เมื่อภาวะโลกรวนเข้าขั้นวิกฤต อสังหาฯ ต้องเร่งปรับตัวเพื่ออนาคต พาส่อง “ระบบสาธารณูปโภคส่วนกลาง” นวัตกรรมอัจฉริยะเพื่อความยั่งยืน
16 พ.ย. 2023
ภัยอันตรายจากวิกฤตภาวะโลกรวนเริ่มปรากฏให้เห็นทั่วโลกในช่วงศตวรรษที่ผ่านมา ทั้งสภาพอากาศแปรปรวนที่ทำให้ผลผลิตทางการเกษตรและวงการอาหารทั่วโลกได้รับผลกระทบมหาศาล ตลอดจนการยืนยันว่าอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกได้เพิ่มสูงขึ้นถึง 1.1 องศา และอาจแตะ 1.5 องศาภายในปี 2027 รวมถึงระดับน้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 100 ปีที่ผ่านมา จนอาจแตะระดับ 2 เมตรภายในสิ้นปี 2100 หลักฐานอันน่ากังวลใจเหล่านี้
ทำให้รัฐบาลและทุกภาคส่วนทั่วโลกนำปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมและการปรับเปลี่ยนเพื่ออนาคตที่ยั่งยืนมาเป็นวาระเร่งด่วน แน่นอนว่า วงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นผู้สร้างพื้นที่สำหรับอยู่อาศัย อาคารสำนักงาน และพื้นที่ใช้สอยที่เป็นศูนย์รวมของคนจำนวนมาก เป็นอีกหนึ่งภาคส่วนที่สามารถปรับตัวเพื่อเปลี่ยนโลกให้ยั่งยืนขึ้นได้
ด้วยการนำนวัตกรรมล้ำสมัยมาประยุกต์ใช้ เพื่อช่วยประหยัดพลังงาน ลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ตลอดจนลดการใช้ขยะพลาสติกที่กำลังล้นโลกอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งหากมีโซลูชันที่ช่วยทำสิ่งเหล่านี้ได้ ก็จะช่วยลดภาวะโลกร้อนได้อย่างเป็นรูปธรรม
>พาชมนวัตกรรมสีเขียวสู่อสังหาฯ รักษ์โลก
เมื่อมีโครงการอสังหาฯ ก็ต้องมีระบบสาธารณูปโภคเพื่อใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น ระบบไฟฟ้า ระบบน้ำ ระบบสายสัญญาณสื่อสาร และระบบทำความเย็น เป็นต้น โดย บริษัท ยูนิซัส กรีน เอ็นเนอร์จี จำกัด (Unisus Green Energyผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบและการวางระบบสาธารณูปโภคส่วนกลางสำหรับโครงการภาคเอกชนรายแรกในประเทศไทย เล่าว่า
หากโครงการอสังหาฯ ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นทั้งคอนโด สำนักงาน หรืออาคารมิกซ์ยูส ได้รับการออกแบบและติดตั้งระบบสาธารณูปโภคส่วนกลางที่ผสานนวัตกรรมล้ำสมัย โครงการนั้นจะสามารถช่วยลูกบ้านและผู้คนจำนวนมหาศาลลดการใช้ทรัพยากร ประหยัดค่าใช้จ่าย อีกทั้งเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยรักษาโลกนี้ไว้ให้แก่คนรุ่นหลัง
ยูนิซัส กรีน เอ็นเนอร์จี มุ่งมั่นที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกต่อโลกผ่านการบริหารจัดการน้ำและพลังงานที่ดีขึ้นและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จึงนำเสนอ 2 โซลูชันล้ำสมัย ได้แก่ 1) ระบบผลิตความเย็นแบบรวมศูนย์ (District Cooling System - DCS) และ2) ระบบผลิตน้ำดื่มแบบรวมศูนย์ (District Drinking Water System - DDWS)
>ระบบผลิตความเย็นแบบรวมศูนย์: เซฟค่าไฟ-บอกลาคอยล์ร้อนเจ้าปัญหา
ระบบผลิตความเย็นแบบรวมศูนย์ (District Cooling System: DCS)เป็นนวัตกรรมที่ใช้น้ำเย็นทำความเย็นภายในทุกอาคารของโครงการ โดยการทำงานของระบบDCS จะเริ่มจากอาคารสาธารณูปโภคส่วนกลาง (Central Utility Plant: CUP) ที่มีการติดตั้งเครื่องชิลเลอร์เพื่อคอยผลิตน้ำเย็น
จากนั้นจึงส่งน้ำเย็นผ่านเครือข่ายท่อหุ้มฉนวนเพื่อกระจายไปยังยูนิตต่าง ๆ ภายในโครงการเพื่อทำความเย็นและปรับอุณหภูมิตามความต้องการได้อย่างอิสระ เมื่อน้ำเย็นถูกใช้ทำความเย็นแล้วจะมีอุณหภูมิเพิ่มขึ้น และจะไหลกลับไปยัง CUP เพื่อทำให้น้ำนั้นเย็นลงอีกครั้งและส่งกลับไปใช้งานเป็นวงจรแบบนี้อย่างต่อเนื่อง
โดย CUP จะมีถังเก็บพลังงานความเย็น (Thermal Energy Storage Tank - TES) ที่เก็บพลังงานความเย็นได้ถึง 2.6 หมื่นตันต่อชั่วโมง ซึ่งถือเป็นถังแรกในประเทศไทยที่สามารถกักเก็บพลังงานความเย็นได้ในลักษณะนี้
ระบบผลิตความเย็นนี้ จะให้ความเย็นตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่ต้องกังวลเรื่องไฟดับ เนื่องจากมีเครื่องปั่นไฟสำรอง นอกจากนี้ การรวมระบบทำความเย็นไว้ที่ศูนย์กลาง ยังช่วยให้ผู้อยู่อาศัยไม่ต้องติดตั้งชุดคอยล์ร้อนบริเวณระเบียงเพิ่มเติม
ซึ่งจะช่วยลดการปล่อยความร้อนจากชุดคอยล์ร้อนเหล่านั้น พร้อมส่งเสริมระบบนิเวศและลดการสร้างภาระให้สิ่งแวดล้อม ทั้งยังเป็นการเพิ่มพื้นที่ใช้สอยบริเวณระเบียงได้อีกด้วย
นายกมล ตันพิพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูนิซัส กรีน เอ็นเนอร์จี จำกัด ระบุว่า ระบบผลิตความเย็นแบบรวมศูนย์ หรือ DCS เหมาะสำหรับโครงการขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่ใช้สอยมากกว่า 100,000 ตรม. ขึ้นไป หรือใช้ความเย็นประมาณ 5,000 ตัน ขึ้นไป โดย DCS มีจุดเด่นด้าน Economy of Scale ซึ่งจะช่วยผู้พัฒนาโครงการให้ได้รับความคุ้มค่าในการลดค่าใช้จ่าย ลดการใช้พลังงาน และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่จะยกระดับโครงการสู่ความยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม เพราะหากคำนึงถึงค่าบำรุงรักษาด้วย ระบบจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้ปีละ 15-20% โดยหากอาคารและโครงการต่าง ๆ ทั่วประเทศหันมาใช้ระบบผลิตความเย็นแบบรวมศูนย์ ก็จะทำให้ปรากฏการณ์เกาะความร้อนลดลง ซึ่งสอดคล้องกับแผนกลยุทธ์การพัฒนาสู่ความยั่งยืนของประเทศไทย
>ระบบผลิตน้ำดื่มแบบรวมศูนย์: น้ำดื่มสะอาดมาตรฐานสากลจากก๊อก ลดขยะพลาสติกได้ตรงจุด
ระบบผลิตน้ำดื่มแบบรวมศูนย์ (District Drinking Water System - DDWS) ถูกคิดค้นขึ้นโดยความตั้งใจที่จะให้ผู้อยู่อาศัยสามารถดื่มน้ำสะอาดบริสุทธิ์และสดใหม่ได้อย่างสะดวกและต่อเนื่อง อีกทั้งยังช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม โดยกระบวนการผลิตน้ำดื่มจะเริ่มที่อาคารสาธารณูปโภคส่วนกลาง (Central Utility Plant: CUP) ที่นำน้ำประปามากรองด้วยเทคโนโลยีการกรองแบบหลายขั้นตอนและฆ่าเชื้อโรคด้วยระบบ Ozone
ซึ่งเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ในระบบทั้งหมดเป็นไปตามมาตรฐาน NSF จนได้น้ำดื่มที่สะอาดบริสุทธิ์ ก่อนส่งน้ำผ่านท่อสเตนเลสมาตรฐาน Food Grade ซึ่งมีระบบ UV Sterilizer ติดตั้งอยู่เพื่อฆ่าเชื้อโรคก่อนส่งน้ำดื่มสู่ยูนิตต่าง ๆ ในอาคาร
โดยผู้อยู่อาศัยสามารถดื่มน้ำได้โดยตรงจากก๊อกน้ำอัจฉริยะที่มี UV Sterilizer เพื่อฆ่าเชื้อโรคอีกครั้ง ผู้อยู่อาศัยสามารถวางใจได้ถึงความสะอาดและปลอดภัยของน้ำดื่มเนื่องจากระบบน้ำดื่มของเราแยกจากระบบน้ำประปาปกติ ส่วนค่าใช้จ่ายจะคิดค่าน้ำดื่มตามปริมาณการใช้งานจริง
ดังนั้น ผู้อยู่อาศัยในโครงการจึงสามารถดื่มน้ำที่สะอาดบริสุทธิ์และสดใหม่อยู่ตลอด โดยเป็นไปตามมาตรฐานสากล ไม่ต้องติดตั้งเครื่องกรองน้ำเพิ่ม ไม่ต้องคอยซื้อน้ำขวดเพื่อบริโภค อีกทั้งช่วยลดขยะพลาสติกที่เกิดจากการซื้อขวดน้ำและการเปลี่ยนไส้กรองเครื่องกรองน้ำอีกด้วย
จุดเด่นของระบบสาธารณูปโภคส่วนกลาง (District Utility System) ของยูนิซัส กรีน เอ็นเนอร์จี
· ใช้พลังงานเพื่อประโยชน์สูงสุด: การรวมบริการระบบสาธารณูปโภคต่าง ๆ ไว้ที่อาคารสาธารณูปโภคส่วนกลาง (CUP) ทำให้สามารถเพิ่มทั้งประสิทธิภาพการใช้พลังงานและการประหยัดต่อขนาด (Economy of Scale)
· ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก: โครงการที่มีสาธารณูปโภคส่วนกลางในการทำความเย็นสามารถลดปริมาณสารทำความเย็นที่ใช้ได้อย่างมากจากการที่ไม่ต้องติดตั้งระบบปรับอากาศแยกกันในทุก ๆ อาคาร และสารทำความเย็นที่ใช้ในระบบสาธารณูปโภคส่วนกลางก็เป็นชนิดรักษ์โลก ส่งผลให้ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างมาก แต่ยังคงด้วยประสิทธิภาพในการทำความเย็นที่ดีขึ้น
· ลดมลภาวะทางเสียง: การออกแบบที่เหมาะสมของที่ตั้งอาคารสาธารณูปโภคส่วนกลาง (CUP) ช่วยลดมลพิษจากเสียง การสั่นสะเทือน ไอเสีย และกลิ่นที่อาจส่งผลกระทบต่อผู้อยู่อาศัย
· ระบบที่ไว้วางใจได้: ระบบสามารถให้บริการน้ำเย็นเพื่อทำความเย็นและน้ำดื่มสำหรับบริโภคได้อย่างต่อเนื่องแม้ไฟฟ้าดับ เนื่องจากมีการติดตั้งเครื่องกำเนิดไฟฟ้าและระบบไฟฟ้าสำรองไว้ที่อาคารสาธารณูปโภคส่วนกลาง (CUP)
ปัจจุบัน ยูนิซัส กรีน เอ็นเนอร์จี ได้ออกแบบ ติดตั้ง และบริหารระบบผลิตความเย็นและน้ำดื่มให้โครงการที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่ ได้แก่ The Forestias by MQDC เมกะโปรเจ็กต์ระดับเวิลด์คลาส
โดยมีการประเมินว่าจะสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้มากถึง 30,000 ตันต่อปี นอกจากนี้ ยังได้วางระบบทำความเย็นแบบรวมศูนย์ให้แก่โครงการ Cloud 11 โครงการมิกซ์ยูสสำหรับคอนเทนต์ครีเอเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียบนถนนสุขุมวิทอีกด้วย
ยูนิซัส กรีน เอ็นเนอร์จี มุ่งมั่นเดินหน้าสร้างคุณค่าใหม่ ๆ ให้แก่การพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ ด้วยนวัตกรรมแห่งอนาคต
พร้อมตั้งเป้าสู่การเป็นผู้นำด้าน District Utility System ในภาคอสังหาฯ ของเอเชีย เพื่อช่วยสร้างสรรค์ระบบสาธารณูปโภคที่จะผลักดันการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นลบ (Carbon Negative)
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Unisus Green Energy และโซลูชันเพื่อการอยู่อาศัย สามารถดูได้ที่ www.unisusgreenenergy.com