Subscription กลยุทธ์การหาเงินใหม่ของค่ายรถยนต์ ที่ต้องจ่ายเงินรายเดือน ถ้าอยากใช้อ็อปชันจัดเต็ม - TechBite

เชื่อว่าหลาย ๆ คน คงคุ้นเคยกับการเลือกซื้อรถยนต์สักคันหนึ่ง ที่เลือกซื้อตามกำลังงบประมาณที่มี
ถ้าใครอยากได้รถยนต์คันที่มีสิ่งอำนวยความสะดวก และอ็อปชันครบครัน ก็ต้องยอมจ่ายแพงกว่า

แน่นอนว่า การจ่ายเงินเพิ่มเพื่อซื้ออ็อปชันที่เพิ่มขึ้นนี้ เป็นการจ่ายเงินเพียงครั้งเดียว โดยอ็อปชันที่เพิ่มมา จะอยู่กับรถยนต์คันนั้นตลอดไป

แต่อย่างไรก็ตาม ในยุคปัจจุบัน คนที่กำลังตัดสินใจซื้อรถยนต์คันใหม่ในอนาคตนี้ อาจต้องทำใจว่า การซื้อรถยนต์แบบจ่ายเงินครั้งเดียวจบ และได้อ็อปชันครบ ๆ ตลอดไป อาจไม่มีอีกต่อไปแล้ว..

เพราะค่ายรถยนต์ทั่วโลก กำลังมองหาวิธีในการสร้างรายได้รูปแบบใหม่ ที่ไม่ใช่รายได้ที่ค่ายรถยนต์ได้จากการขายสินค้าเพียงครั้งเดียวแล้วจบ แต่เป็นรายได้ที่เกิดจากการ “ยอมจ่าย” ของเจ้าของรถยนต์เป็นประจำทุกเดือน

ซึ่งกลยุทธ์ในการหารายได้รูปแบบใหม่ของค่ายรถยนต์นี้ เรียกว่า Subscription Model..

- กลยุทธ์ Subscription Model คืออะไร ?

กลยุทธ์ Subscription Model ที่ค่ายรถยนต์เริ่มนำมาใช้ ไม่ได้ต่างอะไรจากการยอมเสียเงินเพื่อสมัครสมาชิกบริการออนไลน์ต่าง ๆ ที่ทุกคนคุ้นเคยกันอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น Netflix, YouTube Premium, Spotify หรือ iCloud

โดยเป็นการจ่ายเงินสมัครสมาชิกรายเดือน เพื่อเปิดใช้งานอ็อปชัน หรือสิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่มเติม แม้ว่ารถยนต์คันนั้น จะมีการติดตั้งอ็อปชันนั้นมาจากโรงงานเรียบร้อยแล้ว แต่จะใช้ไม่ได้ จนกว่าเจ้าของรถจะมีการจ่ายเงินเพิ่มเติม

ซึ่งกลยุทธ์ Subscription Model นี้ กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ในกลุ่มค่ายรถยนต์ทั่วโลก เช่น

- Toyota และ Subaru เปิดให้เจ้าของรถยนต์ ซื้อระบบการสตาร์ตรถยนต์ผ่านกุญแจรีโมต
- BMW เปิดให้เจ้าของรถยนต์ จ่ายเงินเพื่อใช้ระบบไฟหน้าปรับสูง-ต่ำอัตโนมัติ ระบบพวงมาลัย และเบาะอุ่นร้อน
- Mercedes-Benz เปิดให้เจ้าของรถยนต์ EV ของค่าย จ่ายเงินเพื่อปลดล็อกพละกำลังของมอเตอร์ไฟฟ้าเพิ่มเติม
- Tesla เปิดให้เจ้าของรถยนต์ จ่ายเงินเพื่อใช้ระบบขับขี่อัตโนมัติ (Full Self-Driving) ปลดล็อกระยะทางการขับขี่ที่ไกลกว่าเดิม และระบบนำทางที่ฉลาดมากขึ้น
- Ford เปิดให้เจ้าของรถยนต์ จ่ายเงินเพื่อใช้ระบบช่วยเหลือการขับขี่บนทางหลวง สำหรับการเดินทางไกล

โดยบางค่ายรถยนต์ มีตัวเลือกให้เจ้าของรถยนต์ เลือกที่จะจ่ายเงินครั้งเดียว เพื่อปลดล็อกความสามารถเพิ่มเติมแบบถาวรได้ หรือเลือกจ่ายเงินเป็นรายเดือน ในราคาที่ถูกกว่า ก็ได้เช่นกัน

อย่างกรณีของ BMW ในสหราชอาณาจักร ทำหน้าเว็บไซต์รวบรวมอ็อปชัน หรือฟีเชอร์ความสะดวกสบาย ที่เจ้าของรถยนต์สามารถเลือกซื้อในภายหลังได้ โดยมีให้เลือกทั้งการจ่ายเงินครั้งเดียว แต่มีราคาสูง หรือเลือกจ่ายเงินรายเดือน แต่มีราคาถูกกว่าก็ได้

หากใครสนใจว่า BMW ขายอ็อปชันอะไรเพิ่มเติมบ้าง สามารถเข้าไปดูได้ที่เว็บไซต์นี้ https://www.bmw.co.uk/en/shop/ls/cp/connected-drive

คำถามที่เกิดขึ้นคือ ทำไมค่ายรถยนต์จึงต้องใช้กลยุทธ์ Subscription Model

คำตอบง่าย ๆ คือ การหารายได้เพิ่มเติม นอกเหนือจากการขายรถยนต์ 1 คัน นั่นเอง..

จากสถิติย้อนหลัง 5 ปี พบว่า ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ มีอัตรากำไรสุทธิ (Net Margin) ไม่สูงนัก
- Toyota มีอัตรากำไรสุทธิ 7.29%
- Honda มีอัตรากำไรสุทธิ 4.11%
- Ford มีอัตรากำไรสุทธิ 3.40%
- Mazda มีอัตรากำไรสุทธิ 2.44%

จากข้อมูลนี้เอง ทำให้พอเปรียบเทียบได้ว่า ค่ายรถยนต์ ทำกำไรจากรถยนต์ 1 คัน ได้ไม่มากนัก และนั่นหมายความว่า ค่ายรถยนต์ต่าง ๆ ไม่สามารถหวังกำไร จากการขายรถยนต์เพียงอย่างเดียวได้อีกต่อไป

โดยเฉพาะในยุคที่อุตสาหกรรมรถยนต์ กำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน จากรถยนต์เครื่องยนต์สันดาป สู่รถยนต์ไฟฟ้า 100% ซึ่งมีชิ้นส่วนประกอบต่าง ๆ ภายในตัวรถน้อยกว่า ทำให้โอกาสในการหารายได้จากค่าอะไหล่ลดลง

ค่ายรถยนต์ เลยต้องหาทางสร้างแหล่งรายได้ใหม่ ๆ และเพิ่มอัตรากำไร
ซึ่ง Subscription Model ก็เป็นอีกทางออกที่ตอบโจทย์
และแน่นอนว่า การหารายได้ที่จะเกิดขึ้น “เป็นประจำ” ในรูปแบบ Subscription ย่อมเป็นทางเลือกที่ค่ายรถยนต์สนใจเช่นกัน

- Subscription Model สร้างรายได้ให้ค่ายรถยนต์มากแค่ไหน

แม้ในปัจจุบัน กลยุทธ์ Subscription Model ของค่ายรถยนต์ กำลังอยู่ในช่วงเริ่มทดลองตลาดเท่านั้น แต่รายได้ที่เกิดจากกลยุทธ์นี้ คิดเป็นมูลค่ามหาศาลในแต่ละปี

อย่างในปัจจุบัน General Motors (GM) เพียงค่ายเดียว สามารถสร้างรายได้จาก Subscription Model ได้ถึงปีละ 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 35,700 ล้านบาท) ในปี 2021

โดยรายได้นี้ เกิดจากรถยนต์ ที่รองรับระบบ Subscription Model ราว 4.2 ล้านคัน ในสหรัฐอเมริกา และแคนาดา

และในอนาคตอันใกล้ รายได้ที่เกิดจาก Subscription Model ของค่ายรถยนต์ต่าง ๆ จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แม้จะยังไม่มีข้อมูลรายได้ในภาพรวม แต่จากตัวเลขของ GM คาดการณ์ไว้ว่า

จะสามารถสร้างรายได้จาก Subscription Model ได้ราว 20,000-25,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 7.16-8.95 แสนล้านบาท) ภายในปี 2030 และเมื่อถึงเวลานั้น จะมีรถยนต์ของตนเอง ที่รองรับระบบ Subscription Model ราว 30 ล้านคัน ในสหรัฐอเมริกา และแคนาดา

ส่วนค่ายอื่น ๆ อย่าง Stellantis (เจ้าของแบรนด์ Fiat, Chrysler และ Jeep เป็นต้น) และ Ford ก็คาดการณ์ตัวเลขไว้ที่ราว 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 7.16 แสนล้านบาท) ภายในปี 2030 เช่นกัน

- เจ้าของรถยนต์ จะยอมจ่ายเงินให้กับสิ่งที่ติดตั้งมาแล้ว แต่ใช้ไม่ได้หรือไม่

เมื่ออ่านมาจนถึงตอนนี้ หลายคนคงสงสัยว่า เจ้าของรถยนต์จะยอมจ่ายเงินซ้ำซ้อน ให้กับสิ่งที่เคยจ่ายเงินก้อนใหญ่ไปแล้ว แต่ยังใช้ไม่ได้หรือไม่

ในกรณีของ GM ที่ทำการวิเคราะห์แล้วว่า เจ้าของรถยนต์ยอมจ่ายเงินรายเดือน เพื่อซื้ออ็อปชันเพิ่มเติม เฉลี่ยเดือนละ 135 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน (ราว 4,800 บาท)

อย่างไรก็ตาม แม้ข้อมูลของ GM จะออกมาเป็นเช่นนี้ แต่ก็ไม่ได้แปลว่า ทุกอ็อปชัน และทุกฟีเชอร์อำนวยความสะดวก จะมีคนยอมจ่ายเงินรายเดือนเสมอไป

เพราะก่อนหน้านี้ BMW เคยให้เจ้าของรถยนต์ที่ต้องการใช้ฟีเชอร์ Apple CarPlay จ่ายเงินปีละ 80 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2,800 บาท) หรือ 20 ปี ในราคา 300 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 10,700 บาท) เพื่อเปิดใช้งานฟีเชอร์นี้มาแล้ว แม้ว่าซอฟต์แวร์ภายในรถยนต์ จะมีระบบนี้เตรียมไว้แล้วก็ตาม

อย่างไรก็ตาม BMW ก็ไม่ประสบความสำเร็จ กับความพยายามในการหารายได้ในครั้งนั้น จนต้องยกเลิกการเก็บเงินนี้ไป หลังจากนั้นเพียงไม่กี่เดือน

นอกจากนี้ ยังเคยมีผลการศึกษาจากบริษัทที่ให้คำปรึกษาด้านรถยนต์ พบว่า เจ้าของรถยนต์กว่า 75% ไม่ยินดี ที่จะจ่ายเงินให้กับการปลดล็อกอ็อปชันรายเดือนเพิ่มเติม นอกเหนือไปจากการจ่ายเงินเพื่อซื้อรถยนต์ 1 คัน

ในขณะที่หากเจาะลึกลงไปอีกว่า อ็อปชันหรือฟีเชอร์อำนวยความสะดวกในรูปแบบใด ที่ค่ายรถยนต์ไม่ควรเก็บเงินจากเจ้าของรถยนต์เพิ่มเติม
กว่า 92% ชี้ชัดไปที่ ระบบอุ่นเบาะ และอีก 89% ชี้ชัดไปที่ระบบสตาร์ตรถยนต์ผ่านสมาร์ตโฟน

เมื่อผลการสำรวจที่ออกมา กลายเป็นว่าเจ้าของรถยนต์จำนวนมาก ยังไม่พร้อมจ่ายเงินเพื่อสมัครสมาชิกรายเดือน ในขณะที่ค่ายรถยนต์ กลับมองเห็นโอกาสในการสร้างรายได้อย่างมหาศาล

ทำให้ทางออกของเรื่องนี้ คือการหาความพอดี ที่อยู่ตรงกลางระหว่างความพึงพอใจของผู้บริโภค และโอกาสในการหาเงินของค่ายรถยนต์ ที่จะต้องตีโจทย์ให้ออกว่า อ็อปชันหรือฟีเชอร์ใด ที่เจ้าของรถยนต์จะยินดีจ่ายเงินเป็นรายเดือน

แต่ที่แน่ ๆ คือ กลยุทธ์การสร้างรายได้แบบ Subscription Model นี้ ยังจำกัดอยู่เฉพาะในกลุ่มค่ายรถยนต์หรูเท่านั้น เพราะกลุ่มลูกค้า ซึ่งเป็นเจ้าของรถยนต์ “มีกำลังจ่าย” เพื่อซื้อสิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่มเติม

แต่ในอนาคต ก็มีสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นเรื่อย ๆ ว่า การสร้างรายได้เพิ่มเติมในรูปแบบนี้ กำลังได้รับความนิยม และมีค่ายรถยนต์ในระดับแมส ที่สนใจทำแบบเดียวกัน

ส่วนผู้บริโภค หรือคนที่กำลังจะซื้อรถยนต์คันใหม่บางคน อาจรู้สึกดีใจว่า Subscription Model ของค่ายรถยนต์ อาจจะทำให้รถยนต์มีราคาถูกลง เพราะค่ายรถยนต์สามารถไปเรียกเก็บเงินจากผู้ที่ต้องการอ็อปชันเพิ่มเติมได้ในภายหลัง

เรื่องนี้ ก็ต้องบอกว่าอาจไม่ได้เป็นเช่นนั้นเสมอไป.. เพราะอย่าลืมว่า การที่จะทำให้อ็อปชัน หรือฟีเชอร์อำนวยความสะดวกทำงานได้ทันที หลังจากที่เจ้าของรถยนต์ยอมจ่ายเงินค่าสมัครสมาชิกรายเดือน นั่นหมายความว่า ในรถยนต์ทุกคันที่ขายออกไป ต้องมีอุปกรณ์ หรือฮาร์ดแวร์ รวมถึงซอฟต์แวร์ ที่ทำให้อ็อปชันนั้นทำงานได้ ติดตั้งมาจากโรงงานอยู่แล้ว ทำให้ต้นทุนของค่ายรถยนต์ไม่ได้ถูกลงเลย

เพียงแต่เจ้าของรถยนต์ ต้องเสียเงินเพิ่มอีก (เป็นประจำ) เพื่อปลดล็อกการใช้งานอ็อปชันที่ว่า..

อ้างอิง:
-https://www.businessinsider.com/car-feature-subscriptions-add-ons-bmw-ford-toyota-gm-2022-2
-https://www.consumerreports.org/automotive-industry/why-you-might-need-to-subscribe-to-get-certain-features-on-your-next-car-a6575794430/
-https://www.llctlc.com/post/how-much-does-it-actually-cost-manufacturers-to-make-a-car
-https://www.statista.com/statistics/1186661/car-company-profit-margin/
-https://www.carscoops.com/2021/12/car-manufacturers-expect-to-make-billions-from-subscription-services/
-https://www.consumerreports.org/automotive-industry/why-you-might-need-to-subscribe-to-get-certain-features-on-your-next-car-a6575794430/
-https://www.theverge.com/2022/7/13/23206999/car-subscription-nightmare-heated-seats-remote-start
-https://www.theverge.com/2022/7/12/23204950/bmw-subscriptions-microtransactions-heated-seats-feature
-https://www.theverge.com/2021/12/12/22831105/toyota-subscription-remote-start-key-fob
-https://techcrunch.com/2021/10/06/gm-aims-to-build-netflix-sized-subscription-business-by-2030/
-https://startuptalky.com/car-companies-offering-subscription-features/
-https://www.lifewire.com/your-favorite-automobile-features-may-soon-require-a-subscription-6279829
-https://finance.yahoo.com/news/mercedes-unlock-100-000-electric-170123047.html