MG เผยโฉมดิไซน์ขายจริง “MG Cyberster” โรดสเตอร์ไฟฟ้าเปิดประทุน ที่งานเซี่ยงไฮ้ออโต้โชว์ 2023

MG เผยโฉมดิไซน์ขายจริง “MG Cyberster” โรดสเตอร์ไฟฟ้าเปิดประทุน ที่งานเซี่ยงไฮ้ออโต้โชว์ 2023

20 เม.ย. 2023
บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์ MG ในประเทศไทย อวดยนตรกรรมที่มาพร้อมนวัตกรรม ในงานเซี่ยงไฮ้ออโต้โชว์ 2023 กับ 3 ไฮไลต์
1) การเผยโฉมรูปลักษณ์จริงของ MG Cyberster โรดสเตอร์ไฟฟ้าเปิดประทุน 2 ที่นั่ง ซึ่งโดดเด่นด้วยดีไซน์สุดล้ำ และประตูแบบปีกนก
รถรุ่นนี้จ่อเตรียมผลิตเพื่อจำหน่ายทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยด้วย
2) เปิดตำนานบทใหม่อย่าง MG7 สปอร์ตซีดานหรูระดับแฟล็กชิพเจ้าของสถิติ Guinness World Record เมื่อช่วงต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา
จากบททดสอบสุดทรหด บนเส้นทางสายลาซาในทิเบต ที่ระดับความสูง 5,978.17 เมตร ซึ่งเป็นระดับความสูงที่สูงที่สุด ที่รถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยน้ำมันเชื้อเพลิงเคยไปถึง
3) EV รุ่นฮิตอย่าง MG4 ELECTRIC ที่สามารถพิชิตรางวัลคุณภาพระดับโลก
-MG Cyberster
โรดสเตอร์ไฟฟ้ารุ่นนี้ บริเวณกระจังหน้า และแผงกันชนหน้า ได้รับการออกแบบด้วยดิไซน์ "Wind Hunter” ในขณะที่รูปลักษณ์ของไฟหน้า ถูกออกแบบให้ดูมีขนาดใหญ่ ซึ่งสร้างความโดดเด่น
และอีกหนึ่งองค์ประกอบด้านการออกแบบที่น่าสนใจ คือ เส้นด้านข้างของตัวรถบริเวณใต้กรอบกระจก ที่มีด ไซน์แบบ “Leopard Jump Shoulder Line” มุ่งเน้นให้เห็นรูปร่างอันแข็งแกร่ง และทรวดทรงที่สะท้อนถึงความแข็งแกร่ง และช่วยให้รถมีศูนย์ถ่วงต่ำ
ด้านท้ายของ MG Cyberster ถูกออกแบบในสไตล์ Kammback Design โดยท้ายจะมีลักษณะลาดตัดสั้น และส่วนโค้งด้านหลังตัวรถที่ยกขึ้นเล็กน้อยคล้ายหางเป็ด (Duck Tail) ช่วยให้ด้านหลังของรถดูโดดเด่น ควบคู่ไปกับการยกระดับคุณสมบัติด้านอากาศพลศาสตร์ของตัวรถ
ทั้งนี้ สามารถรับชมคลิปเต็มของ MG Cyberster ผ่านทาง https://youtu.be/qqvsvQJZ6kI
ก่อนที่จะมีกำหนดเปิดโฉมคันจริง และจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการภายในปี 2566
-MG7
สำหรับ MG7 ถือเป็นโมเดลที่โดดเด่นในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นการดิไซน์ตัวถังแบบ Fastback ท้ายสั้นมีหลังคาที่ลาดลงด้านหลังกึ่งรถคูเป้ เส้นสายรอบคันชัด เฉียบคม ช่วยเสริมภาพลักษณ์สายพันธุ์สปอร์ต
มาพร้อมบานประตูแบบไร้กรอบเฉกเช่นรถซูปเปอร์คาร์ สปอยเลอร์หลังแบบสามก้านควบคุมด้วยไฟฟ้าสามารถยกขึ้นลงได้ ช่วยเสริมประสบการณ์การขับขี่ที่ดียิ่งขึ้น
มาพร้อมห้องโดยสารสุดพรีเมียมที่ให้ความสุนทรีตลอดการขับขี่ ไม่ว่าจะเป็น หลังคาซันรูฟแบบเต็มบาน เบาะดีไซน์สปอร์ตหุ้มหนังคุณภาพสูง หน้าจอแสดงผลแบบ Dual Widescreen Cockpit ที่ดูล้ำสมัย ระบบเสียงรอบทิศจากลำโพง BOSE ®Premium audio system และเทคโนโลยี Zebra Venus 2.0 Intelligent System
ทั้งนี้ MG7 มีด้วยกัน 2 รุ่นย่อย คือ รุ่นเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบ พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด
และรุ่นเครื่องยนต์ 1.5 ลิตรเทอร์โบ ซึ่งเป็นเครื่องยนต์สมรรถนะสูง พร้อมเกียร์ Dual Clutch แบบ 7 สปีด ให้กำลังสูงสุด 188 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 300 นิวตัน-เมตร ที่ 1,500 รอบต่อนาที
โดยสามารถเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้ภายในระยะเวลาเพียง 6.5 วินาที
และมีอัตราประหยัดน้ำมันอยู่ที่ 17.8 กิโลเมตรต่อลิตร ตามมาตรฐาน NEDC
-MG4 ELECTRIC
รถรุ่นนี้ ถือเป็นโกลบอลโมเดลที่ได้รับการยอมรับจากผู้คนทั่วโลก จำหน่ายอยู่ใน 30 ประเทศ ทั่วทวีปยุโรป และขยายตลาดต่อไปยังภูมิภาคอื่น ๆ รวมถึงประเทศออสเตรเลีย และประเทศไทย
นับตั้งแต่ MG4 ELECTRIC เปิดตัวและจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนกันยายน 2565 สามารถสร้างสถิติใหม่ด้วยตัวเลขยอดขายที่ทะยานสู่ 20,000 คันทั่วโลกในเวลาเพียง 1 เดือน
เมื่อเดือนมกราคม 2566 MG ส่งมอบ MG4 ELECTRIC สู่ตลาดยุโรปไปแล้วกว่า 5,000 คัน
และล่าสุดเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ยอดขายของโกลบอลโมเดลรุ่นนี้ได้สร้างสถิติใหม่อีกครั้ง ด้วยการเป็นรถยนต์ MG รุ่นแรกในตลาดนอกประเทศจีน ที่มียอดจัดจำหน่ายเกินกว่า 10,000 คัน
นอกเหนือจากเสียงตอบรับจากผู้บริโภคทั่วโลกแล้ว MG4 ELECTRIC ยังได้รับเสียงชื่นชมจากสื่อมวลชนทั่วโลกเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น รางวัล EV BREAKTHROUGH OF THE YEAR จาก Prestigious Fleet News Awards รางวัล THE UK CAR OF THE YEAR 2023
และรางวัล BEST FAMILY CAR จาก UKCOTY รางวัล ARIP BUSINESS+ PRODUCT INNOVATION AWARD 2023 รางวัล 2023’s Best Small EV จากนิตยสาร WHATCAR! รางวัลรถยนต์คุ้มค่าแห่งปี (Bargain of the Year) จากนิตยสารและรายการสารคดีรถยนต์ชื่อดังจากอังกฤษ Top Gear เป็นต้น
Tag:MG
© 2024 Marketthink. All rights reserved. Privacy Policy.