“เพาะพันธุ์ปัญญาแคมป์” ปลุกพลังเยาวชนน่าน พัฒนาตน เป็นคนใหม่ที่ดีกว่าเดิม

“เพาะพันธุ์ปัญญาแคมป์” ปลุกพลังเยาวชนน่าน พัฒนาตน เป็นคนใหม่ที่ดีกว่าเดิม

30 มิ.ย. 2023
ข่าวประชาสัมพันธ์..
ปิดเทอมภาคฤดูร้อนสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมปลายหลาย ๆ คนอาจจะใช้ช่วงเวลานี้ไปกับการพักผ่อน เล่นเกม กิจกรรมสันทนาการ หรือการท่องเที่ยวกับครอบครัว แต่สำหรับน้อง ๆ กลุ่มหนึ่งในจังหวัดน่าน ฤดูร้อนปีนี้แตกต่างออกไปจากทุก ๆ ปี เพราะพวกเขาเลือกที่จะมาค้นหาตัวเองใน “เพาะพันธุ์ปัญญาแคมป์”
ค่ายเยาวชนที่ทำให้พวกเขาได้เรียนรู้การทำธุรกิจ และได้สัมผัสกับการเป็นผู้ประกอบการตัวจริง เป็นการให้องค์ความรู้ใหม่ ให้ทักษะใหม่ และให้โอกาสในการหาประสบการณ์ใหม่ ๆ เพื่อพัฒนาตัวเองแก่เยาวชนที่เข้าร่วม ภายใต้แนวคิด “66 วัน เรียนรู้ชีวิต ทำธุรกิจให้เป็นจริง”
นั่นทำให้ตลอดช่วงปิดเทอมใหญ่ของพวกเขา กลับกลายเป็นช่วงเวลาที่มีความหมาย และมีคุณค่ายิ่งกว่าทุก ๆ ปี เพราะโจทย์หลักของแคมป์ คือเรียนรู้การทำธุรกิจผ่านการลงมือทำจริง ด้วยเงินทุนสนับสนุนเริ่มต้นจากทางมูลนิธิฯ แต่ผลลัพธ์ของค่ายนี้ไม่ได้อยู่ที่ตัวผลิตภัณฑ์ หรือผลกำไรของธุรกิจที่น้องๆ สร้างขึ้น
ผลที่ได้คือการพัฒนาทักษะชีวิตของน้อง ๆ ในค่ายที่จะได้รู้จักตัวเองมากขึ้นและเติบโตขึ้นอย่างมีคุณภาพ เมื่อจบจากค่ายแล้วพวกเขาจะมีความภูมิใจ มีความกล้าและมั่นใจในตัวเอง พร้อมที่จะก้าวออกไปเผชิญกับโลกความเป็นจริงในอนาคต
กิจกรรมของเพาะพันธุ์ปัญญาแคมป์ จึงถูกออกแบบมาให้ใช้เวลาถึง 66 วัน เป็นหลักสูตรนอกโรงเรียนที่มีทั้งเกมสันทนาการและสาระเข้มข้นของการสร้างธุรกิจ
โดยแบ่งออกเป็น 3 แคมป์หลัก คือแคมป์กล้าเรียน เป็นการเรียนรู้เกี่ยวกับการทำธุรกิจ ถัดมาคือแคมป์กล้าลุย คือช่วงเวลาของการลงมือปฏิบัติด้วยการขายของจริง และสุดท้าย แคมป์กล้าก้าว สรุปผลธุรกิจและปิดบริษัท นอกจากนี้ยังมีช่วงเวลานอกแคมป์ ที่แต่ละทีมไปดำเนินธุรกิจตามแผนที่กำหนดไว้ ทำให้กว่า 2 เดือนเศษของพวกเขาเต็มไปด้วยความท้าทาย แต่สุดท้ายก็สามารถที่จะหาหนทางแก้ไขและผ่านเรื่องราว ผ่านอุปสรรคต่าง ๆ มาได้ด้วยตัวเอง
โดยน้องๆ เพาะพันธุ์ปัญญาแคมป์ รุ่นที่ 1 มีทั้งหมด 8 ทีม จาก 8 โรงเรียนทั่วจังหวัดน่าน ทีมละ 5 คน รวมจำนวน 40 คน ประกอบด้วย โรงเรียนศรีสวัสดิ์วิทยาคาร อ.เมืองน่าน โรงเรียนสา อ.เวียงสา โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 56 อ.เวียงสา โรงเรียนปัว อ.ปัว โรงเรียนท่าวังผาพิทยาคม อ.ท่าวังผา โรงเรียนเชียงกลางประชาพัฒนา อ.เชียงกลาง โรงเรียนพระธาตุพิทยาคม อ.เชียงกลาง และ โรงเรียนเมืองลีประชาสามัคคี อ.นาหมื่น
ดร.อดิศวร์ หลายชูไทย กรรมการผู้จัดการ มูลนิธิเพาะพันธุ์ปัญญา กล่าวว่า “หลังจากผ่านการจัดมาทั้งหมด 3 แคมป์ สิ่งที่สังเกตได้คือ น้อง ๆ เหล่านี้โตขึ้น มีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น นั่นเกิดจากการที่เขาเห็นปัญหา สามารถวิเคราะห์ถึงปัญหาและบอกได้ว่าต้นเหตุของปัญหาคืออะไร รู้ว่าปัญหานั้นแก้ได้ และควรไปแก้ที่ต้นเหตุ
เป็นกระบวนการคิดวิเคราะห์ผลที่เกิดจากเหตุด้วยตรรกะ หาทางออกด้วยการแก้ไขจากทักษะที่มี หรือหากเขาทำไปแล้วล้ม แต่ก็ยังทำต่อได้ด้วยความตั้งใจ โดยกลับมามองปัญหาใหม่อีกครั้ง และแก้ไขอีกทั้ง พวกเขาจะลุกและเดินหน้ามาจนถึงจบค่ายได้
ที่สำคัญพวกเขาทำงานร่วมกันกับเพื่อนร่วมงานได้ แม้จะมีปัญหาเกิดขึ้นตลอดทาง ด้วยเพราะอาจจะไม่คุ้นเคยกันมาก่อน อาจจะไม่เข้าใจกันทั้งหมด แต่พวกเขาสามารถจบลงได้ด้วยการพูดคุยกันได้
แต่จากนี้ไป การจะนำไปพัฒนาตนเองต่ออย่างไรนั้นขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของพวกเขาเอง แต่เชื่อได้ 100% ว่า น้อง ๆ ที่ผ่านแคมป์เพาะพันธุ์ปัญญา พวกเขาจะคิดได้ว่ายังสามารถพัฒนาไปต่อได้อีกมาก และหากกลับบ้านไปแล้วคิดว่าการเรียนรู้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตลอดชีวิต องค์ความรู้ใหม่ ๆ ทักษะใหม่ ๆ และประสบการณ์ จะช่วยทำให้ทุกเรื่องไม่ว่าจะเป็นการเรียน การทำธุรกิจหรือชีวิตส่วนตัว จะได้รับการดูแล ตีโจทย์และแก้ไขปัญหาได้อย่างถูกต้อง และหากเขาทำได้ทั้งหมดแบบนี้ ต่อไปไม่ว่าจะทำอะไรเชื่อว่าจะช่วยลดความเสี่ยงของความไม่สำเร็จลงได้”
จากโอกาสที่ได้รับ บวกกับความทุ่มเท ใส่ความพยายาม ความคิดสร้างสรรค์ ความกล้าเผชิญกับอุปสรรคที่พบเจอตลอดทาง นำไปสู่การรู้จักการแก้ปัญหาจนทำให้พวกเขาสามารถผ่านอุปสรรคมาได้จนถึงปลายทาง ไม่ว่าธุรกิจนั้นจะกำไรหรือขาดทุน
แต่พวกเขาได้ผ่านเรื่องราวสนุกสนานที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ ในบางขณะก็มีแต่คราบน้ำตา แต่พวกเขาก็จับมือผ่านสิ่งเหล่านั้นมาได้ด้วยกัน ภายในระยะเวลาสั้น ๆ ของ “เพาะพันธุ์ปัญญาแคมป์” แต่กลับเป็นความเปลี่ยนแปลงอย่างก้าวกระโดดของน้อง ๆ เลยทีเดียว
 #มูลนิธิเพาะพันธุ์ปัญญา #เพาะพันธุ์ปัญญาแคมป์ #เรียนรู้ชีวิตทำธุรกิจให้เป็นจริง

© 2024 Marketthink. All rights reserved. Privacy Policy.