‘ไทยเวียตเจ็ท’ รุกแดนมังกร เปิดบินตรง 6 เส้นทางใหม่สู่เมืองจีน

‘ไทยเวียตเจ็ท’ รุกแดนมังกร เปิดบินตรง 6 เส้นทางใหม่สู่เมืองจีน

27 ธ.ค. 2023
ย้อนกลับไปสัก 10 กว่าปีก่อนหน้านี้ ถ้าพูดถึงเรื่องการไปท่องเที่ยวที่เมืองจีน
หลายคนน่าจะนึกภาพของประเทศที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย การเดินทางที่ลำบาก
แต่ตัดภาพมาวันนี้ “ประเทศจีน” ได้เปลี่ยนแปลงไปแล้วอย่างสิ้นเชิง
ประเทศจีนมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานได้ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นรถไฟความเร็วสูง, อินเทอร์เน็ตที่ครอบคลุม หรือจะเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกที่ดีขึ้นมาก ๆ
ทำให้ตอนนี้ แม้จะไม่ใช่คนจีนก็สามารถเข้าถึงมหานครสุดตระการตา ไปจนถึงภูเขาหิมะสุดอลังการ ได้ง่าย ๆ ด้วยตัวคนเดียว
จากที่ว่ามาทำให้จีนกลายเป็นอีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวที่น่าสนใจขึ้นมาก
โดยเฉพาะในแง่ของระยะทางที่ไม่ได้ไกลจากประเทศไทยมากนัก
ทีนี้ “ไทยเวียตเจ็ท” หนึ่งในสายการบินที่คนไทยให้ความไว้วางใจมากว่าปี จึงได้เห็นโอกาสในการขยายธุรกิจ และได้ทำการเปิดเที่ยวบินตรง 5 เส้นทางใหม่สู่เมืองจีน ได้แก่
- กรุงเทพฯ - เซี่ยงไฮ้ - กรุงเทพฯ
- กรุงเทพฯ - หางโจว - กรุงเทพฯ
- กรุงเทพฯ - ปักกิ่ง - กรุงเทพฯ
- กรุงเทพฯ - เจิ้งโจว - กรุงเทพฯ
- กรุงเทพฯ - เฉิงตู - กรุงเทพฯ
- กรุงเทพฯ - กว่างโจว - กรุงเทพฯ
แล้วรายละเอียดของเส้นทางใหม่เป็นอย่างไรบ้าง ?
ทำไมไทยเวียตเจ็ทถึงต้องเลือก 6 เส้นทางนี้ ?
บทความนี้ MarketThink จะสรุปให้ฟัง..
จริง ๆ แล้ว ก่อนหน้านี้ไทยเวียตเจ็ท ก็มีเที่ยวบินตรงสู่เมืองจีนอยู่เหมือนกัน
แต่มักบินในเส้นทางที่ไม่ใช่เมืองใหญ่ที่เป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวชาวไทย
ในแง่กลยุทธ์การตลาด จึงเป็นการโฟกัสที่ผู้โดยสารที่เดินทางจากประเทศจีนสู่ประเทศไทย มากกว่าผู้โดยสารชาวไทยที่เดินทางไปสู่ประเทศจีน
โดยในปี 2019 ไทยเวียตเจ็ทมีผู้โดยสารที่เดินทางบนเที่ยวบินระหว่างประเทศไทยและประเทศจีน 255,770 มีเที่ยวบินรวมทั้งสิ้น 17,861 เที่ยวบิน
ทว่า เมื่อเกิดอุบัติการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ที่การเดินทางระหว่างประเทศเรียกได้ว่าแทบจะเป็นอัมพาต
ไทยเวียตเจ็ทต้องปรับกลยุทธิ์มาเปิดเส้นทางบินภายในประเทศ และลุยด้านการส่งเสริมการตลาดในประเทศไทยอย่างเต็มรูปแบบ กระทั่งสามารถขึ้นมาครองส่วนแบ่งอันดับสองของตลาดการบินภายในประเทศได้ในปัจจุบัน
ทีนี้ เมื่อตลาดการบินระหว่างประเทศฟื้นตัว ประกอบกับนโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยวจากหน่วยงานต่าง ๆ ไทยเวียตเจ็ทจึงเล็งเห็นโอกาสที่จะกลับมาสยายปีกรุกตลาดประเทศจีนอีกครั้ง
ไทยเวียตเจ็ทจึงกลับมาลุยตลาดประเทศจีนอย่างยิ่งใหญ่กว่าเดิม
ด้วยการประกาศเปิดเส้นทางบินใหม่ถึง 6 เส้นทางด้วยกัน
ซึ่งประกอบด้วย
1. กรุงเทพฯ - เซี่ยงไฮ้ - กรุงเทพฯ (ทุกวัน วันละ 1 เที่ยวบิน)
เริ่มให้บริการ ธันวาคม 2566
2. กรุงเทพฯ - หางโจว - กรุงเทพฯ (สัปดาห์ละ 4 เที่ยวบิน)
เริ่มให้บริการ ธันวาคม 2566
3. กรุงเทพฯ - ปักกิ่ง - กรุงเทพฯ (ทุกวัน วันละ 1 เที่ยวบิน)
เริ่มให้บริการ มีนาคม 2567
4. กรุงเทพฯ - เจิ้งโจว - กรุงเทพฯ (สัปดาห์ละ 4 เที่ยวบิน)
เริ่มให้บริการ มีนาคม 2567
5. กรุงเทพฯ - เฉิงตู - กรุงเทพฯ (ทุกวัน วันละ 1 เที่ยวบิน)
เริ่มให้บริการ มีนาคม 2567
6. กรุงเทพฯ - กว่างโจว - กรุงเทพฯ (ทุกวัน วันละ 1 เที่ยวบิน)
เริ่มให้บริการ มีนาคม 2567
โดยที่ต้องเป็น 6 เมืองนี้ ก็เพราะว่าทั้งหมดเป็นเมืองทางการจีน
ได้จัดอันดับให้อยู่ใน “First-tier และ New First-tier”
ที่จะเป็นการจัดลำดับตามความพร้อมในเรื่องของ
จำนวนประชากร, สาธารณูปโภคขนาดใหญ่ และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ
โดย เซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง และ กว่างโจว ถูกจัดให้อยู่ในเป็น First-tier
ส่วน หางโจว เจิ้วโจว และเฉิงตู ถูกจัดให้อยู่ในเป็น New First-tier..
พูดง่าย ๆ คือเส้นทางทั้งหมดที่ไทยเวียตเจ็ทเลือกล้วนเป็นระดับท็อปของจีน
ทั้งในแง่ของเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยว
ซึ่งแน่นอนว่ามีดีมานด์มารองรับแบบเหลือ ๆ อยู่แล้ว
ประกอบกับตอนนี้ ที่ประเทศไทยของเรามีนโยบายยกเว้นวีซ่าให้คนจีนสามารถมาเที่ยวไทยได้ง่ายขึ้น
ก็ยิ่งทำให้มูฟนี้ของเวียตเจ็ทน่าสนใจไม่น้อยเลย..
ซึ่งเส้นทาง กรุงเทพฯ - เซี่ยงไฮ้ และหางโจว ได้ทำการบินเที่ยวบินปฐมฤกษ์ไปแล้วเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม ที่ผ่านมา โดยมีผู้โดยสารร่วมเดินทางเต็มทุกที่นั่ง
สุดท้ายนี้ การเปิดให้บริการเส้นทางใหม่ของไทยเวียตเจ็ท แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการปรับตัวตามสถานการณ์โลกอย่างฉับไวและทันท่วงที ในมุมของนักเดินทางก็ถือว่าเป็นการเพิ่มตัวเลือกการเดินทางที่หลากหลายขึ้น
และก็แน่นอนว่าคนที่ได้ประโยชน์ในเรื่องนี้มากที่สุดก็คงหนีไม่พ้น “ผู้บริโภค”
#ไทยเวียตเจ็ท
#บินตรงจีน
© 2024 Marketthink. All rights reserved. Privacy Policy.