วิเคราะห์หนังออนไลน์ใหม่จากดัชมิลล์ ผ่านความเชื่อที่ว่า “ถ้าเราดูแลสุขภาพดี อะไรดี ๆ ก็จะตามมา”

หากให้นึกถึงนมเปรี้ยวและโยเกิร์ตยี่ห้อที่เราชอบกิน
หนึ่งในนั้นน่าจะมีชื่อของ “ดัชมิลล์” รวมอยู่ด้วย
เพราะเป็นแบรนด์ที่ผูกพันกับหลาย ๆ คนมาอย่างยาวนาน เพราะกินมาตั้งแต่เด็ก ๆ

แต่รู้หรือไม่ว่า ดัชมิลล์ ซึ่งก่อตั้งโดยคนไทย และปัจจุบันยังเป็นของคนไทย มีอายุกว่า 38 ปีแล้ว

รวมทั้งยังมีแบรนด์ในเครืออีกมากมาย เช่น นมถั่วเหลืองดีน่า, นมมอลต์สกัดดีมอลต์ และผลิตภัณฑ์เสริมอาหารโพรไบโอติก

ที่น่าสนใจคือ ดัชมิลล์ได้ออกหนังออนไลน์ใหม่ล่าสุด โดยเรื่องราวของหนัง จะจุดประกายให้ทุกคนได้ฉุกคิด ถึง “ความเชื่อ” ที่ทุกคนมักเคยได้ยินว่า “ถ้าเราดูแลสุขภาพดี อะไรดี ๆ ก็จะตามมา”

เรื่องราวของหนังจะน่าสนใจ และให้แรงบันดาลใจอะไรกับเรา ?
เรากำลังจะพาทุกคนดำดิ่งสู่เรื่องราวของหนังกัน

ตัวหนังเล่าถึง เด็กผู้ชายคนหนึ่ง ที่ใฝ่ฝันอยากเป็นนักฟุตบอลแบบ ลิโอเนล เมสซิ นักฟุตบอลชาวอาร์เจนตินา ที่มีคุณแม่คอยสนับสนุนและให้กำลังใจอยู่ข้าง ๆ เสมอ

แต่ความฝันมักมาพร้อมกับความท้าทายเสมอ เพราะเด็กคนนี้ กลับเป็นได้แค่ตัวสำรองบนสนาม..

ปฏิเสธไม่ได้ว่า การเป็นนักฟุตบอลมืออาชีพที่ดี จะต้องมี “สุขภาพที่ดี” ซึ่งมีความหมายรวมไปถึงสุขภาพกายและใจที่ดีด้วยเช่นกัน

สิ่งที่ทำให้หนังโฆษณาเรื่องนี้ หลังจากดูจบแล้วรู้สึกอิ่มใจมากเป็นพิเศษ ไม่ใช่แค่เรื่องราวความฝันของเด็กคนหนึ่งที่อยากจะเป็นนักฟุตบอลมืออาชีพ แต่คือ “การแบ่งปัน” สุขภาพดี เผื่อแผ่ไปยังคนรอบข้าง

ทุกวันที่เด็กคนนี้ก้าวเท้าออกจากบ้าน จะพกนมดัชมิลล์ติดตัวไปกินที่โรงเรียนด้วย แต่ในระหว่างทางเขาได้เจอกับคนไร้บ้านที่แต่งตัวโทรม และดูสุขภาพไม่แข็งแรง

วันแรกที่เด็กคนนี้เห็นคนไร้บ้าน ก็วิ่งหนีด้วยความกลัวตามประสาเด็ก
แต่หลังจากนั้น เขาก็มีความกล้าหาญที่จะแบ่งปันสิ่งดี ๆ ให้กับคนอื่น โดยที่ไม่ได้หวังสิ่งตอบแทน นั่นก็คือ นมดัชมิลล์ ที่แปะกระดาษพร้อมเขียนคำพูดคำหนึ่งไว้

เด็กคนนี้แบ่งปันนมดัชมิลล์ให้กับคนไร้บ้าน วันแล้ววันเล่า..
และเรื่องราวของทั้งคู่ก็ดูจะเติบโตไปพร้อม ๆ กัน เหมือนเป็นเส้นขนาน

จากเด็กที่ฝันอยากเป็นนักฟุตบอลมืออาชีพแบบ ลิโอเนล เมสซิ ที่เป็นแค่ตัวสำรองนั่งดูคนอื่นเล่น ก็ได้เริ่มลงเล่นในสนามจริง

จากคนไร้บ้านที่แต่งตัวมอมแมม ก็มีสุขภาพที่ดี และเกิดความคิดที่จะทำให้ชีวิตของตัวเองดีขึ้น จึงเริ่มช่วยเหลือคนอื่นจนได้งานทำ และมีธุรกิจเป็นของตัวเองในที่สุด

สุดท้ายเรื่องราวก็จบด้วยความเซอร์ไพรส์ ตรงที่ชายไร้บ้านได้เก็บนมดัชมิลล์ทุกกล่อง ตั้งแต่กล่องแรกไปจนถึงกล่องสุดท้าย ที่เด็กคนนั้นได้เอามาให้

โดยนมดัชมิลล์กล่องแรกที่แปะกระดาษพร้อมเขียนคำพูดคำหนึ่งไว้ คำพูดนั้นไม่ใช่คำพูดอื่นไกล แค่เป็นคำพูดที่แม่ เคยพูดกับเด็กคนนั้นไว้ นั่นก็คือ “ถ้าร่างกายเราดี อะไรดี ๆ ก็จะตามมา” นั่นเอง

หลังจากดูจบ บางคนอาจน้ำตาไหล บางคนอาจได้แรงบันดาลใจ
แต่สิ่งหนึ่งที่ดัชมิลล์ต้องการสื่อสารออกมาให้คนไทยได้รับรู้ก็คือ “สุขภาพดี เป็นสิ่งที่ทุกคนเข้าถึงได้”

หากใครอยากสัมผัสอารมณ์ของหนังที่เต็มเปี่ยมไปด้วยแรงบันดาลใจ สามารถรับชมได้เลย

และขอเชิญชวนให้ทุกคนมาร่วมแบ่งปันประสบการณ์หรือเล่าความประทับใจที่มีต่อดัชมิลล์ เพื่อลุ้นรับของรางวัล
คูปองเรียนคอร์ส เทคนิคการบริหารจัดการเวลาอย่างเต็มประสิทธิภาพ จาก SkillLane เว็บไซต์รวมคอร์สเรียนออนไลน์ ทั้งหมด 10 รางวัล (รางวัลละ 1 ใบ)

ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ

รู้หรือไม่ว่า ดัชมิลล์เป็นแบรนด์ที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภคมาอย่างต่อเนื่อง จนได้รับรางวัลแบรนด์แห่งทศวรรษ ที่ผู้บริโภคเลือกซื้อมากที่สุดต่อเนื่อง 10 ปีซ้อน

การเป็นบริษัทของไทยเพื่อคนไทยที่มีมาอย่างต่อเนื่องกว่า 38 ปี ก็การันตีแล้วว่า ดัชมิลล์คู่ควรกับรางวัล Brand of The Decade : Kantar Brand Footprint Awards 2022

ซึ่งรางวัลนี้จัดทำขึ้นโดย Kantar บริษัทวิจัยชั้นนำระดับโลก ที่ได้ทำการสำรวจผู้บริโภคกว่า 26.2 ล้านครัวเรือน ว่ากลุ่มผลิตภัณฑ์ Dairy Product แบรนด์ใดที่ผู้บริโภคไว้วางใจมากที่สุด
ซึ่งคำตอบก็คือ “ดัชมิลล์” นั่นเอง..

#ถ้าร่างกายเราดีอะไรดีๆก็จะตามมา
#สุขภาพดีต้องเป็นของทุกคน #ดัชมิลล์