Carsome ตั้งเป้า ขึ้นเป็นผู้นำตลาดรถยนต์ไฟฟ้ามือสอง ในประเทศไทย

Carsome ตั้งเป้า ขึ้นเป็นผู้นำตลาดรถยนต์ไฟฟ้ามือสอง ในประเทศไทย

8 มี.ค. 2023
ตอนนี้ ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก รวมถึงไทย กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว อานิสงส์จากปัจจัยเรื่องความก้าวหน้าด้านแบตเตอรี่และเทคโนโลยีต่างๆ, การเข้ามาตีตลาดของค่ายรถต่าง ๆ ทำให้ผู้บริโภคมีตัวเลือกเยอะขึ้น
รวมไปถึงการสนับสนุนจากภาครัฐ ทั้งเรื่องโครงสร้างพื้นฐานและเงินอุดหนุน และเทรนด์รักษ์สิ่งแวดล้อม
เมื่อโลกกำลังเข้าสู่ยุคการเปลี่ยนผ่าน จากรถยนต์สันดาป ไปเป็นรถยนต์ไฟฟ้า
Carsome แพลตฟอร์มซื้อ-ขายรถยนต์มือสอง ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และในประเทศไทย
จึงได้ประกาศวิสัยทัศน์ ว่าจะรุกตลาดรถยนต์ไฟฟ้ามือสอง และก้าวขึ้นเป็นผู้นำในตลาดนี้ ภายในเวลา 3 ปี..
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา Carsome ถือว่าเป็นแพลตฟอร์ม ที่มายกระดับมาตรฐานการซื้อ-ขายรถมือสอง ให้ผู้บริโภคได้รับประสบการณ์และสินค้าที่ดี ในราคายุติธรรม และมีกระบวนการที่โปร่งใส เพิ่มความมั่นใจให้ลูกค้า
โดย Carsome เป็นเจ้าแรกในไทย ที่เปิดตัว Carsome Certified Lab
ศูนย์ปรับสภาพและซ่อมบำรุงรถยนต์มือสองครบวงจรที่แรก และมีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ด้วยพื้นที่กว่า 20,000 ตารางเมตร
วันนี้ Carsome ดำเนินธุรกิจใน 4 ประเทศ ได้แก่ มาเลเซีย, อินโดนีเซีย สิงคโปร์ และไทย
ซึ่งปีที่แล้ว มียอดซื้อ-ขายรถยนต์บนเว็บไซต์ทั้งหมด 160,000 คัน ใน 4 ประเทศ
ส่วนในแง่ของการเติบโต ในปี 2565 ที่ผ่านมา Carsome ประเทศไทย มียอดการเติบโตถึง 10 เท่า เมื่อเทียบกับปี 2564
และแบรนด์ตั้งเป้าปีว่า 2566 นี้ จะเติบโตอย่างน้อย 2 เท่า
อีกทั้งเว็บไซต์ Carsome ประเทศไทย ยังมีจำนวนผู้เข้าชมมากกว่า 670,000 ต่อเดือน
โดยสถิติ ที่ผ่านมาบนเว็บไซต์ Carsome ประเทศไทย พบว่า
2 ใน 3 ของปริมาณรถยนต์ที่นำขึ้นขายบนเว็บไซต์ ถูกจองซื้อภายใน 1 เดือน
โดย 14 วัน คือระยะเวลาเฉลี่ยของรถยนต์ ที่อยู่บนเว็บไซต์
และรถยนต์ที่ถูกจองเร็วที่สุด คือ 2 นาทีเท่านั้น
สำหรับก้าวต่อไปของ Carsome ประเทศไทย และเป้าหมายในปี 2566 นี้
แบรนด์ยังคงมุ่งสานต่อความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์มือสอง
โดยส่งแคมเปญการตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อสนองความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก เช่น
แคมเปญ Carsome Made For Her ที่นำอินไซต์ของลูกค้าผู้หญิง มาเป็นจุดตั้งต้น
และปีนี้ Carsome จะเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44 เสนอโปรโมชันพิเศษให้ลูกค้า
แต่ทิศทางและกลยุทธ์ธุรกิจที่เพิ่มเติมเข้ามาคือ Carsome จะเดินหน้ารุกตลาดรถยนต์ไฟฟ้า โดยตั้งเป้าเป็นผู้นำตลาดรถยนต์ไฟฟ้ามือสอง
ซึ่งตอนนี้ Carsome อยู่ในช่วงเตรียมความพร้อมเพื่อขยายธุรกิจ สู่เป้าหมายดังกล่าว
ทั้งด้านทรัพยากรเทคโนโลยี และการเจรจรกับเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจ เช่น จับมือกับธนาคาร เพื่อให้ลูกค้าได้อัตราดอกเบี้ยต่ำที่สุด
ที่สำคัญ Carsome ได้ทำการสำรวจและเก็บข้อมูลลูกค้า เพื่อนำมาประเมินความเสี่ยงและหาโอกาสทางธุรกิจ เพื่อรุกตลาด
โดยจากผลสำรวจลูกค้า Carsome จำนวน 200 คน เมื่อเดือน ก.พ. 2566 พบว่า..
Top 3 ปัจจัยเสี่ยงในตลาดรถยนต์ไฟฟ้ามือสอง
-เทรนด์ความต้องการของลูกค้าที่ยังไม่แน่นอน และเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
-ราคารถ EV มือสอง ยังไม่มีรูปแบบที่ชัดเชน
-นโยบายทางการเงินและการปล่อยกู้สำหรับ EV มือสอง ที่ยังไม่ชัดเจน
อย่างไรก็ตาม จากแบบสำรวจยังพบว่า ลูกค้าเกือบ 1 ใน 3 มีความสนใจที่จะเปลี่ยนไปใช้รถยนต์ไฟฟ้า ในอีก 1-2 ปีข้างหน้า
สำหรับ Top 3 เหตุผลที่ลูกค้า ตัดสินใจซื้อรถยนต์ไฟฟ้า
98.4% ช่วยประหยัดน้ำมัน
65.6% ช่วยลดมลภาวะและรักษาสิ่งแวดล้อม
48.4% สิทธิประโยชน์ทางภาษี
ส่วน Top 3 เหตุผลที่ลูกค้ายังตัดสินใจไม่ซื้อรถยนต์ไฟฟ้า
68.2% สถานีชาร์จแบตฯ ยังมีจำกัด
40.2% ค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนแบตฯ และอะไหล่ ที่สูง
69.2% ราคารถยนต์ไฟฟ้ายังมีราคาสูง
ทั้งนี้ Carsome วางแผนในการบุกตลาดรถยนต์ไฟฟ้ามือสอง ใน 3 ปีข้าง
-ปี 2566 : ปีแห่งการเตรียมการ
ด้านสินค้า > จับมือผู้ประกอบการรถยนต์ EV (เช่น PTTOR) ร่วมวางแผนซื้อ EV มือสอง และการจัดการแบตเตอรี่
ด้านมาตรฐาน > อบรมพนักงาน เรื่องการปรับสภาพและซ่อมบำรุงรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อรักษามาตรฐานทั้งรถยนต์สันดาป และรถยนต์ไฟฟ้า
ด้านการขาย > จับมือผู้ให้สินเชื่อ เพื่อร่วมวางแผนการจัดการความเสี่ยงและการปล่อยกู้
-ปี 2567 : ปีแห่งการเติบโต
ใช้ประโยชน์จากข้อมูลของลูกค้า Carsome มาสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจ เพื่อหาประเภทรถ EV ที่ลูกค้าต้องการ
-ปี 2568 : ขึ้นแท่นเป็นผู้นำ
โดยบนเว็บไซต์ของ Carsome ต้องมีตัวเลือกรถ EV คุณภาพดี ที่หลากหลายที่สุด และมีราคาดึงดูดที่สุด
© 2024 Marketthink. All rights reserved. Privacy Policy.