
“ไม่ใช่แค่องค์กรที่เลือกคน แต่คนก็เลือกงาน” องค์กรจะพลิกเกมอย่างไร ให้เนื้อหอมในหมู่คนเก่ง
2 ก.พ. 2023
ท่ามกลางกระแสข่าวการปลดพนักงานของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่
ไม่ว่าจะเป็น อัลฟาเบท (Alphabet) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล (Google), ไมโครซอฟท์ (Microsoft), แอมะซอน (Amazon), เมตา (Meta) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของเฟซบุ๊ก (Facebook)
ไม่ว่าจะเป็น อัลฟาเบท (Alphabet) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล (Google), ไมโครซอฟท์ (Microsoft), แอมะซอน (Amazon), เมตา (Meta) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของเฟซบุ๊ก (Facebook)
อาจทำให้เหล่ามนุษย์เงินเดือน พากันร้อน ๆ หนาว ๆ ว่าสึนามิลูกนี้ จะส่งผลกระทบไปสู่อุตสาหกรรมอื่น ๆ หรือไม่
แต่รู้หรือไม่ว่า ถ้าไปสำรวจตลาดแรงงานทั่วโลกเวลานี้ กลับพบว่า หนึ่งในความท้าทายขององค์กรในปี 2566 คือ ความยากในการเฟ้นหาคนเก่ง มีฝีมือ มาร่วมทีม และการรักษาคนเก่งให้อยู่กับองค์กรไปนาน ๆ
จากผลสำรวจข้อมูลเกี่ยวกับค่าตอบแทนของบุคลากรในสายงานด้าน AI และดิจิทัล (Artificial Intelligence and Digital Talent Compensation Survey) ของ WTW หนึ่งในผู้ให้บริการโซลูชันด้านการบริหารคนและองค์กร ที่ดำเนินกิจการมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1828 เป็นบริษัทมีฐานข้อมูลครอบคลุมมากที่สุดและเชื่อมโยงกับทุกภูมิภาค โดยอ้างอิง วิเคราะห์ และประมวลผลจากฐานข้อมูลที่แข็งแกร่ง ครอบคลุมทุกอุตสาหกรรม ทุกระดับงาน รวมถึงครอบคลุมทั้งมุมมองในระดับสากลและท้องถิ่น พบว่า
มากกว่า 97% ของบริษัทในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก กำลังประสบปัญหาในการดึงดูดบุคลากรที่มีความสามารถด้านดิจิทัลให้มาร่วมงาน
ขณะที่กว่า 96% ประสบปัญหาในการรักษาบุคลากรที่มีความสามารถด้านดิจิทัล ให้อยู่กับองค์กรในระยะยาว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับ AI, ความปลอดภัยทางไซเบอร์ และกระบวนการวิเคราะห์ข้อมูล เพราะอย่าลืมว่า ยิ่งโลกใบเดิมหมุนเร็วเท่าไร ทักษะของพนักงานที่องค์กรมองหาก็ยิ่งต้องติดสปีดตาม.. โดยเฉพาะบุคลากรในสายงานดิจิทัล ที่กำลังเนื้อหอมสุด ๆ
ขณะที่กว่า 96% ประสบปัญหาในการรักษาบุคลากรที่มีความสามารถด้านดิจิทัล ให้อยู่กับองค์กรในระยะยาว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับ AI, ความปลอดภัยทางไซเบอร์ และกระบวนการวิเคราะห์ข้อมูล เพราะอย่าลืมว่า ยิ่งโลกใบเดิมหมุนเร็วเท่าไร ทักษะของพนักงานที่องค์กรมองหาก็ยิ่งต้องติดสปีดตาม.. โดยเฉพาะบุคลากรในสายงานดิจิทัล ที่กำลังเนื้อหอมสุด ๆ
ไม่ว่าจะอยู่ในอุตสาหกรรมหรือธุรกิจไหน ต่างต้องการคนที่มีความรู้ด้านดิจิทัล มาช่วยทรานส์ฟอร์มองค์กร ให้พร้อมรับมือกับเทรนด์ของการนำ AI และระบบอัตโนมัติมาใช้ในการทำงาน
คำถามคือ ท่ามกลางสมรภูมิธุรกิจที่ว่าดุเดือดแล้ว ตลาดแรงงานก็เดือดไม่แพ้กัน
องค์กรจะพลิกเกมอย่างไร เพื่อรับมือกับตลาดแรงงานยุคใหม่ ที่ไม่ใช่องค์กรเลือกคน แต่คนก็เลือกงาน
องค์กรจะพลิกเกมอย่างไร เพื่อรับมือกับตลาดแรงงานยุคใหม่ ที่ไม่ใช่องค์กรเลือกคน แต่คนก็เลือกงาน
MarketThink จะพาทุกคนไปหาคำตอบจากคุณนราพร อินทเชื้อ ผู้อำนวยการฝ่าย Work & Rewards ประจำประเทศไทยและอินโดไชน่า WTW ประเทศไทย
นาทีนี้ ถ้าถามว่าอาชีพไหน ที่เป็นที่ต้องการในตลาดงานมากที่สุด เวลานี้ ?
จากผลสำรวจจาก 623 บริษัทในทุกกลุ่มอุตสาหกรรมในประเทศไทย โดย WTW ชี้ชัดว่าในปี 2566 งานด้านการขาย, งานด้านวิศวกรรม, งาน IT และช่างเทคนิค คือสายงานหลักที่เป็นที่ต้องการ
แต่ที่น่าสนใจคือ สายงาน IT เป็นสาขาที่ติดอันดับต้น ๆ มาแล้วถึง 3 ปีซ้อน
ส่วนงานที่มาแรงและได้รับค่าตอบแทนสูงสุดคือ งานในสาย Data Science และ Business Intelligence
แต่ที่น่าสนใจคือ สายงาน IT เป็นสาขาที่ติดอันดับต้น ๆ มาแล้วถึง 3 ปีซ้อน
ส่วนงานที่มาแรงและได้รับค่าตอบแทนสูงสุดคือ งานในสาย Data Science และ Business Intelligence
โดยอาชีพด้านเทคโนโลยี และ Digital Marketing จะเป็นอาชีพที่ติดอันดับดาวรุ่งในปี 2566
เนื่องจากองค์กรต่าง ๆ ให้ความสำคัญกับการนำดิจิทัลมาใช้ในองค์กรมากขึ้น
ซึ่งสอดคล้องกับผลสำรวจที่พบว่า 60% ขององค์กร เชื่อว่าการดึงดูดและรักษาบุคลากรด้านดิจิทัล คือสิ่งสำคัญที่จะทำให้องค์กรเปลี่ยนผ่านไปสู่ความเป็นดิจิทัลได้อย่างราบรื่นมากที่สุด
เนื่องจากองค์กรต่าง ๆ ให้ความสำคัญกับการนำดิจิทัลมาใช้ในองค์กรมากขึ้น
ซึ่งสอดคล้องกับผลสำรวจที่พบว่า 60% ขององค์กร เชื่อว่าการดึงดูดและรักษาบุคลากรด้านดิจิทัล คือสิ่งสำคัญที่จะทำให้องค์กรเปลี่ยนผ่านไปสู่ความเป็นดิจิทัลได้อย่างราบรื่นมากที่สุด
เมื่อดีมานด์ในตลาดงาน ที่ต้องการคนสายงานด้านดิจิทัลมีมาก
ก็หมายความว่า คนที่มีทักษะด้านดิจิทัล ก็มีทางเลือกมากขึ้น ในการหาองค์กรที่ถูกใจ
ก็หมายความว่า คนที่มีทักษะด้านดิจิทัล ก็มีทางเลือกมากขึ้น ในการหาองค์กรที่ถูกใจ
โจทย์ใหญ่จึงกลับมาอยู่ที่องค์กรว่าจะพลิกเกมอย่างไร เพื่อให้องค์กรเนื้อหอม และโดนใจตลาดงาน
หนึ่งในกุญแจดอกสำคัญที่ WTW แนะนำ คือ ถึงเวลาแล้วที่นายจ้างต้องลุกขึ้นมา “คิดใหม่ ทำใหม่”
เพราะในเมื่อทักษะที่องค์กรมองหาจากพนักงานยังเปลี่ยนตามโลก อัตราเงินเดือนและสวัสดิการต่าง ๆ ที่มอบให้พนักงานก็ต้องเปลี่ยนตาม
เพราะในเมื่อทักษะที่องค์กรมองหาจากพนักงานยังเปลี่ยนตามโลก อัตราเงินเดือนและสวัสดิการต่าง ๆ ที่มอบให้พนักงานก็ต้องเปลี่ยนตาม
แต่ก่อนที่จะลงมือปรับแพ็กเกจเงินเดือนและสวัสดิการได้ WTW มองว่า ต้องอาศัย Data หรือ Insight ในตลาดแรงงาน
เปรียบเทียบให้เห็นภาพ เหมือนเราจะออกสินค้าหรือบริการใหม่ ถ้าจะให้โดนใจลูกค้า
ก็ต้องเริ่มจากการสำรวจตลาด เพื่อหา Insight หรือ Pain Point ในตลาดให้เจอก่อน
เปรียบเทียบให้เห็นภาพ เหมือนเราจะออกสินค้าหรือบริการใหม่ ถ้าจะให้โดนใจลูกค้า
ก็ต้องเริ่มจากการสำรวจตลาด เพื่อหา Insight หรือ Pain Point ในตลาดให้เจอก่อน
ในการดึงดูดและรักษาคนเก่งก็เช่นกัน หากจะปรับเปลี่ยนรูปแบบสวัสดิการขององค์กรให้ทัดเทียมหรือเหนือกว่าคู่แข่งในตลาดแรงงาน ก็ต้องอาศัยข้อมูลด้านเงินเดือน และสวัสดิการในตลาดแรงงาน จากฐานข้อมูลที่ครบถ้วนและเชื่อถือได้มาใช้เป็นตัวช่วยกำหนด
ซึ่งเงินเดือนหรือสวัสดิการที่คิดออกมา อาจจะไม่ได้เป็นแบบสูตรสำเร็จกับพนักงานทุกคนก็ได้
แต่อาจจะเลือก Tailor-Made ให้เหมาะกับพนักงานแต่ละสายงาน หรือแต่ละกลุ่ม
เช่น ถ้าอยากดึงดูดคนเก่ง ลำพัง “เงินเดือน” หรือ “ชื่อเสียงขององค์กร” ก็อาจจะมีอานุภาพไม่พอ
เพราะสิ่งที่คนมีฝีมือมองหา อาจจะรวมไปถึงสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดี ความน่าสนใจของสินค้าหรือบริการขององค์กร
หรือบางคนอาจมองไปถึงโอกาสและทักษะใหม่ ๆ ที่จะได้จากการทำงาน
เช่น โอกาสที่จะได้สร้างผลงานในองค์กร, โอกาสที่จะได้พัฒนาศักยภาพกับหลักสูตรชั้นนำ/หน่วยงานชั้นนำ, เวลาการทำงานที่ยืดหยุ่น/กำหนดเองได้, สิทธิในการซื้อหุ้น (Stock Option) รวมถึงโอกาสทำงานในต่างประเทศ เป็นต้น
ซึ่งเงินเดือนหรือสวัสดิการที่คิดออกมา อาจจะไม่ได้เป็นแบบสูตรสำเร็จกับพนักงานทุกคนก็ได้
แต่อาจจะเลือก Tailor-Made ให้เหมาะกับพนักงานแต่ละสายงาน หรือแต่ละกลุ่ม
เช่น ถ้าอยากดึงดูดคนเก่ง ลำพัง “เงินเดือน” หรือ “ชื่อเสียงขององค์กร” ก็อาจจะมีอานุภาพไม่พอ
เพราะสิ่งที่คนมีฝีมือมองหา อาจจะรวมไปถึงสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดี ความน่าสนใจของสินค้าหรือบริการขององค์กร
หรือบางคนอาจมองไปถึงโอกาสและทักษะใหม่ ๆ ที่จะได้จากการทำงาน
เช่น โอกาสที่จะได้สร้างผลงานในองค์กร, โอกาสที่จะได้พัฒนาศักยภาพกับหลักสูตรชั้นนำ/หน่วยงานชั้นนำ, เวลาการทำงานที่ยืดหยุ่น/กำหนดเองได้, สิทธิในการซื้อหุ้น (Stock Option) รวมถึงโอกาสทำงานในต่างประเทศ เป็นต้น
นอกจากองค์กรจะต้องเปิดเกมรุกเพื่อดึงดูดพนักงานใหม่ ก็ต้องไม่ลืมทำเกมรับให้แข็งแกร่ง
จากผลสำรวจของ WTW พบว่า กลุ่มงานสายดิจิทัลของบริษัทในประเทศไทย มักสูญเสียบุคลากรไป เนื่องจากการแข่งขันแย่งชิงตัวในตลาด
รู้หรือไม่ว่า ยิ่งสายงานดิจิทัลเนื้อหอมมากเท่าไร โอกาสที่คนในสายงานนี้ จะปันใจไปทำงานในที่ที่มองเห็นศักยภาพของเขามากกว่าก็ยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น
เห็นได้จาก อัตราการลาออก (Turnover Rate) ของคนทำงานด้านดิจิทัล ที่ครองแชมป์ตำแหน่งงานที่มีการลาออกมากที่สุด
มีอัตราการลาออกที่มากกว่าค่าเฉลี่ยทั่วไปถึง 9% หรือคิดเป็นเกือบ 20%
โดยเฉพาะงานด้าน IT Developer, Digital Marketing และ Online Community Marketing
โดยเหตุผลหลักคือ องค์กรไม่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของบุคลากรได้
โดยเฉพาะงานด้าน IT Developer, Digital Marketing และ Online Community Marketing
โดยเหตุผลหลักคือ องค์กรไม่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของบุคลากรได้
ดังนั้น สำหรับองค์กรที่อยากรักษาพนักงานเก่าที่มีฝีมือ ให้อยู่กับองค์กรได้นานอาจจะต้องกลับมาทบทวนว่า ได้ปูทางเส้นทางการเติบโต และการเลื่อนตำแหน่งที่ชัดเจน ไว้รองรับบุคลากรในส่วนนี้หรือไม่
หรือได้มอบโอกาสการทำงานที่มีความน่าสนใจ ท้าทาย และหลากหลาย พร้อมเงินเดือนที่เป็นที่น่าพอใจ และโอกาสในการเรียนรู้และพัฒนาตนเอง ให้บุคลากรในส่วนนี้หรือยัง
หรือได้มอบโอกาสการทำงานที่มีความน่าสนใจ ท้าทาย และหลากหลาย พร้อมเงินเดือนที่เป็นที่น่าพอใจ และโอกาสในการเรียนรู้และพัฒนาตนเอง ให้บุคลากรในส่วนนี้หรือยัง
ทั้งหมดนี้ คือเหตุผลว่า ทำไมองค์กรที่อยากพลิกเกมรับมือกับตลาดแรงงานที่ท้าทายให้ได้ ต้องกลับมาคิดใหม่ ทำใหม่
เริ่มต้นง่าย ๆ ด้วยการสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาผู้เชี่ยวชาญด้านทรัพยากรบุคคลอย่างต่อเนื่อง
ควบคู่ไปกับการใช้เครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เหมาะสมกับแต่ละตำแหน่งงาน
ควบคู่ไปกับการใช้เครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เหมาะสมกับแต่ละตำแหน่งงาน
เพราะยิ่งองค์กรไหน มีข้อเสนอและสวัสดิการที่ตรงใจและแตกต่างจากคู่แข่งได้มากเท่าไร ก็ยิ่งเป็นแต้มต่อ ทำให้ผู้สมัครรู้สึกว่าองค์กรนั้น เห็นถึงศักยภาพและคุณค่าของพวกเขา และอยากมาร่วมงานด้วยนั่นเอง..
ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.wtwco.com