ทำธุรกิจอย่างไร ไม่ต้องแขวนป้ายคำว่า “เจ๊ง”
14 ก.พ. 2020
บางคนทำธุรกิจแลัวมีกำไรเป็นล้านๆ บาท
ในมุมกลับกันก็มีคนขาดทุนเป็นล้านๆ บาท เช่นกัน
ในมุมกลับกันก็มีคนขาดทุนเป็นล้านๆ บาท เช่นกัน
อะไรที่ทำให้ผลลัพธ์แตกต่างกัน
นี่คือบทวิเคราะห์ที่ตีแผ่จากประสบการณ์จริงของผู้ตกม้าลงมานอนสลบอยู่บนพื้นถนน
ตัวเราเองจึงควรศึกษาไว้เป็นแนวทางเพื่อป้องกันความผิดพลาด
นี่คือบทวิเคราะห์ที่ตีแผ่จากประสบการณ์จริงของผู้ตกม้าลงมานอนสลบอยู่บนพื้นถนน
ตัวเราเองจึงควรศึกษาไว้เป็นแนวทางเพื่อป้องกันความผิดพลาด
1.ขาดการวางแผนธุรกิจ เพราะเราจะใช้ Passion อย่างเดียวไม่ได้
ซึ่งถ้าใจหมดไฟจะทำให้ไปต่อไม่เป็น
ซึ่งถ้าใจหมดไฟจะทำให้ไปต่อไม่เป็น
เพราะฉะนั้นเราควรร่างแผนธุรกิจออกมาชัดเจน
และมีไทม์ไลน์ในการบริหารจัดการที่เป็นขั้นเป็นตอน
เหตุผล...แผนธุรกิจเปรียบเสมือนหางเสือเรือที่จะช่วยบังคับทิศทางการดำเนินธุรกิจ
ให้ไปสู่เป้าหมาย
และมีไทม์ไลน์ในการบริหารจัดการที่เป็นขั้นเป็นตอน
เหตุผล...แผนธุรกิจเปรียบเสมือนหางเสือเรือที่จะช่วยบังคับทิศทางการดำเนินธุรกิจ
ให้ไปสู่เป้าหมาย
2.เงินทุนหมุนเวียนไม่มากพอ การเริ่มธุรกิจจำเป็นต้องมีเงินทุนหมุนเวียนในมือ
เพื่อใช้ดำเนินการต่างๆ เพราะธุรกิจส่วนใหญ่ไม่ค่อยสร้างผลกำไรทันที
เช่น Facebook เคยขาดทุน 1,800 ล้านบาทใน ปี 2007
แม้ปีนั้นจะมีรายได้สูงถึง 8,900 ล้านบาท ก็ตาม
เพื่อใช้ดำเนินการต่างๆ เพราะธุรกิจส่วนใหญ่ไม่ค่อยสร้างผลกำไรทันที
เช่น Facebook เคยขาดทุน 1,800 ล้านบาทใน ปี 2007
แม้ปีนั้นจะมีรายได้สูงถึง 8,900 ล้านบาท ก็ตาม
แต่เชื่อหรือไม่ว่าผ่านไป 13 ปี Facebook สามารถทำกำไรได้ 522,000 ล้านบาท
ในปี ค.ศ.2017 จากยอดผู้ใช้งานทั่วโลก 2,000 ล้านคน
ดังนั้นช่วงเริ่มต้นธุรกิจเราจำเป็นต้องมีเงินทุนสำรองเพื่อใช้หมุนเวียน
ในปี ค.ศ.2017 จากยอดผู้ใช้งานทั่วโลก 2,000 ล้านคน
ดังนั้นช่วงเริ่มต้นธุรกิจเราจำเป็นต้องมีเงินทุนสำรองเพื่อใช้หมุนเวียน
3.ตัวตนไม่ชัดเจน ต้องสร้างเอกลักษณ์ในธุรกิจที่ทำจนมันขายตัวเองได้
อย่างเช่นร้านโดนัท ไม่นิยมขายไก่ทอดหรือสินค้าอื่นๆ นอกจากโดนัทกับเครื่องดื่ม
แม้แต่ร้านไก่ทอดเอง ก็ไม่แตกไลน์โปรดักส์ไปเป็นอย่างอื่นที่นอกเหนือจากไก่ทอด
ทั้งๆ ที่สามารถขายโดนัทได้
นั่นเพราะเขาต้องการสร้างภาพจำในแง่ของความชำนาญให้เกิดขึ้นมาในหัวลูกค้า
อย่างเช่นร้านโดนัท ไม่นิยมขายไก่ทอดหรือสินค้าอื่นๆ นอกจากโดนัทกับเครื่องดื่ม
แม้แต่ร้านไก่ทอดเอง ก็ไม่แตกไลน์โปรดักส์ไปเป็นอย่างอื่นที่นอกเหนือจากไก่ทอด
ทั้งๆ ที่สามารถขายโดนัทได้
นั่นเพราะเขาต้องการสร้างภาพจำในแง่ของความชำนาญให้เกิดขึ้นมาในหัวลูกค้า
4.หย่อนวินัย ธุรกิจของเราเอง จะมาชิวๆ สโลว์ไลฟ์ เปิด-ปิดร้านตามใจไม่ได้
และจะนำเสนอขายในสิ่งที่ชอบและอยากขายโดยไม่สนใจกระแสและเทรนด์ของโลกไม่ได้
เพราะหากยังไม่ปรับวิธีคิดก็เตรียมที่จะเจ๊งปิดกิจการได้เลย
และจะนำเสนอขายในสิ่งที่ชอบและอยากขายโดยไม่สนใจกระแสและเทรนด์ของโลกไม่ได้
เพราะหากยังไม่ปรับวิธีคิดก็เตรียมที่จะเจ๊งปิดกิจการได้เลย
5.ไม่มีการแยกแยะทำบัญชี เจ้าของธุรกิจหลายคนไม่สนเรื่องการทำบัญชี
รายรับ รายจ่าย ในแต่ละเดือน จนถึงไม่คิดค่าแรงให้ตัวเองในแต่ละเดือน
ทำให้มองไม่เห็นภาพของธุรกิจที่ทำอยู่ว่าสร้างรายได้ ให้ผลกำไรหรือขาดทุน ในเรื่องใด
หากเป็นอย่างนี้ก็มีแนวโน้มว่าธุรกิจะมีปัญหาขาดการหมุนเวียนเงินที่ดี
รายรับ รายจ่าย ในแต่ละเดือน จนถึงไม่คิดค่าแรงให้ตัวเองในแต่ละเดือน
ทำให้มองไม่เห็นภาพของธุรกิจที่ทำอยู่ว่าสร้างรายได้ ให้ผลกำไรหรือขาดทุน ในเรื่องใด
หากเป็นอย่างนี้ก็มีแนวโน้มว่าธุรกิจะมีปัญหาขาดการหมุนเวียนเงินที่ดี
6.ขาดการคิดวิเคราะห์และทำการตลาด รู้หรือไม่ว่าการเก็บสถิติต่างๆ เกี่ยวกับข้อมูลการซื้อขาย ข้อมูลพฤติกรรมลูกค้า จะทำให้เราสามารถนำมาปรับใช้ทำเป็นแผนกลยุทธ์ทางการตลาด เพื่อออกแคมเปญโปรโมชั่นต่างๆ โดนใจ กระตุ้นยอดขาย
จนถึงนำมาประยุกต์ใช้ในการวางทิศทางของธุรกิจและวิเคราะห์คู่แข่ง
เพื่อหาทางหนีทีไล่ได้ด้วยเช่นกัน
เพื่อหาทางหนีทีไล่ได้ด้วยเช่นกัน
7. “ถ้ารอให้พร้อมเราจะไม่ได้เริ่มต้น ต้องเริ่มต้นทั้งๆ ที่ยังไม่พร้อม”
เป็นวลีเด็ดที่ช่วยกระตุ้นให้เกิดการ Startup ได้ฉันท์ใด
ก็อาจกลายเป็นวลีจูงใจที่ทำให้ลงทุนผิดทิศทาง
เป็นวลีเด็ดที่ช่วยกระตุ้นให้เกิดการ Startup ได้ฉันท์ใด
ก็อาจกลายเป็นวลีจูงใจที่ทำให้ลงทุนผิดทิศทาง
แต่หากเรามีความจำเป็นเริ่มต้นในขณะที่ยังไม่พร้อมจริงๆ
ก็จำเป็นต้องพัฒนาธุรกิจควบคู่ไปเพื่อให้เกิดความสมบูรณ์และให้มีกำไรในอนาคต
ก็จำเป็นต้องพัฒนาธุรกิจควบคู่ไปเพื่อให้เกิดความสมบูรณ์และให้มีกำไรในอนาคต
reference : ธนาคารกรุงเทพ