ปากกา Lancer ไอเท็มตำนานในวัยเรียน

สมัยวัยเรียน เราต้องเคยผ่านการใช้ผลิตภัณฑ์สามัญ อย่างเช่น รองเท้านันยางหรือเบรกเกอร์
ชุดนักเรียนตราสมอ, กระเป๋า Jacob
โดยเฉพาะปากกา Lancer Spiral 825..
ที่เด็กนักเรียนทุกคนต้องรู้จัก และหลายคนใช้ตั้งแต่สมัยเรียน จนทำงานก็ยังหาซื้อมาใช้อยู่

ปากกาที่มีหน้าตาเป็นเอกลักษณ์ เห็นแล้วรู้ได้ทันที
ปากกาน้ำเงินด้ามสีขาว ตัดกับลายม้าลายและฝาสีน้ำเงิน

สิ่งที่ทำให้ปากกา Lancer Spiral 825 เป็นรุ่นยอดนิยมก็เพราะมันมีหัวปากกาที่แหลมคม จับถนัดมือ เขียนแล้วลื่นไหล
ซึ่งบางคนใช้แล้วก็รู้สึกว่า เวลาเขียนจะทำให้ลายมือสวยขึ้น
และปากกามีราคาที่ถูก เพียงด้ามละ 5 บาท

ทำให้หลายคนให้เจ้าตัวนี้เป็นปากกาด้ามโปรด และพกติดในไว้บ้าน หรือกระเป๋าเครื่องเขียนตลอดเวลา

และไม่ต้องแปลกใจ ถ้าเราเป็นหนึ่งในคนที่ซื้อปากการุ่นนี้ ทีละหลายๆ ด้ามสำรองเก็บไว้ใช้
เพราะถ้ามันไม่หายจากการที่เพื่อนยืม ก็ตกพื้น แล้วเขียนไม่ออกอีกเลย..

จริงๆ Lancer มีปากกาอีกรุ่นที่เป็นตำนานไม่แพ้กันเลย ก็คือ Lancer Clic 878
ปากกาแบบกด รูปร่างคลาสสิก มีลำตัวสีขาว ปลอกหัวปากกาสีตามหมึก
ซึ่งมักเห็นรุ่นคุณพ่อ คุณแม่ของเรานิยมซื้อมาใช้

แต่สิ่งที่น่าสนใจกว่าปากกาก็คงเป็น บริษัทเจ้าของแบรนด์นี้
บริษัท ดี.ที.ซี.อินดัสตรี่ส์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ผลิตเครื่องเขียนภายใต้แบรนด์
LANCER, CANDY, CHEETAH, CLASSMATE และ GOLDMEDAL

ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2506 เพื่อดำเนินธุรกิจนำเข้าปากกาลูกลื่นแบรนด์ BIC จากฝรั่งเศสมาจำหน่าย

แต่เมื่อดำเนินกิจการไปสักพักแล้ว บริษัทเข้าใจผลิตภัณฑ์ และตลาดจนมากพอ
ก็ได้คิดค้น พัฒนา และผันตัวเป็นผู้ผลิตปากกาเอง ภายใต้แบรนด์ LANCER ในปี พ.ศ. 2514 หรือ 8 ปีหลังจากเริ่มต้นธุรกิจ

โดยผลิตตัวด้ามปากกา ไส้ปากกา และหัวปากกาเองทั้งหมด ซึ่งนับเป็นบริษัทไทยที่ผลิตปากกาลูกลื่นเอง เป็นรายแรกๆ ของประเทศไทย

ด้วยคุณภาพของตัวปากกา ในราคาที่เหมาะสม
นักเรียน นักศึกษา รวมถึงวัยทำงานต่างให้การยอมรับผลิตภัณฑ์ของบริษัท

เมื่อมีคนซื้อมาใช้ แล้วเห็นว่าดี จึงบอกปากต่อปาก
หรือเห็นเพื่อนลองใช้ เราก็อยากใช้ตามบ้าง เลยเป็นลูกโซ่ต่อๆ กันไป
จนแบรนด์เป็นที่เชื่อถือ และนิยมของผู้บริโภคในวงกว้าง

บริษัทจึงเติบโตได้เรื่อยมา และสามารถครองส่วนแบ่งทางการตลาดปากกาลูกลื่นได้ถึง 30% ตลอดมา

ลองมาดูรายได้ของบริษัท
ปี 2560 มีรายได้ 240 ล้านบาท กำไร 26 ล้านบาท
ปี 2561 มีรายได้ 223 ล้านบาท กำไร 18 ล้านบาท

บริษัทผลิตปากกาลูกลื่นมากกว่า 15 แบบ และยังผลิตปากกาเคมี, ปากกาสีเน้นข้อความ, ดินสอดำ, ดินสอสี, แท่นประทับตรา, ถาดใส่เครื่องเขียน, ยางลบ และแฟ้มเอกสาร ภายใต้แบรนด์ LANCER

แต่แหล่งรายได้สำคัญคือ ปากกาลูกลื่น ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนรายได้ถึง 96% ของรายได้ทั้งหมด
โดยกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของบริษัทจะเป็น ร้านค้าปลีก ร้านค้าส่งทั่วไป และห้างสรรพสินค้า

และที่น่าสนใจอีกอย่างคือ บริษัทได้จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ด้วย

จะเห็นได้ว่าในโลกธุรกิจ ไม่ว่าว่าจะอยู่ในธุรกิจอะไร
จะขายปากกา ขายเครื่องเขียน ถ้าเจ๋งจริง ก็เข้าตลาดหุ้นได้

ข้อดีของธุรกิจปากกาทีเห็นได้ชัดคือ การใช้ซ้ำ
ซึ่งทำให้ธุรกิจเกิดรายได้ที่เข้ามาอย่างสม่ำเสมอ

ถึงแม้ปากกาจะเป็นสินค้าราคาถูก แต่ก็เป็นสิ่งที่ เมื่อใช้จนหมึกหมดแล้ว ก็ต้องหาซื้อมาใช้ซ้ำเรื่อยๆ

และที่เห็นส่วนใหญ่คือ หมึกมักยังไม่หมด แต่เจ้าของทำหายก่อน เลยต้องหาซื้อใหม่ทันที..

อย่างไรก็ตาม ยุคสมัยนี้ คงเป็นความทาท้ายครั้งใหญ่ของธุรกิจเครื่องเขียน รวมถึงกระดาษ

ด้วยความก้าวหน้า และแพร่ขยายของเทคโนโลยี
ทุกวันนี้ ผู้คนต่างใช้ แท็บเล็ต สมาร์ตโฟน และคอมพิวเตอร์ในชีวิตประจำวัน

โดยเฉพาะในมหาวิทยาลัย และโรงเรียนบางแห่ง
เด็กนักเรียน นักศึกษาปัจจุบันนี้ ต่างร่ำเรียนด้วยแท็บเล็ต

ถ้าเราเข้าไปสังเกตการณ์ห้องเรียน จะเห็นพวกเขากำลังจ้องมองจอผ่าน iPad และมือจดบันทึกบทเรียนของอาจารย์ด้วย Apple Pencil

เมื่อถึงยุคที่ทุกอย่างกำลังกลายเป็นดิจิทัล
ทุกคนสามารถอ่าน จด วาดรูป ระบายสี ไฮไลท์คำ ลบคำ ได้โดยไม่ต้องมีกระดาษ ไม่ต้องใช้ปากกาและอุปกรณ์เครื่องเขียน ก็เป็นสิ่งที่ท้ายสำหรับปากกา Lancer ในอนาคต

References
-http://www.lancerpen.com/
-ตลาดหลักทรัพย์ฯ
-แบบฟอร์ม 56-1