“BevChain Logistics” เปิดศูนย์กลางกระจายสินค้าแห่งแรกในประเทศไทย รองรับการกระจายสินค้า ทั้งในเมืองไทย และ CLMV

“BevChain Logistics” เปิดศูนย์กลางกระจายสินค้าแห่งแรกในประเทศไทย รองรับการกระจายสินค้า ทั้งในเมืองไทย และ CLMV

30 ส.ค. 2023
บริษัท บีอาร์เอฟ โลจิสติคส์ จำกัด (BevChain Logistics) ภายใต้การร่วมทุนระหว่าง บริษัท บุญรอด ซัพพลายเชน จำกัด และบริษัท ลินฟ้อกซ์ โฮลดิ้งส์ 2018 (ประเทศไทย) ผู้นำด้านบริการโลจิสติคส์จากประเทศออสเตรเลีย เปิดศูนย์กลางกระจายสินค้า (Central Distribution Center) พื้นที่กว่า 90,000 ตารางเมตร ที่ลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี รองรับการกระจายสินค้า เชื่อมตลาดเป้าหมายทั่วประเทศไทย รวมถึงกลุ่มประเทศ CLMV
คุณปิติ ภิรมย์ภักดี ประธานคณะกรรมการ บริษัท บุญรอด ซัพพลายเชน จำกัด กล่าวว่า 
ศูนย์กลางการกระจายสินค้าในประเทศไทยหรือ Central Distribution Center ของ BevChain Logistics จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการรองรับการกระจายสินค้า และเชื่อมตลาดเป้าหมายทั่วประเทศไทย รวมถึงกลุ่มประเทศ CLMV โดยการพัฒนาศูนย์กระจายสินค้าขนาดใหญ่ บนพื้นที่กว่า 90,000 ตารางเมตร ที่ลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี สำหรับเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ในการกระจายสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เนื่องจากเป็นเส้นทางศูนย์กลางสำคัญในการเชื่อมโยงไปยังทั่วประเทศ ทั้งในพื้นที่ภาคกลาง ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย 
สำหรับจุดเด่นของศูนย์กลางกระจายสินค้า BevChain Logistics แห่งแรกของประเทศไทย ได้รับการออกแบบ เพื่อให้มีความทันสมัย และเป็นไปตามมาตรฐานสากล รวมทั้งยังได้นำ Digital Service มาใช้ในระบบบริหารจัดการคลังสินค้า คือ Infor Cloud WMS (Infor Cloud Warehouse Management System) ซึ่งสามารถผสานการทำงานระบบของลูกค้าเชื่อมโยงเข้ากับระบบภายในของบริษัทโดยตรง และ Realtime เพื่อสร้างความมั่นใจถึงประสิทธิภาพในการบริหารจัดการสินค้าได้อย่างสูงสุด ทั้งการตรวจเช็คน้ำหนักการบรรทุกสินค้าให้สอดคล้องตามมาตรฐานความปลอดภัย รวมทั้งบริหารระยะเวลาในการขนส่งสินค้า หลังจากได้รับคำสั่งซื้อ (Order) ไปจนตลอดเส้นทางของการขนส่ง เป็นต้น 
ด้าน Mr.Peter Fox Executive Chairman, Linfox International Group กล่าวว่า 
หลังการเปิดให้บริการได้อย่างเต็มศักยภาพช่วงปลายปี คาดว่าศูนย์กลางกระจายสินค้าแห่งนี้ จะสามารถรองรับการเคลื่อนย้ายสินค้าได้กว่า 1 ล้านกล่องต่อวัน ขณะที่ปัจจุบันรองรับได้ราว 70% ของศักยภาพเต็ม พร้อมจัดสรรพื้นที่กว่า 30,000 ตารางเมตร สำหรับธุรกิจในกลุ่มของสิงห์ซึ่งเป็นหนึ่งในลูกค้าหลักของ BevChain Logistics ซึ่งที่ผ่านมาสามารถช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“การมีระบบโลจิสติคส์ที่ดีไม่ได้เพียงแค่ช่วยทำให้ธุรกิจมีต้นทุนลดลงเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานได้หลากหลายมิติ ทั้งการควบคุมคุณภาพสินค้า ระยะเวลาในการขนส่งทำให้มีสินค้าไปส่งถึงร้านค้าต่างๆ ได้ตรงเวลาและสม่ำเสมอ ทำให้ไม่ต้องสต็อกสินค้าจำนวนมากและมีสินค้าสดใหม่อยู่เสมอ ช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นของทั้งลูกค้าและผู้บริโภคต่อสินค้าและการบริการของแต่ละองค์กรอีกด้วย สะท้อนได้ว่าความร่วมมือตลอด 5 ปี ของทั้งบุญรอดฯ และ ลินฟ้อกซ์ ภายใต้การขับเคลื่อนของ BevChain Logistics นั้น ไม่ได้สร้างประโยชน์ให้แค่บุญรอดฯ หรือ ลินฟ้อกซ์เท่านั้น แต่ยังเป็นการเพิ่มศักยภาพของภาคธุรกิจการขนส่งและโลจิสติคส์ของทั้งประเทศไทยให้มีความสามารถในการแข่งขันในภาพรวมเพิ่มมากขึ้นเช่นเดียวกัน” คุณปิติ กล่าว
BevChain Logistics มีห้องควบคุมอุณหภูมิขนาดใหญ่พื้นที่ 1,400 ตารางเมตร เพิ่มเติมในอนาคต เพื่อรองรับการสินค้านำเข้ามาจากต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น พร้อมทั้งพัฒนาคลังสินค้าแห่งใหม่ในหลายพื้นที่เชิงยุทธ์ศาสตร์ของประเทศไทย เพื่อให้ครอบคลุมการส่งมอบบริการที่ดียิ่งขึ้นให้แก่ลูกค้าได้ทั่วทั้งประเทศ รวมทั้งรองรับการขยายบริการด้านโลจิสติคส์ให้แก่ลูกค้าในภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม หรือกลุ่มประเทศ CLMV เพื่อมุ่งมั่นในการส่งมอบบริการที่ดียิ่งขึ้นให้แก่ลูกค้า
© 2024 Marketthink. All rights reserved. Privacy Policy.