แสนสิริ ดึงครอบครัว “บีม-กวี” และลูกบ้านแสนสิริ “มะนาว-ศรศิลป์” ร่วมพันธกิจ ‘Sansiri Tree Story’ ปลูกต้นไม้ 90,000 ต้นเพื่อกรุงเทพ
29 มิ.ย. 2022
นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัญหาสิ่งแวดล้อมและสภาวะโลกร้อนเป็นปัญหาที่รอไม่ได้ เพราะส่งผลกระทบต่อชีวิต สุขภาพและสภาวะอากาศแปรปรวนของประเทศไทยและโลกของเรา จึงเป็นที่มาที่แสนสิริมุ่งมั่นสร้างจุดเปลี่ยนด้านสิ่งแวดล้อมด้วยการเป็นอสังหาริมทรัพย์แรกในประเทศไทยที่วางเป้าหมายในการเป็นองค์กรที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (Net-zero) เพื่อสร้างความยั่งยืนในทุกมิติ
ทั้งนี้ ปัญหาโลกร้อนและฝุ่นละอองจากการมีต้นไม้และพื้นที่สีเขียวไม่เพียงพอในกรุงเทพฯ รวมถึงปัญหาฝุ่น PM 2.5 นับเป็นปัญหาวิกฤติที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพและการใช้ชีวิตประจำวันของคนกรุงเทพฯที่ทวีความรุนแรงขึ้นทุกวัน เฉพาะปี 2564 ที่ผ่านมาคนกรุงเทพฯ ต้องสูดฝุ่นควันเท่ากับการสูบบุหรี่ถึง 1,261 มวนต่อปี จึงเป็นที่มาที่แสนสิริขานรับนโยบาย “ปลูกต้นไม้ล้านต้น” เพื่อสร้างพื้นที่สีเขียวและเป็นกำแพงกรองฝุ่นของผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพ คุณชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ด้วยการวางเป้าพันธกิจปลูกต้นไม้ 20,000 ต้นในกรุงเทพฯ ให้ได้โดยเร็วที่สุด
“การปลูกและเก็บรักษาต้นไม้เพื่อสร้างพื้นที่สีเขียวในโครงการให้มากที่สุดเป็นปณิธานในการดำเนินธุรกิจของแสนสิริมาตลอดกว่า 38 ปีนับตั้งแต่การก่อตั้งองค์กร เริ่มต้นจาก ‘Sansiri Tree Story’ โมเดลจัดการพื้นที่สีเขียวและต้นไม้ในโครงการอย่างยั่งยืน ภายใต้จุดยืนในการเก็บ – เลือก – ปลูก – รักษาต้นไม้ใหญ่คู่โครงการ โดยมีพลัส พร็อพเพอร์ตี้ ที่บริหารจัดการโครงการช่วยดูแลรักษาต้นไม้ในโครงการให้เติบโตอย่างยั่งยืนโดยได้รับการฝึกอบรมจากรุกขกรมืออาชีพ เพื่อส่งต่อคุณค่าของต้นไม้ให้อยู่ลูกบ้านแสนสิริและเป็นคุณค่าของพื้นที่สีเขียวที่ส่งมอบต่อไปยังลูกหลานในอนาคตได้
โดยเฉพาะในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา แสนสิริได้ปลูกต้นไม้รวมกว่า 200,000 ต้นในกว่า 100 โครงการของแสนสิริ แบ่งเป็นต้นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่กว่า 12,000 ต้น ที่ช่วยดูดซับคาร์บอนให้โลกได้กว่า 114 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี แม้พันธกิจการปลูกต้นไม้เพื่อกรุงเทพฯ ที่แสนสิริให้ไว้จะอยู่ที่ 20,000 ต้น แต่เราก็เชื่อว่าการปลูกต้นไม้และสร้างพื้นที่สีเขียวให้มากที่สุดไม่เพียงแต่เป็นผลดีต่อลูกบ้านแสนสิริและคนกรุงเทพฯ เท่านั้น แต่ยังช่วยลดภาวะโลกร้อนซึ่งเป็นปัญหาวิกฤติของประชากรโลกด้วย จึงเป็นที่มาที่แสนสิริวางเป้าจะปลูกต้นไม้รวมทั้งสิ้นกว่า 90,000 ต้นในปี 2565 นี้ โดยเป็นต้นไม้ใหญ่กว่า 8,000 ต้น ช่วยดูดซับคาร์บอนให้โลกได้ถึง 76 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี“ นายอุทัย กล่าวต่อ
แสนสิริต้องการที่จะจุดประกายให้คนไทยทุกคนร่วมปลูกต้นไม้และสร้างพื้นที่สีเขียว จึงได้ดึง “บีม” กวี ตันจรารักษ์ และภรรยา “ออย” อฏิพรณ์ พร้อมลูกชายฝาแฝด "น้องธีร์-น้องพีร์" มาร่วมงานแถลงข่าวในการประกาศพันธกิจ Sansiri Tree Story ปลูกต้นไม้เพื่อกรุงเทพฯ ด้วย ซึ่งหากย้อนไปอดีตสมัย “บีม” กวี ยังเป็นนักร้องสุดฮอต เขาเคยเป็นตัวแทนคนบันเทิงทำงานเพื่อสาธารณประโยชน์อย่างต่อเนื่อง รวมถึงงานด้านอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทำให้บีมเป็นคนหนึ่งที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมและพื้นที่สีเขียว
“บีม” กวี ตันจรารักษ์ กล่าวว่า ในฐานะคนบันเทิงก็อยากเป็นกระบอกเสียงกระตุ้นให้ทุกคนหันมาลงมือทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งแวดล้อมโดยเริ่มได้ง่ายๆ ด้วยการปลูกต้นไม้ เพราะปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องใกล้ตัวกว่าที่คิด และไม่ใช่หน้าที่ของใครคนใดคนหนึ่ง แต่ทุกคนต้องร่วมมือกัน ซึ่งต้องขอบคุณแสนสิริที่ได้เริ่มโครงการดีๆ แบบนี้มาอย่างต่อเนื่อง ในฐานะคุณพ่อคนหนึ่ง ผมไม่ได้มองแค่วันนี้ แต่มองว่าการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมจะกลายเป็นมรดกทางธรรมชาติที่จะส่งต่อไปถึงลูกๆ ด้วย แค่เฉพาะในกรุงเทพฯ พื้นที่สีเขียวไม่เพียงลดมลภาวะและฝุ่นละออง PM2.5 แต่ยังเป็นพื้นที่พักผ่อนครอบครัว เป็นพื้นที่เรียนรู้ด้านธรรมชาติให้กับลูก ๆ อย่างน้อยเราได้ปลูกฝังให้ลูก ๆ ได้ผูกพันกับธรรมชาติตั้งแต่เขายังเล็กๆ และเติบโตเคียงคู่กันไป เพราะอย่างที่รู้กันต้นไม้คือรากฐานช่วยแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นได้จริงอย่างยั่งยืน
“โครงการดี ๆ แบบนี้ ผมและครอบครัวเข้าร่วมด้วยเช่นกัน อาจดูเหมือนเป็นเพียงอะไรเล็กๆ แต่ถ้าพวกเราช่วยกันคนละไม้คนมือ ปลูกกันคนละหนึ่งต้น รวมทั้งมีภาคเอกชนอย่างแสนสิริเข้ามาร่วมด้วย ผมมั่นใจว่าการจะปลูกต้นไม้ไปให้ถึง 1 ล้านต้นตามที่ท่านผู้ว่าฯ ชัชชาติวางนโยบายไว้ไม่ใช่เรื่องยากเกินไป”
ด้าน “มะนาว - ศรีศิลป์ มณีวรรณ์”นางเอกรักษ์โลกหนึ่งในตัวแทนครอบครัวแสนสิริ กล่าวว่า “มะนาวเป็นลูกบ้านแสนสิริมากว่า 5 ปีแล้ว ได้เห็นความตั้งใจจริงของแสนสิริในการปลูกต้นไม้และสร้างพื้นที่สีเขียวเพื่อเป็นคุณค่าคู่โครงการ โดยมีทีมรุกขกรจากพลัส พร็อพเพอร์ตี้ดูแลรักษาให้ต้นไม้เติบโตอย่างสวยงามเสมอ ทำให้ลูกบ้านในทุกวัยได้ใช้เวลาดีๆ และมีความสุขในพื้นที่สีเขียวได้ตลอดวัน รวมทั้งยังรู้สึกดีที่เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยโลกและช่วยกรุงเทพฯของเราด้วย เชื่อว่าลูกบ้านทุกคนจะพร้อมใจร่วมกันปลูกต้นไม้ในปีนี้ให้ถึง 90,000 ต้นได้แน่นอน“
นายอุทัย กล่าวต่อว่า แสนสิริอยากเป็นส่วนหนึ่งของสังคมที่สร้างแรงบันดาลใจให้คนกรุงเทพฯ และคนไทยทุกคนหันมาปลูกต้นไม้เพิ่มมากขึ้น จึงจัดกิจกรรม Sansiri Tree Story Photo Contest ที่ครอบครัวแสนสิริและประชาชนทั่วไปร่วมแบ่งปันและเข้าร่วมประกวดภาพถ่ายช่วงเวลาดีๆที่มีความสุขในพื้นที่สีเขียวของโครงการแสนสิริได้ ชิงเงินรางวัลรวมกว่า 250,000 บาท โดยมีรางวัลชนะเลิศเป็นเงินสดถึง 100,000 บาท!
โดยผลงานที่ได้รับการคัดเลือกจะถูกนำไปจัดแสดงที่นิทรรศการสร้างแรงบันดาลใจปลูกต้นไม้ที่จะจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในไทย ในรูปแบบ Online Exhibition และ On-ground Exhibition ที่โครงการของแสนสิริ ส่วนครอบครัวแสนสิริที่ต้องการร่วมปลูกต้นไม้ในโครงการ Sansiri Tree Day และต้องการเก็บบันทึกข้อมูลต้นไม้เพื่อติดตามตัวเลขการเพิ่มออกซิเจนให้กรุงเทพฯ สามารถนำถุงผ้ามารับต้นกล้าฟรี รวม 500 ต้น ทุกเสาร์-อาทิตย์ ที่ปองโย Sansiri Backyard ได้ตลอดเดือนสิงหาคมนี้ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.sansiri.com/thai/แสนสิริเพื่อสิ่งแวดล้อม
ร่วมปลูกความยั่งยืน ให้ความสุขยืนต้นไปแสนนาน
และสร้างจุดเปลี่ยนด้านสิ่งแวดล้อมครั้งสำคัญเพื่ออนาคตของกรุงเทพอย่างยั่งยืนด้วยกัน