%20the%20event's%20likely%20outcomes
-https://www.brighttv.co.th/lifestyle/โฆษณาเกินจริง
-https://medium.com/@ameet/the-possibility-effect-why-lotteries-and-insurance-exist-17a636cf3bd6
-https://www.dnb.com/business-directory/company-profiles.flex-seal_couplings_limited.a2b5587b512bb4f224c657600a603a85.html
-https://strategencecapital.com/2020/03/13/the-possibility-effect/#:~:text=When%20an%20outcome%20is%20possible,about%20the%20event's%20likely%20outcomes
-https://www.brighttv.co.th/lifestyle/โฆษณาเกินจริง
-https://medium.com/@ameet/the-possibility-effect-why-lotteries-and-insurance-exist-17a636cf3bd6
-https://www.dnb.com/business-directory/company-profiles.flex-seal_couplings_limited.a2b5587b512bb4f224c657600a603a85.html