ZEEKR แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าพรีเมียม ที่ไม่แข่งเรื่องราคากับคนอื่น

ต่อให้ไม่ติดตามวงการรถยนต์ แต่ถ้าพูดถึงตลาดรถยนต์ไฟฟ้า โดยเฉพาะแบรนด์จีน
หลายคนน่าจะมีภาพจำตรงกันว่า รถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์จีน จะเน้นการแข่งขันเรื่อง “ราคา” ที่ดุเดือดมาก

ชนิดที่ว่าบางแบรนด์เปิดตัวรถใหม่ตอนต้นปี ปรากฏว่าตอนท้ายปี ต้องประกาศลดราคา เพราะมีรถของอีกแบรนด์ที่ทำมาคล้าย ๆ กัน ออกมาขายในราคาที่ถูกกว่า

แต่เมื่อไม่นานมานี้ กลับมีแบรนด์รถยนต์สัญชาติจีน ที่ชื่อว่า “ZEEKR” เพิ่งมาทำตลาดในไทย พร้อมแนวทางการตลาดที่ชัดเจนมาก ๆ ว่าจะไม่แข่งเรื่อง “ราคา” กับคนอื่น

เพราะ ZEEKR วางตัวเองเป็นแบรนด์ “พรีเมียม-ลักชูรี” ที่ไม่เหมือนแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีนอื่น ๆ ในตลาด

ใครคือ ZEEKR ทำไมนิยามตัวเองว่าเป็น​ “รถยนต์ไฟฟ้าพรีเมียม” ?
บทความนี้ MarketThink จะเล่าเคสการตลาดสนุก ๆ ของ ZEEKR ให้ฟัง

หลายคนที่ไม่รู้จัก ZEEKR มาก่อน อาจจะคิดว่า เป็นแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าจีน ที่ไม่ได้แตกต่างจากแบรนด์จีนอื่นที่เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยก่อนหน้านี้

แต่ถ้าพูดถึงรถยนต์ Volvo หลายคนน่าจะร้องอ๋อ เพราะเป็นแบรนด์ยุโรปที่หลายคนรู้จักดีว่ามีคุณภาพ ขึ้นชื่อเรื่องของความปลอดภัย และได้รับการยอมรับมานานแล้ว

รู้ไหมว่า ZEEKR และ Volvo มีเจ้าของเดียวกันคือ “Geely Holding Group” ยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมรถยนต์ของจีน

เป็นเจ้าของแบรนด์ดัง ๆ หลายแบรนด์ อย่าง Geely Auto, Volvo, Lotus, Polestar, London Electric Vehicle Company, Farizon, RADAR, Cao Cao Mobility ที่ดำเนินธุรกิจไปทั่วโลก

สำหรับ ZEEKR เป็นแบรนด์น้องใหม่ของ Geely เพิ่งก่อตั้งเมื่อปี 2021 ที่ผ่านมา

และมีการขยายธุรกิจไปหลากหลายประเทศ โดยเฉพาะยุโรป ออสเตรเลีย มีดีไซน์เซนเตอร์และหัวเรือใหญ่ อยู่ที่เมืองกอเทนเบิร์ก ประเทศสวีเดน

โดยแบรนด์ ZEEKR ถูกวางตำแหน่งทางการตลาด (Brand Positioning) ไว้ให้เป็นแบรนด์ระดับพรีเมียม

อธิบายคำว่า Brand Positioning สั้น ๆ คือ การที่แบรนด์วางตัวเองให้แตกต่างจากคู่แข่งในมุมใดมุมหนึ่ง

ถ้านึกภาพไม่ออก ก็อย่างเช่น Café Amazon วางตัวเองเป็นกาแฟที่เน้นความคุ้มค่า เลยขายในราคาที่เข้าถึงง่าย

ส่วน Starbucks วางตัวเองให้เป็นกาแฟพรีเมียม เน้นคุณภาพของการบริการ และบรรยากาศของร้าน แต่ราคาขายจะพรีเมียมขึ้น

และถ้าเป็นในอุตสาหกรรมรถยนต์ ส่วนใหญ่แล้ว จะมีการแบ่ง Position ตามความหรูหรา, ความสะดวกสบาย, ความปลอดภัย, สมรรถนะ, ดิไซน์ และอีกหลาย ๆ มุม

ทีนี้ถ้าถามว่า ZEEKR วางตัวเองให้พรีเมียมกว่าแบรนด์อื่นอย่างไร ? คำตอบคือ เรื่องของ “คุณภาพ”

รถยนต์ของ ZEEKR ถูกออกแบบและพัฒนาภายใต้สรรพกำลังของเครือ Geely

ที่มีศูนย์วิจัยและพัฒนา (R&D) อยู่ที่เซี่ยงไฮ้, หางโจว, หนิงปัว และกอเทนเบิร์ก

ภายใต้หน่วยงานนี้ จะมีบุคลากรด้านการวิจัยและพัฒนามากมาย คอยวิจัยและพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ หลายอย่าง เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางแก่ทุกคน

เช่น แพลตฟอร์ม SEA-M โครงสร้างรถยนต์ยุคใหม่ที่ไม่มีเสา B พร้อมต่อยอดไปเป็นรถยนต์ไร้คนขับ หรืออะไรที่ไกลกว่านั้น

สำหรับการผลิต ZEEKR มี Global Design Center ที่สวีเดน ทำให้แค่มองด้วยตาเปล่า จะเห็นได้เลยว่า ZEEKR เป็นรถที่มีกลิ่นอายความหรูหราของแบรนด์ยุโรปจากคุณภาพวัสดุ และงานประกอบเนี้ยบ ๆ อีกทั้งยังผลิตภายใต้เทคโนโลยีที่แม่นยำและล้ำสมัย มาตรฐานระดับแบรนด์ยุโรป ในขณะที่ตัวรถยังมีฟังก์ชันจัดเต็มแบบไม่มีกั๊ก

สำหรับในไทย ณ ตอนนี้ ZEEKR มีรถยนต์มาทำตลาดหลัก ๆ 2 รุ่น คือ

- ZEEKR X รถ Compact SUV ใช้แพลตฟอร์มเดียวกับรถยนต์ Volvo EX30 มีด้วยกัน 2 รุ่น คือ Flagship และ Standard

- ZEEKR 009 รถตู้ MPV ไฟฟ้าสุดหรู 6 ที่นั่ง ใช้แพลตฟอร์มเดียวกับ Volvo EM90 โดยรถคันนี้มาพร้อมกับที่นั่งแบบเดียวกับห้องโดยสารบนเครื่องบินระดับเฟิร์สคลาสมาพร้อมตู้เย็นบนรถเพื่ออำนวยความสะดวกระหว่างเดินทาง

อย่างไรก็ดี แม้ฟังก์ชันจะจัดเต็มขนาดนี้ แต่ความท้าทายอีกอย่างของการทำแบรนด์พรีเมียม คือการสื่อสารจุดแข็งของเราให้กลุ่มเป้าหมายรับรู้ให้ได้

หนึ่งในกลยุทธ์ที่ ZEEKR เลือกใช้ คือการทำ “Sponsorship Marketing” หรือไปเป็นสปอนเซอร์ ให้อินฟลูเอนเซอร์ ดารา หรือองค์กรต่าง ๆ ที่มีความเชื่อมโยงกับแบรนด์ในทางใดทางหนึ่ง

โดยกลยุทธ์นี้มีเป้าหมายคือ สร้างการรับรู้ และสร้างภาพจำใหม่ ๆ ให้กับแบรนด์

ยกตัวอย่างเช่น Red Bull แบรนด์เครื่องดื่มชูกำลัง ที่ชอบสนับสนุนกีฬาเอ็กซ์ตรีม เพื่อเชื่อมโยงภาพลักษณ์ของแบรนด์กับความท้าทาย ความกล้า และพลังงาน

ในเคสของ ZEEKR ได้เลือกสนับสนุน “ELLE Fashion Week 2024” งานแฟชั่นโชว์ระดับโลก ที่ปีนี้จัดขึ้น ณ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ศูนย์การค้า ICONSIAM

โดย ELLE Fashion Week เป็นอิเวนต์แฟชั่นโชว์ระดับโลก เปรียบเสมือนงานพรมแดงของเหล่าคนดัง
ที่ในแต่ละปีจะมีแขกเป็นคนมีชื่อเสียงในวงการบันเทิง, อินฟลูเอนเซอร์ และดีไซเนอร์ชื่อดัง มาเข้าร่วมงานทุกปี

ทำให้งาน ELLE Fashion Week จะได้รับความสนใจมาก ๆ จากกลุ่มคนที่ใส่ใจในเรื่องของไลฟ์สไตล์
และสินค้าแบรนด์หรู

ทีนี้ ZEEKR ได้อะไรบ้างจากการสนับสนุนอิเวนต์แบบนี้ ?

อย่างแรกเลยคือ ZEEKR จะได้เชื่อมโยงภาพลักษณ์ที่ ดูหรู ดูแพง ของงาน ELLE Fashion Week ช่วยให้คนจดจำแบรนด์ ZEEKR ในฐานะแบรนด์พรีเมียมได้ง่ายขึ้นอีกทั้งยังเป็นแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าเจ้าเดียวในงาน ยิ่งทำให้สามารถสร้างความโดดเด่นสะดุดตา

ลองนึกดูว่าถ้าแบรนด์ของเราขายรถยนต์ MPV อย่าง ZEEKR 009 ที่มีที่นั่งแบบเดียวกับห้องโดยสารบนเครื่องบินระดับเฟิร์สคลาสการที่ลูกค้ามองว่าแบรนด์ของเราพรีเมียม ย่อมไม่ใช่เรื่องยาก

นอกจากนี้ ด้วยที่คนที่มาร่วมงาน ELLE Fashion Week ล้วนเป็นดาราและอินฟลูเอนเซอร์ ที่แน่นอนว่ามีคนติดตามเยอะ มีพื้นที่สื่อในมือมหาศาล

ยังทำให้ ZEEKR มีโอกาสสร้าง Awareness จากพื้นที่สื่อของคนเหล่านี้ ให้คนรู้จักแบรนด์ ZEEKR ได้เยอะขึ้นมาก ๆ จากงานนี้

เหมือนยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว ทั้งภาพลักษณ์ที่ดูพรีเมียม และ Awareness มหาศาล ถือว่าเป็นมูฟเจ๋ง ๆ แม้ว่าสินค้าอย่างรถยนต์จะดูไกลกับเรื่องของอุตสาหกรรมแฟชั่นมากก็ตาม

มาถึงตรงนี้.. ถ้าจะให้วิเคราะห์ว่าการวางตัวเองเป็นแบรนด์พรีเมียมของ ZEEKR จะได้ผลไหม ?
ก็อาจจะยังตอบไม่ได้ตอนนี้ เพราะต้องใช้เวลาในการพิสูจน์

ดีเทลเหล่านี้ แสดงให้เห็นเลยว่า ZEEKR ไม่ได้ใส่ใจแค่ภาพลักษณ์และคุณภาพของรถยนต์อย่างเดียว แต่ยังเอาความพรีเมียมไปใส่ในทุก ๆ องค์ประกอบของแบรนด์ด้วย

ซึ่งแค่นี้ก็น่าจะเพียงพอแล้วที่จะทำให้ ZEEKR มีที่ยืนในใจของลูกค้าว่า
ถ้านึกถึงรถยนต์ไฟฟ้าพรีเมียม ก็ต้องนึกถึง ZEEKR เป็นแบรนด์แรก ๆ

สุดท้ายนี้ ติดตามการตลาดแบบไม่เหมือนใครของ ZEEKR ได้เร็ว ๆ นี้..

#ZeekrThailand
#Zeekr
#ZeekrX
#Zeekr009

#Geely