Coca-Cola ตั้งเป้า ใช้ขวดที่ใช้ซ้ำได้ 25% ของทั้งโลก หลังโดนเรียกร้องเรื่องขยะพลาสติกอย่างหนัก

Coca-Cola ตั้งเป้า ใช้ขวดที่ใช้ซ้ำได้ 25% ของทั้งโลก หลังโดนเรียกร้องเรื่องขยะพลาสติกอย่างหนัก

11 ก.พ. 2022
ล่าสุด Coca-Cola ผู้ผลิตน้ำอัดลมที่รู้จักกันในชื่อ “Coke” ได้ออกมาประกาศว่า บริษัทตั้งเป้าที่จะเปลี่ยนแพ็คเกจจิง 25% ของสินค้าที่วางขายทั่วโลก ให้เป็นขวดแบบที่นำกลับมาใช้ซ้ำได้อีก (Reusable) ภายในปี 2030
ซึ่งการออกมาประกาศครั้งนี้ เกิดจากองค์กรด้านสิ่งแวดล้อม, นักลงทุน และผู้บริโภคที่การออกมาเรียกร้องให้ Coca-Cola ใส่ใจเรื่องขยะพลาสติกในทะเล ซึ่งกำลังเป็นปัญหาใหญ่ระดับโลก
พอพูดแบบนี้ หลายคนคงสงสัยว่า แล้วทำไมถึงพุ่งเป้าไปที่ Coca-Cola ?
เพราะจากรายงานของ Break Free From Plastic องค์กรด้านสิ่งแวดล้อมระดับโลก ที่ตีพิมพ์ออกมาเมื่อปลายปีที่แล้ว แสดงให้เห็นว่า “Coca-Cola” เป็นบริษัทที่ก่อมลพิษจากขยะพลาสติกที่เลวร้ายที่สุดในโลก 4 ปีติดต่อกัน
โดยจากที่ทาง Break Free From Plastic ได้ออกไปทำความสะอาดทะเลในกว่า 45 ประเทศ และพบขวดพลาสติกของ Coca-Cola กว่า 20,000 ขวด ซึ่งมากกว่าขยะของ PepsiCo และ Unilever รวมกันเสียอีก
ซึ่งจากการที่ Coca-Cola ออกมาเคลื่อนไหวเรื่องนี้แล้ว ทางองค์กร Break Free From Plastic ก็หวังว่าบริษัทอื่น ๆ จะออกมาทำตาม ด้วยการกำหนดการใช้แพ็กเกจจิงแบบใช้ซ้ำได้เช่นกัน
ทั้งนี้ Coca-Cola ระบุว่าแพ็คเกจจิงที่นำกลับมาใช้ซ้ำได้ (Reusable Packaging) คือขวดที่บริษัทหรือผู้บริโภคสามารถเติมผลิตภัณฑ์ (น้ำอัดลม/เครื่องดื่ม) ดั้งเดิมได้
เช่น ภาชนะบรรจุเครื่องดื่ม ทั้งขวดแก้ว และขวดพลาสติก จะต้องสามารถเติมเครื่องดื่มรีฟิลหรือส่งคืนได้
เรื่องนี้นับว่าน่าติดตามต่อไป ว่าบริษัทหรือแบรนด์ใด จะออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมอีกบ้าง เพราะลำพังแค่เพียง Coca-Cola บริษัทเดียว ก็คงจะช่วยอะไรได้ไม่มากนัก
แต่ก็นับเป็นสัญญาณที่ดี ที่จะช่วยสะกิดให้แบรนด์อื่น ๆ หันมาตระหนัก และร่วมเดินบนเส้นทางเดียวกัน..
อ้างอิง:
-https://www.reuters.com/business/sustainable-business/coca-cola-criticized-plastic-pollution-pledges-25-reusable-packaging-2022-02-10/
© 2024 Marketthink. All rights reserved. Privacy Policy.