JUUL บุหรี่ไฟฟ้าล้านล้าน

JUUL บุหรี่ไฟฟ้าล้านล้าน

2 ก.ค. 2019
บริษัทบุหรี่ไฟฟ้าที่ก่อตั้งมา 4 ปี
ในตอนนี้มีมูลค่า 1.17 ล้านล้านบาท
เป็นยิ่งกว่ายูนิคอร์นในวงการเทคโนโลยี
แต่ตอนนี้บุหรี่ไฟฟ้ากำลังถูกจับตาจากหน่วยงานรัฐทั่วโลก
และล่าสุด ซานฟรานซิสโก กำลังเป็นเมืองแรกในสหรัฐอเมริกา ที่แบนบุหรี่ไฟฟ้า หรือ E-cigarettes
และที่น่าสนใจคือ เจ้าตลาดบุหรี่ไฟฟ้าในสหรัฐอเมริกา อย่าง JUUL ก็ก่อตั้งในเมืองนี้
Juul Labs เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าผ่านหน้าร้าน และช่องทางออนไลน์ 
ก่อตั้งในปี 2015 โดยนักศึกษาปริญญาโท ที่สแตนฟอร์ด 
คือ Adam Bowen และ James Monsees ผู้ซึ่งชื่นชอบการสูบบุหรี่
เริ่มแรก Juul เป็นบริษัทย่อยของ Pax Labs บริษัทผลิตบุหรี่ไฟฟ้า
แต่ Juul มีการเติบโตสูง และผลิตภัณฑ์ของบริษัทติดตลาดมากกว่า 
เลยตัดสินใจแยกบริษัทออกมาต่างหากในปี 2017
จุดเด่นบุหรี่ไฟฟ้าของ Juul คือ มีรูปร่างเหมือนแฟลชไดรฟ์ USB ทำให้มีขนาดกะทัดรัด พกพาสะดวก
และการชาร์จก็ใช้แท่นเสียบแบบ USB
นอกจากนี้ยังใช้เกลือนิโคติน หรือ Nicotine salt เป็นส่วนประกอบหลักในยาสูบ 
ซึ่งต่างจากบุหรี่ไฟฟ้าทั่วไปที่ใช้ Freebase Nicotine หรือ นิโคตินบริสุทธิ์
โดยข้อมูลอ้างว่า เกลือนิโคตินจะให้อรรถรสในการสูบมากกว่านิโคตินปกติ
เนื่องจากไม่ทำให้เกิดอาการแสบคอเมื่อสูบ
และน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าจากเกลือนิโคตินจะสามารถอยู่ได้นานกว่าน้ำยาบุหรี่ปกติ
ซึ่งแต่ละตลับ เรียกว่า Juul pods จะมีปริมาณนิโคตินในปริมาณใกล้เคียงกับบุหรี่หนึ่งซอง
เรื่องทั้งหมดนี้ทำให้บุหรี่ไฟฟ้า Juul ได้รับความนิยมสูง โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น
จนแบรนด์นี้ครองส่วนแบ่งตลาดบุหรี่ไฟฟ้าสูงถึง 72% ในสหรัฐอเมริกา
เมื่อปลายปี 2018 
Altria หนึ่งในผู้ผลิตบุหรี่รายใหญ่ของโลก ซึ่งขายบุหรี่ Marlboro, L&M ในสหรัฐอเมริกา
ได้เข้าซื้อหุ้น Juul 35% เป็นมูลค่า 390,000 ล้านบาท
ทำให้ Wells Fargo ประเมินมูลค่าบริษัท Juul Labs สูงถึง 1,170,000 ล้านบาท แม้ว่าจะก่อตั้งมาได้เพียง 4 ปี..
ด้วยความนิยมอย่างแพร่หลาย ไม่เว้นแต่ในหมู่เยาวชน 
จากผลสำรวจพบว่า 9.5% ของวัยรุ่นอายุ 15-17 ปี และ 11% ของอายุ 18-21 ปี จะใช้ผลิตภัณฑ์จาก Juul
อีกแรงจูงใจหนึ่งคือ ด้วยขนาดที่เล็ก ทำให้วัยรุ่นสามารถเก็บซ่อนจากผู้ปกครองได้
เรื่องนี้ทำให้เกิดความกังวลใจกับบรรดาพ่อแม่ หรือผู้ปกครองของเด็ก
จนสำนักงานอาหารและยาสหรัฐฯ หรือ FDA ต้องดำเนินการสอบสวนอยู่หลายครั้ง
และล่าสุดที่ซานฟรานซิสโก เจ้าหน้าที่รัฐได้ลงมติแบนบุหรี่ไฟฟ้า
ทำให้การซื้อขายบุหรี่ไฟฟ้าทั้งในร้านค้า และออนไลน์ผิดกฎหมาย ถือเป็นการแบนครั้งแรกที่มีผลบังคับใช้ในสหรัฐอเมริกา
แต่บุหรี่และผลิตภัณฑ์ยาสูบอื่นๆ ยังคงถูกกฎหมาย รวมทั้งการใช้กัญชาเพื่อนันทนาการ
เรื่องนี้กำลังบอกเราว่า ถึงแม้บุหรี่ไฟฟ้าจะปลอดภัยกว่าบุหรี่ปกติ เนื่องจากได้รับสารเคมีน้อยกว่าถึง 90%
แต่ถ้ามันนิยมอย่างแพร่หลาย ก็สร้างความกังวลให้กับหลายฝ่ายได้
ก็ไม่รู้ว่าการแบนครั้งนี้จะเป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุหรือไม่ 
แล้วจะส่งผลดีมากกว่าผลเสียอย่างไร
เพราะอาจทำให้หลายคนที่สูบบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งอันตรายน้อยกว่า หันกลับไปสูบบุหรี่แบบเดิม 
หรือ อาจกระตุ้นให้เกิดการซื้อขายบุหรี่ไฟฟ้าในตลาดมืดขึ้นได้
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญสุดในการแก้ปัญหาเรื่องนี้ 
ควรจะเป็นการให้คนเลิกสูบบุหรี่ไปเลย..
© 2024 Marketthink. All rights reserved. Privacy Policy.