ไอยาริน เดวา ผู้หญิงที่มุ่งมั่นนำมวยไทยสู่สังเวียนเทคโนโลยี

“เราได้ติดตามคุณอาตระเวนดูการแข่งขันมวยไทยเวทีต่าง ๆ มาตั้งแต่เด็ก จนกลายเป็นความชอบส่วนตัว
แต่ด้วยความเป็นผู้หญิง จึงไม่ได้มีโอกาสขึ้นฝึกซ้อมหรือขึ้นต่อย
เพราะทางบ้านไม่อนุญาต ได้แค่แอบมาฝึกซ้อมเองที่บ้าน
จนมาวันนี้เราได้สร้างแอปพลิเคชันมวยไทย ไอยาริน ขึ้นมา เพื่อทลายข้อจำกัดในวันนั้น”

ไอยาริน เดวา ผู้ก่อตั้ง บริษัท มวยไทย ไอยาริน จำกัด
เล่าถึงความภูมิใจที่เธอมีต่อแอปฯ มวยไทย ไอยาริน ที่เธอสร้างขึ้นมากับมือ

ความน่าสนใจของเรื่องนี้มันอยู่ที่ว่า กว่าที่เธอจะก้าวมาเป็นเจ้าของแอปฯ มวยไทย ไอยาริน
ที่มียอดดาวน์โหลดกว่า 30,000 ครั้งในเวลาอันรวดเร็ว
ชีวิตของเธอไม่ต่างจากละครเรื่องหนึ่งที่มีครบทุกอรรถรส

คุณไอยาริน เป็นหลานสาวที่ใกล้ชิดกับคุณอาที่ชื่นชอบในกีฬามวยไทย
ด้วยความที่เป็นผู้หญิงตัวเล็ก คุณอาของเธอจึงได้สอนมวยไทยให้เพื่อป้องกันตัว
ซึ่งเธอเองก็ซ้อมอย่างหนักหน่วง ด้วยหัวใจที่รักในมวยไทย
เพียงแต่ที่บ้านกลับไม่ให้เธอขึ้นชกเลยสักครั้งในชีวิต เพราะกลัวจะได้รับบาดเจ็บ

เธอได้แต่เก็บความฝันลงในลิ้นชักความทรงจำ พร้อมกับแต่งงานมีครอบครัว แล้วย้ายไปใช้ชีวิต
ที่เมืองซีแอตเทิล ประเทศสหรัฐอเมริกา

ใครจะคิดว่า นี่คือจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ ที่สานความฝันในวัยเด็กของเธอให้เป็นจริงขึ้นมา

เพราะแม้ธุรกิจที่เธอทำคือ ร้านอาหารในเมืองซีแอตเทิล ซึ่งก็มีรายได้ดี
แต่ในอีกมุมหนึ่ง แฟนของเธอ ซึ่งมีทักษะมวยไทยชั้นสูง
จึงมีอาชีพเสริม เป็นเทรนเนอร์สอนมวยไทยให้ค่ายมวย ในเมืองซีแอตเทิล

โดยคุณไอยาริน มักจะติดตามแฟนไปด้วย เวลาที่ไปสอนมวยไทย
จนทำให้เธอและแฟน เห็นช่องว่างทางธุรกิจของค่ายมวยไทยในเมืองซีแอตเทิลว่า การซ้อมมวยไทยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีในระยะเวลาอันรวดเร็ว ทักษะบางอย่างอาจไม่ต้องซ้อมหนัก

ซึ่งตรงนี้มันมาจากประสบการณ์ในวัยเด็กจนโต ที่มีโอกาสได้คลุกคลีกับการสอนมวยไทยมาตั้งแต่เด็ก
ทำให้ไอเดียที่จะสอนมวยไทยในรูปแบบง่าย ๆ และเกิดผลดีต่อผู้เรียนในเวลาอันรวดเร็วจึงเกิดขึ้น

เธอเลยตัดสินใจขายกิจการร้านอาหาร พร้อมตัดสินใจลงทุนเปิดค่ายมวยชื่อ “ไอยาริน”
โดยนำประสบการณ์ทั้งหมดที่มี มาดัดแปลงเป็นวิธีการสอนมวยไทยในแบบฉบับของตัวเอง
ที่เน้นการฝึกซ้อมในสิ่งที่จำเป็นเท่านั้น และสอนให้ได้ตามหลักการมวยไทยขนานแท้

ผลลัพธ์ที่ได้กลับมาเกินความคาดหมาย เมื่อค่ายมวย ไอยาริน มีผู้เรียนหมุนเวียนมากถึง 300 คนต่อเดือน
ซึ่งเวลานั้นก็เกิดกระแสให้เธอเปิดค่ายมวยสาขาสอง หากคิดที่จะมีรายได้เติบโตกว่าเดิม
แต่.. เธอกลับไม่คิดเช่นนั้น เพราะมองว่าหากเปิดสาขาสองแล้ว คุณภาพการสอนอาจไม่ได้เท่าสาขาแรก
ที่ตัวเธอเองและแฟนเป็นผู้คุม

อีกทั้งต่อให้ขยายสาขาเท่าไร ธุรกิจค่ายมวยก็ยังรองรับผู้เรียนได้จำกัด
ที่สำคัญ เธอต้องการให้ศิลปะมวยไทยที่มีผู้สอนเป็นคนไทย เผยแพร่ไปสู่ชาวไทยและต่างชาติให้มากที่สุด
ทำให้เธอคิดอยู่นานเลยทีเดียวว่าจะต้องใช้วิธีไหน..

คำตอบก็คือ การสร้างแอปฯ สอนมวยไทย เพื่อทำลายข้อจำกัดเรื่องจำนวนผู้เรียน
โดยลูกศิษย์ในค่ายมวยของเธอส่วนใหญ่จะทำงานเกี่ยวกับ Tech ในเมืองซีแอตเทิล
และเรียนมวยไทยเป็นงานอดิเรก จึงได้เข้ามาช่วยกันพัฒนา และระดมไอเดียสร้างแอปฯ

โดยฟีเชอร์ในช่วงเริ่มต้น จะเป็นการสอนมวยไทยผ่านคลิปอย่างละเอียด
มีค่าสมาชิกอยู่ที่ 12.99 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน (ประมาณ 436 บาทต่อเดือน)

ขณะเดียวกัน ก็ยังมีฟีเชอร์การใช้งานที่ไม่ต้องเสียค่าสมาชิกรายเดือน เช่น
- Muaythai Guide เสมือนคลังข้อมูลความรู้ข่าวสารเกี่ยวกับมวยไทยให้แก่ผู้ที่สนใจได้ศึกษา
- Muaythai Timer เอาใจคนรักการฝึกซ้อมโดยเฉพาะแบบไม่มีโฆษณาคั่น

โดยปัจจุบันมียอดดาวน์โหลดกว่า 30,000 ครั้ง และมียอดแอ็กทิฟเกือบ ๆ 80% ซึ่งผู้ใช้ก็จะกระจายอยู่ใน 137 ประเทศทั่วโลก

ทีนี้เมื่อแอปฯ มีกระแสตอบรับดี สิ่งที่เธอคิด คือการเพิ่มฟีเชอร์ใช้งานใหม่ ๆ
เป้าหมายก็เพื่อเป็น Super App ด้านศิลปะมวยไทยอย่างครบวงจร

โดยในไตรมาส 2 ของปีนี้ก็จะมีฟีเชอร์ใหม่ที่เพิ่มเข้ามา เช่น
- Marketplace พื้นที่ซื้อขายสินค้าอุปกรณ์มวยไทย และกีฬาประเภทต่าง ๆ ตลอด 24 ชั่วโมง
- Pay Per View บริการรับชมถ่ายทอดมวยไทยผ่านทางแอปฯ
- Gym Travel บริการซื้อตั๋วเครื่องบินและที่พัก พร้อมค้นหาข้อมูลค่ายมวยไทยในประเทศไทย
- ฟีเจอร์ค้นหางาน เพื่อเพิ่มโอกาสการทำงานให้คนในวงการมวยไทย, Martial arts และ Fitness industrial

อีกทั้งยังมีแผนที่จะมีเมนูต่าง ๆ เป็นภาษาไทย เพิ่มขึ้นในอนาคตอันใกล้

โดยเธอบอกว่า นอกจากโอกาสใหม่ ๆ ในธุรกิจตัวเองแล้วนั้น
การเพิ่มฟีเชอร์การใช้งานครั้งนี้ ยังทำให้วงการมวยไทยที่ต้องเผชิญกับวิกฤติโควิด 19 จนทำให้การแข่งขันในเวทีมวยต่าง ๆ ต้องหยุดชะงักลง ส่งผลให้นักมวยไทยและอาชีพที่เกี่ยวข้องต้องสูญเสียรายได้
โดยแอปฯ ของเธอ ถือเป็นช่องทางสร้างรายได้ใหม่ ๆ ให้แก่คนในวงการมวยไทย ในช่วงวิกฤตินี้อีกด้วย

ส่วนอีกประเด็นที่น่าสนใจ ก็คือการใช้ชีวิตในยุคนี้ คนธรรมดาทั่วไปควรมีทักษะการต่อสู้เพื่อป้องกันตัวจากอาชญากรรมที่คาดไม่ถึง โดยเฉพาะผู้หญิงที่อาจพบเจอกับการคุกคามทางเพศ

ตรงนี้เองที่ทำให้เธอพยายามทำให้ “แอปฯ มวยไทย ไอยาริน” เข้าถึงได้ง่ายที่สุด
เพราะเธอเชื่อว่า “มวยไทย” เป็นศิลปะการป้องกันตัว ที่ไม่แพ้ทักษะการต่อสู้แขนงอื่น ๆ

เพียงแต่สถานการณ์ในปัจจุบันก็ต้องยอมรับว่า ศิลปะมวยไทย กำลังได้รับความนิยมลดลงเรื่อย ๆ ในบ้านเรา
ตรงกันข้ามกับหลาย ๆ ประเทศ ที่มวยไทยได้รับความนิยมสูง และเป็นธุรกิจที่โดดเด่นในบางประเทศ

“ศิลปะมวยไทย คือมรดกล้ำค่าของบ้านเรา คงน่าเสียดายหากวันหนึ่ง เมื่อคนทั่วโลกพูดถึงมวยไทย กลับเป็นประเทศอื่น ๆ ที่โดดเด่นและเหนือกว่า THAILAND”