ตอนนี้แอป Robinhood ใช้เรียกรถได้แล้ว แถมราคาเป็นมิตร

ย้อนกลับไปในยุคที่เรายังไม่ได้มีแพลตฟอร์มมาอำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิต ถ้าเราอยากจะเรียกแท็กซี่สักคัน ตัวเลือกเดียวของเรา คือ การเดินออกไปโบกข้างถนน หรือไม่ก็ฝากคนอื่นไปโบกให้ 

สิ่งที่ตามมาก็คือ เราอาจจะเจอปัญหาแท็กซี่ปฏิเสธที่จะรับผู้โดยสาร ไม่รู้ว่าจะเจอกับค่าโดยสารเท่าไร หรืออาจต้องรับมือกับคนขับที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม และอีกสารพัดปัญหา

แต่วันนี้ Pain Point เหล่านั้น ได้ถูกแก้ด้วย “แพลตฟอร์มเรียกรถยนต์” ที่ช่วยให้ทุกคนสามารถเรียกรถยนต์โดยสารได้ แถมรู้อัตราค่าโดยสารที่แน่นอน ขอแค่มีโทรศัพท์มือถือที่พอใช้ได้ กับสัญญาณอินเทอร์เน็ต..

ซึ่งการมาของแพลตฟอร์มเรียกรถยนต์ ได้เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคไปอย่างสิ้นเชิง 
เชื่อหรือไม่ว่า ทุกวันนี้คนไทยกว่า 65% ไม่โบกรถตามถนนกันแล้ว แต่เปลี่ยนมาเรียกรถผ่านแอปแทน

ถึงอย่างนั้นก็น่าเสียดายว่า การเกิดมาเพื่อแก้ Pain Point เก่า ๆ ของแพลตฟอร์มเรียกรถยนต์ กลับกำลังสร้าง Pain Point ใหม่ ๆ ที่คาดไม่ถึงให้ทั้งฝั่งคนขับและผู้โดยสาร 

เริ่มจากฝั่งผู้โดยสาร ที่มีตัวเลือกน้อยเกินไป ทำให้ต้องยอมจ่ายค่าโดยสารที่สูงอย่างเลี่ยงไม่ได้
ฝั่งคนขับเองก็พบปัญหา เรื่องของการหักค่า GP ที่สูงจนกระทบกับคุณภาพชีวิต

พอเป็นแบบนี้ “Robinhood (โรบินฮู้ด)” ซูเปอร์แอปที่มีโมเดลธุรกิจในการช่วยเหลือ “คนตัวเล็ก” มาโดยตลอด จึงต้องการเพิ่มทางเลือกใหม่ ๆ ให้กับทุกฝ่าย

ด้วยการเปิดตัวบริการใหม่ “Robinhood Ride” บริการเรียกรถยนต์ ที่มาพร้อมแนวคิด “บริการเรียกรถที่แฟร์และแคร์คุณ” 

แล้วเรื่องนี้มีอะไรน่าสนใจบ้าง ?
บริการเรียกรถที่แฟร์และแคร์คุณ เป็นอย่างไร ? 
MarketThink จะสรุปให้ฟัง 

Robinhood Ride เป็นบริการเรียกรถที่สามารถเรียกรถยนต์ได้มากถึง 8 ประเภท รองรับทุกความต้องการ ไม่ว่าจะเป็น รถแท็กซี่, รถยนต์ทั่วไป, รถยนต์ไฟฟ้า, รถยนต์พรีเมียม หรือรถยนต์ SUV สำหรับผู้มีสัมภาระ 

ซึ่งทั้งหมดจะมาพร้อมกับตัวเลือกในการเดินทางที่แคร์ผู้โดยสารทุกคน เช่น ผู้หญิงที่เดินทางคนเดียวและกังวลเรื่องความปลอดภัย ก็สามารถเลือกคนขับที่เป็นผู้หญิงได้ หรือคนที่ต้องการความสงบระหว่างเดินทาง ก็สามารถเลือก Silent Mode ที่คนขับจะให้ความเป็นส่วนตัว ไม่ชวนคุยตลอดการเดินทางได้เช่นกัน 

ในส่วนของราคา Robinhood Ride ก็เรียกได้ว่าค่อนข้างแฟร์ถ้าเทียบกับคู่แข่งในตลาด โดยราคาเริ่มต้นในกรณีเรียกรถแท็กซี่จะอยู่ที่ 35 บาท + ค่าเรียกรถ 20 บาท 

ส่วนรถยนต์ทั่วไป 2 กิโลเมตรแรก ราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ 45 บาท + ค่าเรียกรถ 20 บาท เท่านั้น

ในแง่ของการบริการก็หายห่วง เพราะคนขับของ Robinhood Ride จะมีมาตรฐานระดับเดียวกับ ไรเดอร์ Robinhood ที่ขึ้นชื่อในเรื่องความสุภาพและมารยาทในการบริการที่ดีมาโดยตลอด

ทำให้ลูกค้าสามารถมั่นใจได้เลยว่าจะได้รับประสบการณ์ดี ๆ ในทุก ๆ การเดินทาง และเพื่อเพิ่มความอุ่นใจในการเดินทาง Robinhood Ride ยังมี Feature เด็ดให้ผู้โดยสารสามารถแชร์เส้นทางให้คนอื่น ๆ รู้ได้ว่าตอนนี้เราอยู่ที่ไหนได้แบบเรียลไทม์ 

แถมยังมีประกันเหตุร้ายให้ผู้โดยสารทุกคนที่เดินทางในช่วงเวลา 4 ทุ่ม - ตี 4 ด้วยวงเงินมากถึง 50,000 บาท 

นอกจากจะ “แคร์และแฟร์” กับฝั่งคนนั่งแล้ว ฝั่งคนขับเองก็เช่นกัน..

เพราะ Robinhood Ride รู้ดีว่า หนึ่งในต้นทุนที่สำคัญของคนขับ ก็คือค่า GP หรือส่วนแบ่งจากรายได้ที่คนขับต้องจ่ายให้กับเจ้าของแอป 

โดยปัจจุบันแอปเรียกรถหลายเจ้า มีการเก็บค่า GP อยู่ที่ราว ๆ 25-30% ซึ่งสูงพอจะส่งผลกระทบตรง ๆ กับคุณภาพชีวิตของคนขับ

ดังนั้น เพื่อช่วยเป็นทางเลือกให้ผู้ขับขี่ Robinhood Ride จึงเลือกที่จะเก็บค่า GP แค่ 20% เท่านั้น และยังไม่มีแผนที่จะขึ้นค่า GP ในเร็ว ๆ นี้แน่นอน 

นอกจากนี้ อีกปัญหาที่เหล่าคนขับต้องเจอกันบ่อย ๆ ไม่แพ้ค่า GP สูง นั่นก็คือ “การเติมเครดิต” 

เพราะตอนนี้หลายแอป จะกำหนดให้คนขับต้องเติมเงินเข้าไปในระบบก่อน เพื่อให้แพลตฟอร์มสามารถเก็บเงินจากคนขับได้ ในกรณีที่ผู้โดยสารชำระค่าเดินทางเป็นเงินสด 

พูดง่าย ๆ คือ เหมือนให้คนขับโอนค่าโดยสารล่วงหน้าไปให้แพลตฟอร์มก่อน แล้วให้คนขับไปตามเก็บเงินสดจากผู้โดยสารเอง

ซึ่งหมายความว่าก่อนคนขับจะเริ่มงานของแต่ละวันได้ คนขับก็ต้องสำรองจ่ายเงินตรงนี้ไปก่อน ซึ่งถือเป็นต้นทุนอย่างหนึ่ง

ดังนั้น ด้วยความที่ Robinhood Ride เป็นแอปแบบ “ไร้เงินสด” ทำให้ผู้โดยสารที่ขึ้นมาทุกคนต้องชำระเงินผ่านช่องทางออนไลน์อยู่แล้ว Robinhood Ride จึงไม่มีความจำเป็นต้องเรียกเงินจากผู้ขับมาก่อน

ซึ่งหมายความว่า ต้นทุนในการทำงานกับ Robinhood Ride จะต่ำกว่าแพลตฟอร์มอื่น ๆ ที่กำหนดให้คนขับต้องเติมเครดิตก่อนเริ่มงานทันที 

จากนี้ ก็น่าคิดตามว่า การมาของ Robinhood Ride จะสามารถสั่นสะเทือนตลาดบริการเรียกรถที่มีมูลค่ากว่า 70,000 ล้านบาท และยังไม่มีทีท่าจะหยุดโต ได้มากขนาดไหน ? 

โดย Robinhood Ride นั้นมีเป้าหมาย คือการเป็น Top 3 ของแพลตฟอร์มเรียกรถยนต์ในไทย ซึ่งถ้าดูจากความสำเร็จของ Robinhood Food ที่ผ่านมา และแนวทางที่ใส่ใจทั้งคนนั่งและคนขับ ก็ต้องบอกเลยว่า เป็นไปได้ไม่ยาก 

อย่างไรก็ตาม ในช่วงแรก Robinhood Ride ยังเปิดให้บริการในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลเท่านั้น และถ้าได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจในตลาดกรุงเทพฯ ในอนาคตก็มีโอกาสจะขยายบริการออกไปให้มากขึ้นแน่นอน

ส่วนใครที่อยากรู้ว่าประสบการณ์ตอนนั่ง Robinhood Ride พิเศษขนาดไหน ? 
ก็สามารถเข้าไปดูได้ที่ https://youtu.be/LzaNoj5u7r4

พิเศษในช่วงเปิดตัว Robinhood Ride เพียงกรอกโคด “CARE” ก็รับทันที ส่วนลดพิเศษสูงถึง 50 บาท เมื่อมีค่าโดยสารขั้นต่ำ 100 บาท 

แต่รีบหน่อย เพราะใช้ได้ถึง 30 กันยายนนี้ เท่านั้น..