
ล้อมวงเล่าเบื้องหลังการก่อตั้ง ‘Selfie’ สตาร์ทอัพสายเทคฯ ทันตกรรม ที่เชื่อมั่นว่า หากตั้งใจทำและตั้งใจดี ผลลัพธ์ต้องออกมาดีแน่นอน
3 ม.ค. 2023
คนจัดฟันรู้กันและทันตแพทย์เองก็ทราบดีว่า นวัตกรรมการจัดฟันแบบใส เป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยและสร้างความสะดวกสบายให้แก่ผู้คน แต่ภายใต้ความสะดวกนี้ก็ตามมาด้วยข้อจำกัดหลายอย่างที่ทำให้คนทั่วไปไม่สามารถเข้าถึงบริการและการรักษาได้อย่างทั่วถึง ทั้งเรื่องของราคา ข้อจำกัดในการเดินทางบ่อยๆ ข้อจำกัดด้านเวลา และตัวเลือกในพื้นที่ในเขตอาศัยห่างไกลที่อาจจะไม่ได้มีมาก รวมถึงในช่วงโรคระบาดก็ทำให้การติดตามรักษาผลค่อนข้างมีความเสี่ยง
วันนี้ขอชวนมาทำความรู้จักจุดเริ่มต้นของสตาร์ทอัพเทคโนโลยีทันตกรรมจัดฟันเพื่อความงามที่มีความตั้งใจทำให้เรื่องของทันตกรรมเป็นเรื่องง่ายและเข้าถึงได้สำหรับทุกคน อย่าง “เซลฟี่” ด้วยความเชื่อของพวกเขา 3 ผู้ก่อตั้งที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจส่งมอบรอยยิ้มให้กับทุกคน ผ่านเทคโนโลยีที่สร้างความสะดวก สบาย
จุดเริ่มต้นสานฝัน “เซลฟี่” สู่สตาร์ทอัพจัดฟันใสแห่งยุค
“เซลฟี่” เชื่อว่าปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ได้เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงการจัดฟันแบบใสได้ในราคาที่เหมาะสมที่มาพร้อมคุณภาพที่ดีและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ด้วยเทคโนโลยีที่สามารถทำงานร่วมกับทันตแพทย์ในการให้บริการการรักษาที่ดีที่สุดตลอดกระบวนการ นายวิลเลี่ยม พาร์ค (William Park) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO), นางสาวพอลลีน พิมลพัชร์ ธนุสุทธิยาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด (CMO) และนางสาวไดอาน่า ม็อก ประธานฝ่ายปฏิบัติการ (COO) กลุ่มคนรุ่นใหม่ไฟแรงจึงริเริ่มก่อตั้ง ‘Selfie’ (เซลฟี่) เมื่อปี 2562 สู่การเป็นสตาร์ทอัพสายเทคโนโลยีทันตกรรมเพื่อความงามและการดูแลช่องปากระดับพรีเมียม ด้วยความเชื่อที่ว่าธุรกิจของพวกเขาจะสร้างความเปลี่ยนแปลงในเทคโนโลยีการจัดฟันแบบใสได้ เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงการรักษาได้ง่ายขึ้นด้วยคุณภาพที่ดี ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร และอยู่ที่ไหนก็ตาม หลังจากการพัฒนาเทคโนโลยีและโปรดักส์กว่า 2 ปี เซลฟี่เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในปี 2564 “เซลฟี่” กลายเป็นสตาร์ทอัพน้องใหม่ที่มาแรงในวงการทันตกรรมในฐานะผู้นำนวัตกรรมจัดฟันแบบใสที่เรียกว่า Smart Dentistry ซึ่งเป็นมาตรฐานการดูแลทางทันตกรรมรูปแบบใหม่ โดยใช้เทคโนโลยีเฉพาะของ Selfie เข้ามาทำงานร่วมกับทันตแพทย์ตลอดกระบวนการ ในการให้การรักษาที่มีคุณภาพและสะดวกที่สุด ประกอบการนำเทคโนโลยีTeledentistry หรือ เทคโนโลยีทันตกรรมแบบทางไกล, เทคโนโลยี 3 มิติ และ การวางแผนการรักษาโดยเฉพาะของเซลฟี่ ซึ่งช่วยเสริมการให้บริการที่ดีและสะดวกยิ่งขึ้นกับทุกฝ่าย
จุดเริ่มต้นที่ทำให้พวกเขาทั้ง 3 ได้เจอกัน คือ การไปแลกเปลี่ยนหลักสูตรปริญญาบริหารธุรกิจ หรือ MBA ที่สหรัฐอเมริกา หรือจะเรียกว่าพรหมลิขิตก็ไม่ผิด เพราะหลังจากที่วิลเลี่ยม ได้มีโอกาสจัดฟันกับทันตแพทย์ชื่อดังผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดฟันแบบใสที่สิงคโปร์ ก็เกิดความรู้สึกประทับใจในบริการ คุณภาพ และคำแนะนำที่เขาได้รับจนเกิดเป็นความหลงใหลในการคิดค้นพัฒนาเทคโนโลยีที่จะสามารถที่จะส่งต่อบริการสุดพิเศษนี้ให้กับผู้อื่นในราคาที่สามารถเข้าถึงได้ เช่นเดียวกับ ไดอาน่า ที่ได้บินไปแลกเปลี่ยนด้าน MBA ที่อเมริกาด้วยเป้าหมายที่อยากจะสร้างธุรกิจเป็นของตัวเอง หรือแม้แต่ พอลลีน หญิงสาวผู้ฝันอยากปั้นธุรกิจที่สร้างประโยชน์ให้กับผู้คน ก็มองหาผู้ร่วมอุดมการณ์เดียวกัน ซึ่งการเจอกันของทั้ง 3 จึงเป็นจุดเริ่มต้นของ “เซลฟี่” สตาร์ทอัพที่เลือกปักธงไว้ที่ประเทศไทยและสิงค์โปรเป็นจุดตั้งต้นในการทำธุรกิจให้บริการจัดฟันแบบใสและบริการทันตกรรมด้านความงาม
จาก Passion สู่การสร้างความเปลี่ยนแปลงในเทคโนโลยีการจัดฟันแบบใส
วิลเลียม เล่าให้ฟังว่า “ช่วงแรกที่เริ่มศึกษาธุรกิจ เขาพบว่า จำนวนทันตแพทย์แต่ละประเทศมีอัตราส่วนที่ไม่สัมพันธ์กัน ขณะที่ฝั่งยุโรป มีจำนวนทันตแพทย์ต่อประชากร 1,000 คน หรือคิดเป็นอัตราส่วน 0.4% - 1.0% ซึ่งถือว่าเพียงพอกับจำนวนประชากร แต่สำหรับหลายประเทศอย่างประเทศไทยพบว่า มีจำนวนทันตแพทย์น้อยกว่า 0.05% เมื่อเทียบกับจำนวนประชากร ซึ่งถือว่าน้อยมาก ๆ นั่นหมายความว่าเราต้องหาวิธีที่จะช่วยสนับสนุนทันตแพทย์ในการใช้เวลาการรักษาอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งมีรายงานว่าการมีฟันที่เรียงตัวกันสวยงามจะนำไปสู่การมีสุขภาพช่องปากที่ดีทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นตามมา ลูกค้าส่วนใหญ่หันมาใส่ใจในสุขภาพช่องปากมากขึ้น แต่เนื่องจากเทคโนโลยีเครื่องมือจัดฟันแบบใสที่มีคุณภาพสูงนั้นมีราคาแพงมาก ดังนั้นเราจึงก่อตั้ง "เซลฟี่" ขึ้นเพื่อต้องการแก้ไขปัญหาดังกล่าว”
"การทำธุรกิจในประเทศไทยมีความท้าทายมาก ๆ เพราะเป็นประเทศที่ประชากรมีความหลากหลายสูง และธุรกิจที่เราเป็นธุรกิจเฉพาะทาง มีเรื่องกฎระเบียบมาเป็นตัวแปร และสิ่งที่ทำก็เป็นสิ่งใหม่ ทำให้ไม่มีต้นแบบ ไม่มีสูตรสำเร็จใดๆ หรือหลักสูตรให้เรียนรู้ มีแต่คำตอบที่คาดเดาไม่ได้หรือไม่ก็ต้องคาดเดากันเอง พวกเราเลยต้องหาทางออกโดยทำทุก ๆ วันให้ดีที่สุด และคุยกันอยู่เสมอ ว่าทางที่เราเดินถูกต้องหรือยัง ร่วมกับทำงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้มั่นใจว่าบริการของเราอยู่ภายใต้ข้อกำหนดการให้บริการที่มาตรฐานของประเทศไทยและ SEA" พอลลีน เล่าเสริมถึงความรู้สึกตอนเริ่มต้นทำธุรกิจในช่วงแรก
วิลเลี่ยม ยังบอกด้วยว่า “จุดสำคัญของการจัดฟันแบบใสที่มีคุณภาพคือต้องดูแลและรักษาโดยทันตแพทย์ที่มีความรู้ด้านการจัดฟันแบบใสโดยเฉพาะ เขารู้สึกโชคดีที่ได้พบกับทันตแพทย์ท่านนึงที่จบปริญญาเอกด้านการจัดฟันแบบใสโดยเฉพาะ แต่นี่ถือเป็นเรื่องโชคดีแต่ไม่ใช่เรื่องธรรรมดาที่จะพบทันตแพทย์ที่มีองค์ความรู้ที่จะนำมาพัฒนาการรักษาเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด นั่นเป็นเหตุผลที่ เซลฟี่ ตั้งใจพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อช่วยให้การเคลื่อนตำแหน่งฟันเรียงตัวสวยงามในระยะเวลาที่เหมาะสม ทำให้เรามั่นใจว่าจะสามารถผสมผสานระหว่างนวัตกรรมที่ล้ำสมัยกับการวิจัยพร้อมความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านของที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านทันตกรรมชื่อดังที่สิงค์โปร์มาช่วยวางแผนการรักษา โดยมี Protocol หรือแนวทางการปฏิบัติการรักษาทางทันตกรรมเฉพาะทางควบคู่กับข้อมูลที่ทำกับทันตแพทย์พันธมิตรของเรา สามารถช่วยวางแผนและดูแลรักษาได้อย่างเหมาะสมแม่นยำตอบโจทย์ลูกค้าทุกคน”
เปิดความรู้สึก 3 ผู้ก่อตั้งกว่าจะมาเป็นเซลฟี่
แม้โมเดลธุรกิจจะน่าสนใจอย่างมาก เพราะมันตอบโจทย์ความต้องการของคนที่อยากจัดฟันแบบใสให้สามารถเข้ารับการรักษาได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม อีกทั้ง เซลฟี่ ได้เปิดตัวในช่วงเวลาที่พฤติกรรมของผู้คนยุคใหม่เปลี่ยนแปลงไป จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งเป็นการเร่งเครื่องธุรกิจได้อย่างทันเวลา แม้ว่าโมเดลธุรกิจของเซลฟี่จะถูกคิดค้นและเตรียมการมาแล้วก่อนหน้านั้น
พอลลีน ในฐานะผู้ดูแลด้านการตลาดของเซลฟี่ บอกว่า “แม้ว่าจะมีการเตรียมใจมาล่วงหน้าว่าการทำธุรกิจมันไม่ง่ายแน่ ๆ และความจริงที่เจอในช่วงเริ่มต้นมันหนักกว่าที่คิดโดยเฉพาะช่วงโควิด แม้ว่าธุรกิจของเราจะเป็นการให้บริการรูปแบบ Teledentistry แต่ช่วงเริ่มต้นมีความจำเป็นอย่างมากที่จะต้องออกไปพบปะพาร์ทเนอร์เพื่อให้ข้อมูลและรายละเอียดต่าง ๆ พอคลินิกปิดตามมาตรการช่วงโควิด ก็เป็นหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจก็ต้องสะดุดไปช่วงหนึ่ง”
“พวกเราทำงานกันหนักมาก 7 วันต่อสัปดาห์และแทบจะไม่เคยลาพักร้อนกันแม้แต่วันเดียว โดยมุ่งมั่นทำสิ่งนี้ติดต่อกันเป็นเวลา 3 ปี เพราะเราต้องการทำให้มันเกิดขึ้น และสำเร็จ ซึ่งมันค่อนข้างท้าทายอย่างมากในช่วงที่ต้องพัฒนาผลิตภัณฑ์และสร้างความเข้าใจในเทคโนโลยีให้กับผู้คน ” ไดอาน่า เสริม
ช่วง 6 เดือนแรกของปี 2565 “เซลฟี่” สามารถขยายฐานผู้ใช้บริการได้มากถึง 2 เท่า แน่นอนว่านี่คือเครื่องพิสูจน์ที่ชัดเจนว่าพวกเขาเดินมาถูกทางโดยเรื่องที่ทำให้พวกเขาภูมิใจยิ่งกว่าตัวเลขผู้ใช้บริการหรือผลกำไรก็คือ การเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างการเปลี่ยนแปลงผ่านการพัฒนาปรับ Protocol หรือแนวทางการปฏิบัติการรักษาทางทันตกรรมเฉพาะทางบรรจุลงไปในซอฟต์แวร์ เพื่อสร้างกระบวนการในการทำงานร่วมกับทันตแพทย์ที่สะดวก มีมาตรฐานสำหรับทุกฝ่าย ตรงตามข้อกำหนดที่สมาคมทันตแพทย์และรัฐกำหนดเพื่อให้ความคุ้มครองผู้บริโภคเรื่องการให้บริการจัดฟันแบบใส และกว่าจะมาถึงจุดนี้ต้องผ่านด่านการเอาชนะใจตัวเองและเพื่อนร่วมทีมมานับครั้งไม่ถ้วน หลายคนอาจเรียกมันว่าอุปสรรค แต่ทั้งสามผู้ก่อตั้งเรียกมันว่า “ช่วงเวลาแห่งความสุข”
จากความท้าทายสู่ช่วงเวลาแห่งความสุข
"สิ่งที่ทำให้เราอยู่ตรงนี้คือเพื่อนร่วมงานทุกคน สำหรับเรามันเป็นบรรยากาศที่ดี แม้ว่ามันจะเหนื่อย เราเถียงกันและกระทบกระทั่งกันบ่อยมาก แต่ก็รู้ว่าทุกคนมีเป้าหมายเดียวกันคืออยากให้สิ่งที่เราทำออกมาดีที่สุด กลายเป็นว่ายิ่งได้โยนความคิด โยนไอเดียก็ทำให้เราแข็งแกร่งขึ้น รู้จักกันมากขึ้น และใกล้ชิดกันมากขึ้น” ไดอาน่า กล่าว
พอลลีน เองก็เชื่อเช่นกันว่า “การจะสร้างวัฒนธรรมองค์กรให้เกิดขึ้นไปพร้อมๆ กับการสร้างธุรกิจมันไม่ง่ายเลย ทุกคนเหนื่อย ใครที่ทำสตาร์ทอัพรู้ดีว่ามันยากขนาดไหนตอนเริ่มต้น การที่จะผ่านช่วงเวลาที่ยากนี้ไปและอยู่กับมันให้ได้ จะต้องเป็นคนที่มีความเชื่อแบบเดียวกันเท่านั้นเชื่อว่าพวกเรามีความเชื่อและเป้าหมายเดียวกัน และเราก็เลือกที่จะจดจำแต่ช่วงเวลาที่มีความสุขในขณะที่เราเหนื่อย”
สำหรับวิลเลี่ยม เผยว่า “เสียงตอบรับจากลูกค้าและคำติชมจากพาร์ทเนอร์คือช่วงเวลาแห่งความสุขที่เรานึกถึง ความคิดเห็นดีๆ ที่เราได้รับ ไม่ว่าจะจากลูกค้าที่บอกว่าพวกเขามองหาบริการแบบนี้มานานแล้วแต่ไม่สามารถจ่ายได้ วันนี้พวกเขาสามารถจ่ายได้ในราคาที่เหมาะสมโดยได้ผลลัพธ์ที่ดีเหมือนกัน ขณะเดียวกันทันตแพทย์ก็มีโอกาสให้บริการลูกค้ามากขึ้นโดยไม่มีข้อจำกัด สิ่งเหล่านี้ทำให้ผมรู้สึกชื่นใจ แม้ว่าที่ผ่านมาจะเหนื่อยและอดหลับอดนอนแต่ถือว่าออกมาเป็นผลลัพธ์คุ้มค่ามาก”
“มันเหมือนเราเริ่มต้นจากความว่างเปล่า แต่วันนี้มันคือเรื่องมหัศจรรย์ ยังจำวันที่ร่างบรรจุภัณฑ์แบบง่ายๆ บนกระดาษ ตอนนี้มันกลายเป็นบรรจุภัณฑ์ที่ส่งถึงมือลูกค้า เราได้เห็นการเติบโตของสิ่งเล็กน้อยเหล่านี้ไปพร้อมๆ กับการเติบโตของบริษัท โดยตอนนี้เซลฟี่เลือกที่จะมองเรื่องการขยายบริการเพิ่มมากขึ้นในกลุ่มของ Dental Care และอาจเชื่อมโยงไปกับ Beauty Tech เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภครอบด้าน” พอลลีน เล่าเสริม
การทำวันนี้ให้ดีที่สุดก่อน เพราะนี้คือเป็นจุดเริ่มต้น พวกเขาในฐานะผู้ก่อตั้งเซลฟี่ สตาร์ทอัพเทคโนโลยีทันตกรรมจัดฟันเพื่อความงาม ที่มีความตั้งใจทำให้เรื่องของทันตกรรมเป็นเรื่องง่ายและเข้าถึงได้สำหรับทุกคน คงไม่กล้าพูดว่าธุรกิจของพวกเขาประสบความสำเร็จและยังไม่อยากที่จะตั้งเป้าความสำเร็จไว้ที่ตัวเลข เพราะการวัดค่าความสำเร็จจากผลตอบรับของลูกค้า ผลตอบรับจากคลินิกที่เป็นพาร์ทเนอร์ มันสะท้อนว่าสิ่งที่พวกเราทำมันมาช่วยแก้ Pain Point ได้จริง นั่น ถือเป็นความสำเร็จในมุมมองของพวกเขา เพราะอย่างน้อยก็พิสูจน์ได้ว่า พวกเขาเดินมาถูกทางแล้ว"