“ประกันภัย” ยิ่งรู้ไว้ ยิ่งมีประโยชน์

“ประกันภัย” ยิ่งรู้ไว้ ยิ่งมีประโยชน์

15 มี.ค. 2022
เมืองไทยประกันภัย x MarketThink
จากข่าวต่าง ๆ ที่ออกมาในช่วงนี้ ไม่ว่าจะเป็น กรณีไฟไหม้โรงแรมหรู พูลวิลล่าบนเกาะกูด อุบัติเหตุและการถูกทำร้ายร่างกายต่าง ๆ สะท้อนให้เห็นว่า ความสูญเสีย เกิดขึ้นอย่างที่ไม่มีใครคาดคิดไว้ก่อนเสมอ
ดังนั้น การทำประกัน จึงเป็นทางออกที่ช่วยลดความเสี่ยง และสร้างความอุ่นใจให้กับผู้ทำประกันรวมถึงบุคคลใกล้ชิดของผู้ทำประกันได้
แต่หลายคนก็ยังสับสนและแยกไม่ออกว่าระหว่าง “ประกันภัย” และ “ประกันชีวิต” แตกต่างกันอย่างไร ?
อธิบายให้ทุกคนเข้าใจง่าย ๆ เลยก็คือ ประกันจำแนกได้เป็น 2 ประเภท คือ
1) ประกันชีวิต
แปลตรงตัวก็คือ มีหน้าที่ในการคุ้มครอง “ชีวิต”
หมายความว่า ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตของเรา (ผู้เอาประกัน) คนข้างหลัง (ผู้รับประโยชน์) ก็จะได้รับเงินชดเชยตามมูลค่า ที่เรียกว่า “ทุนประกัน” ตามเงื่อนไขที่อยู่ในเล่มกรมธรรม์
แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว ระยะสัญญาของประกันชีวิต จะมีระยะเวลาที่ค่อนข้างยาวนาน เช่น 10 ปี หรือ 20 ปี
2) ประกันภัย
คล้ายกับประกันชีวิต คือ มีหน้าที่รองรับความเสี่ยงของลูกค้า (ผู้เอาประกันภัย) เช่นเดียวกัน
แต่ความพิเศษของประกันภัย คือ ไม่ได้ดูแลแค่ชีวิตของลูกค้าเพียงอย่างเดียว แต่ยังดูแลบ้าน รถยนต์ และทรัพย์สินอื่น ๆ ของลูกค้าอีกด้วย ซึ่งก็จะขึ้นอยู่กับว่า เราซื้อประกันภัยชนิดไหนไว้กับบริษัท
ส่วนระยะเวลาของสัญญาประกันภัย ส่วนใหญ่ก็จะเป็นระยะสั้น ๆ เช่น สัญญาแบบปีต่อปี
ดังนั้น ลูกค้าจึงไม่มีข้อผูกมัดในระยะยาว
และเนื่องจากเป็นสัญญาระยะสั้น ทำให้เบี้ยฯ หรือราคาของประกันภัยไม่แพง และสามารถเข้าถึงคนทุกกลุ่มได้
ถ้าให้นึกถึงบริษัทประกันภัย หลายคนอาจจะนึกถึง เมืองไทยประกันภัย ซึ่งมีสโลแกนติดหู คือ “ยิ้มได้ เมื่อภัยมา”
ความน่าสนใจของ เมืองไทยประกันภัย คือ การใช้แคมเปญ CEO Marketing สะท้อน Personal Branding ของมาดามแป้ง เพื่อตอกย้ำจุดยืนว่า แบรนด์เมืองไทยประกันภัย จะอยู่คู่คนไทยทุกวิกฤติ และมั่นใจได้ว่าการรับประกันของบริษัท จะมีมาตรฐานและอยู่คู่สังคมไทยไปอีกนาน
แล้วเมืองไทยประกันภัย มีผลิตภัณฑ์อะไรบ้าง ?
1) ประกันภัยรถยนต์
แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
- ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.)
- ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ ประเภท 1, 2, 3 และประเภท 5 หรือที่เรารู้จักกันจนชินว่า ชั้น 2+ หรือ 3+ นั่นเอง
ซึ่งแต่ละประเภท ก็จะให้ความคุ้มครองที่แตกต่างกัน ตั้งแต่ตัวรถยนต์ บุคคล รวมไปถึงบางแผนก็จะมีความคุ้มครองพิเศษต่าง ๆ เช่น ทรัพย์สินภายในรถยนต์ อุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ หรือมีบริการให้ยืมใช้รถระหว่างซ่อม ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://bit.ly/355MNRR
2) ประกันภัยอุบัติเหตุ
ให้ความคุ้มครองในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ จากสาเหตุต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น การขับขี่หรือโดยสารรถจักรยานยนต์ หรือจากกิจกรรมต่าง ๆ ครอบคลุมทั้งค่ารักษาพยาบาล คุ้มครองชีวิต คุ้มครองการสูญเสียอวัยวะ หรือบางแผนก็ให้ความคุ้มครองพิเศษ เช่น คุ้มครองรายได้ ในกรณีที่ต้องเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาล ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://bit.ly/3t1wHkk
3) ประกันสุขภาพ
เป็นประกันที่ให้ความคุ้มครองในเรื่องสุขภาพเป็นหลัก ทั้งค่ารักษาพยาบาล ค่าห้องพัก ค่าแพทย์ และค่ายา จากโรคทั่วไป โรคระบาด หรือโรคร้ายแรงต่าง ๆ เช่น โรคมะเร็ง
นอกจากนี้ยังให้ความคุ้มครองรวมไปถึงการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ และกรณีเสียชีวิตหรือสูญเสียอวัยวะอีกด้วย ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://bit.ly/3t1wHkk
4) ประกันอัคคีภัย
หรือเรียกง่าย ๆ ว่า ประกันไฟไหม้ ให้ความคุ้มครองทรัพย์สินต่าง ๆ เช่น ที่อยู่อาศัยและทรัพย์สิน หรือธุรกิจ จากเหตุไฟไหม้, ภัยธรรมชาติ, ลมพายุ, ลูกเห็บ, แผ่นดินไหว และภัยอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งบางบริษัทก็อาจใช้ชื่อต่างกันไป เช่น ประกันภัยที่อยู่อาศัย และประกันภัยทรัพย์สิน ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://bit.ly/36EGyVF
ติดตามผลิตภัณฑ์และบริการของเมืองไทยประกันภัยได้ที่ www.muangthaiinsurance.com
โทร. 1484 หรือเพิ่มเพื่อน @mtifriend ผ่าน LINE https://lin.ee/7n1HGjc
#เชื่อแป้ง #เชื่อเมืองไทยประกันภัย #ให้ใจให้จนสุด
#เมืองไทยประกันภัย #คำไหนคำนั้น
#ยิ้มได้เมื่อภัยมา
© 2024 Marketthink. All rights reserved. Privacy Policy.