บาจา ตั้งเป้าปี 2023 โตมากกว่าตลาดเท่าตัว หวังขึ้นเป็นรองเท้าอันดับ 1 ในไทย ภายใน 3 ปี

บาจา (Bata) เผยความสำเร็จแคมเปญ Surprisingly Bata กวาดยอดขายปี 2022 พุ่งสูงกว่าปี 2021 ถึง 75% ทำให้ได้ส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้น และสามารถทำผลกำไรเติบโตมากกว่าปี 2019 ก่อนโควิดได้ถึง 10% ตั้งเป้าปี 2023 โตเพิ่มอีก 15% ซึ่งมากกว่าตลาดรองเท้า X2 เดินหน้าชูกลยุทธ์นำทัพสินค้ารูปแบบใหม่ปรับลุคเพิ่มเซอร์ไพรส์ เปิดตัวแบรนด์ในเครือเพิ่ม

พร้อมดึง “เบลล่า-ราณี” เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2  พร้อมเปิดตัว Friend of Bata คู่ใหม่ “ซี-พฤกษ์ พานิช” และ “นุนิว ชวรินทร์ เพริศพิริยะวงศ์” กับการเปิดตัวแคมเปญ “Surprisingly Bata CinderBella” หวังเร่งขยายฐานลูกค้าจากเดิม 2 ล้านคนให้เป็นแบรนด์ในใจกลุ่มคนรุ่นใหม่มากขึ้น เพื่อมุ่งสู่การเป็นแบรนด์รองเท้าอันดับ 1 ในไทย

วิลาสินี ภาณุรัตน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท บาจา (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดรองเท้าได้รับผลกระทบมากว่า 2 ปี จนเมื่อมีการผ่อนคลายจากมาตรการโควิด-19 ช่วงครึ่งปีหลัง 2022 ส่งผลให้ตลาดรองเท้ามีการแข่งขันอย่างดุเดือด มีการคาดการณ์การเติบโตจากที่เคยคาดกันที่ 6% เป็น 20% แต่ทางแบรนด์บาจาเติบโตเร็วกว่าตลาดด้วยอานิสงค์ของการกลับมาเปิดเรียนตามปรกติอีกครั้ง และคนทำงานกลับไปที่ทำงานมีการเดินทางออกจากบ้าน ทำให้ลูกค้ามีความต้องการรองเท้าดีดขึ้นมา

บาจา จึงจบปีที่โตขึ้นถึง 75%  นอกจากนี้ยังมีการทำแคมเปญเชิงรุกในช่วงครึ่งปีหลัง ทำให้สามารถขยายฐานลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น มีสมาชิกใหม่เพิ่มขึ้นถึงกว่า 600,000 คน โดยลูกค้าใหม่ส่วนใหญ่เป็นวัยทำงาน และวัยคุณแม่ยังสาว

“ช่วงปลายปีที่ผ่านมา เราจะได้เห็นอินเตอร์เนชั่นแนลแบรนด์หลายๆ แบรนด์เลือกประเทศไทยเป็นประเทศยุทธศาสตร์ในการขยายร้านค้าและแฟล็กชิพสโตร์มากมาย สะท้อนให้เห็นถึงการฟื้นตัวและแนวโน้มการเติบโตของตลาดแฟชั่นในไทย โดยบาจาเองได้เปิดร้านใหม่เพิ่มเติม 12 สาขา รวมเป็น 230 สาขา และยังได้ขยายช่องทางการจัดจำหน่ายออนไลน์เพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่าตัว ทั้งทาง www.bata.co.th รวมทั้งแพลตฟอร์มชอปปิ้งออนไลน์ชื่อดังอย่าง Lazada และ Shopee”

สำหรับในปี 2023 นี้ บาจามีความมั่นใจว่าตลาดรองเท้าจะกลับมาฟื้นตัวเกือบเท่าช่วงก่อนโควิด ทำให้บาจาตัดสินใจเพิ่มงบการตลาดขึ้นเท่าตัว เพื่อเร่งขยายฐานลูกค้าจากเดิมชึ้นอีกเท่าตัว โดยมุ่งเน้นจับกลุ่มคนรุ่นใหม่มากขึ้นด้วยการนำสินค้าที่ตอบสนองความต้องการของคนกลุ่มนี้เข้ามาเพิ่มเติม และเพิ่มช่องทางการสื่อสารไปสู่กลุ่มคนรุ่นใหม่นี้มากชึ้น

ทั้งนี้เพื่อมุ่งไปสู่การเป็นแบรนด์รองเท้าอันดับ 1 ภายใน 3 ปี บาจาดึง “เบลล่า-ราณี” เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 และเปิดตัว Friend of Bata คู่ใหม่ “ซี-พฤกษ์ พานิช” และ “นุนิว ชวรินทร์ เพริศพิริยะวงศ์” พร้อมกับการเปิดตัวแคมเปญ “Surprisingly Bata CinderBella”  เพื่อหวังเจาะกลุ่มลูกค้าให้หลากหลายมากขึ้น อีกทั้งยังมีการเผยโฉม BATA club เพื่อเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้กับลูกค้าเดิม ตลอดจนการทำ CRM เต็มรูปแบบในส่วนของสินค้า อีกทั้งเร่งขยายสาขาเพิ่มอีก 15 สาขา และเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายและการสื่อสารกับลูกค้าผ่านช่องทางออนไลน์เพิ่มจาก Tiktok และ Line

นอกจากนี้​บาจายังมีการลงทุนเทคโนโลยีออนไลน์ต่างๆ ไปตั้งแต่ปี 2022 โดยหนึ่งในคีย์หลักสำคัญ คือ ISS (in-store sales) ซึ่งเป็นการเชื่อมโยงประสบการณ์ออนไลน์ & ออฟไลน์อย่างแท้จริง ให้ลูกค้าเกิดประสบการณ์ร่วมกับแบรนด์อย่างดีที่สุด ดังนั้นในปี 2023 นี้ Omni Channel จะเป็นสิ่งที่เราจะโฟกัสเป็นการทำให้การ shopping กับบาจาไร้รอยต่อระหว่างช่องทางอย่างเต็มตัว”

ที่สำคัญในไตรมาสแรกของปี 2023 นี้ บาจาได้นำทัพสินค้าใหม่ๆ เพิ่มขึ้นเต็มขบวนทั้งใน ไลน์คอมฟอร์ทเทค บาจาคอมฟิตที่จะมีแบบ และสีหลากหลายขึ้น หรือไลน์สไตล์ บาจา เรด ลาเบล ที่จะมีทั้งรองเท้าส้นสูงรูปแบบทันสมัยหรือรองเท้าไปงานโอกาสพิเศษต่างๆ ทั้งนี้จะมีการสื่อสารกับแบรนด์ในเครือเพิ่มเติมที่เจาะกลุ่มลูกค้าสนีกเกอร์ผ้าใบทั้ง พาวเวอร์ บาย บาจา ที่เป็นรองเท้ากีฬาเทคโนโลยีสูง หรือ นอร์ทสตาร์ บาย บาจา ที่เป็นรองเท้าผ้าใบสตรีทสไตล์สำหรับคนรุ่นใหม่ อีกทั้งมี บั๊บเบิ้ลส์กัมเมอร์ส รองเท้าเด็กที่ครองใจคุณหนูๆ มานาน แต่ปีนี้เราจะมีเทคโนโลยีและลูกเล่นต่างๆ เพื่อตอกย้ำความเป็นเจ้าตลาดรองเท้าเด็ก และเป็นการขยายไลน์ดีไซน์ตลาดรองเท้าสำหรับเด็กของบาจาที่มากกว่าแค่รองเท้านักเรียน