
“ฉายแสง แอด.เวนเจอร์” เปิดยูนิตใหม่ สร้างภาพยนตร์สยองขวัญ ชิงส่วนแบ่งตลาด
28 ก.พ. 2025
อุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยเติบโตต่อเนื่อง “ฉายแสง แอด.เวนเจอร์” ผู้วางแผนการตลาดและจัดจำหน่ายภาพยนตร์ขยายพอร์ตโฟลิโอ ด้วยการเปิดยูนิตใหม่ จับมือพาร์ทเนอร์ “The Ghost Radio” หนึ่งในรายการสยองขวัญยอดนิยมที่มีกระแสตอบรับที่ดี ร่วมต่อยอดสู่ธุรกิจภาพยนตร์ สร้างมิติใหม่ให้วงการภาพยนตร์สยองขวัญเปิดตัวโปรเจกต์แรกภาพยนตร์ “ข้างบ้าน” พร้อมเดินหน้าสร้างการเติบโตร่วมกันกับพันธมิตร ด้วยการจับมือร่วมกับพาร์ทเนอร์ที่มีศักยภาพ เพื่อยกระดับวงการภาพยนตร์ไทย และให้คอหนังได้สัมผัสประสบการณ์ภาพยนตร์ที่สนุกๆ มากขึ้น
นายชัยวัฒน์
มิ่งไม้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
บ.ฉายแสง
แอด.
เวนเจอร์
จำกัด
เปิดเผยว่า ปัจจุบัน
ฉายแสง แอด.เวนเจอร์
เป็นบริษัทที่ทำการตลาดและจัดจำหน่ายให้กับภาพยนตร์ไทยจากค่ายเนรมิตรหนัง
ฟิล์มเป็นหลักแต่เนื่องจากในช่วง
2-3
ปีที่ผ่านมา
อุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ทั้งในแง่ของรายได้ในประเทศและต่างประเทศ
สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการคอนเทนต์ไทยในตลาดโลก
โดยมีภาพยนตร์ที่ทำรายได้เกือบ
1,000
ล้านบาท
และอีกหลายเรื่องสามารถทะลุ
100
ล้านบาทได้สำเร็จ
โดยเฉพาะภาพยนตร์แนวสยองขวัญ
(Horror)
และ
แนวคอมเมดี้ (Comedy)
ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในประเทศไทย
จากการสำรวจแนวโน้มและศักยภาพตลาดภาพยนตร์สยองขวัญสำหรับคอหนังในประเทศไทย
พบว่าภาพยนตร์สยองขวัญเป็นแนวที่อยู่คู่กับผู้ชมชาวไทยมาอย่างยาวนาน
และยังคงได้รับความนิยมต่อเนื่อง
เห็นได้จากภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงในประเทศ
เช่น สัปเหร่อ และธี่หยด
ซึ่งล้วนมีองค์ประกอบของความสยองขวัญอยู่ในเนื้อหา
สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นถึงรสนิยมของคอหนังที่ยังคงให้ความสนใจภาพยนตร์แนวนี้
จากแนวโน้มตลาดที่ชัดเจน
อีกทั้งภาพยนตร์สยองขวัญยังแข็งแกร่งในตลาดอาเซียนด้วย
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ
อิทธิพลของภาพยนตร์สยองขวัญจากอินโดนีเซียที่เริ่มเข้ามามีบทบาทในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย
สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นว่าภาพยนตร์สยองขวัญยังคงเป็นแนวที่ได้รับความสนใจทั้งในประเทศและต่างประเทศ
โดยมองว่าภายใน 2-4
ปีข้างหน้า
ตลาดภาพยนตร์สยองขวัญยังคงมีศักยภาพสูง
จึงมองว่าการสร้างสรรค์ภาพยนตร์สยองขวัญเป็นโอกาสที่สำคัญ
เพื่อรองรับความต้องการของผู้ชมและเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย
อย่างไรก็ตาม
การสร้างสรรค์ภาพยนตร์ไม่ได้มุ่งเน้นเพียงแค่การตอบสนองกระแสความนิยมเท่านั้น
แต่พยายามมองหาความแปลกใหม่
เพื่อสร้างความหลากหลาย
และมีความน่าสนใจยิ่งขึ้น
ดังนั้น
“ฉายแสง แอด.เวนเจอร์”
จึงเล็งเห็นถึงโอกาสในการสร้างสรรค์โปรเจกต์ใหม่
เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ชมและเสริมความแข็งแกร่งให้กับพอร์ตโฟลิโอของบริษัท
นี่จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ตัดสินใจขยายบทบาทจากผู้วางแผนการตลาดและจัดจำหน่ายสู่การเป็นผู้สร้างภาพยนตร์
และอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญคือ
การร่วมมือกับ “Ghost
Radio” ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเล่าเรื่องผีอันดับ
1
ของประเทศไทย
ที่มีฐานผู้ฟังเหนียวแน่น
และได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง
ด้วยพื้นฐานความสำเร็จที่มีอยู่แล้ว
การจับมือกันครั้งนี้จึงเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับโปรเจกต์ภาพยนตร์และเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้มั่นใจในการก้าวเข้าสู่การเป็นผู้สร้างภาพยนตร์อย่างเต็มตัว
ทั้งนี้
ความร่วมมือระหว่าง “บริษัท
ฉายแสง แอด.เวนเจอร์
จำกัด” และ “The
Ghost Radio” ในการจัดตั้ง
“Ghost
Light”เกิดขึ้นจากการพูดคุยเพื่อหารือด้านธุรกิจและคอนเทนต์ร่วมกันมาเป็นเวลากว่า
1
ปี
ทั้งสองฝ่ายมีความเห็นตรงกันว่า
การร่วมมือกัน
ควรอยู่ในรูปแบบที่มีโครงสร้างชัดเจน
จึงนำไปสู่การจัดตั้งยูนิตใหม่นี้ขึ้นมา
ภายใต้ชื่อ “Ghost
Light” ซึ่งเป็นการผสานระหว่าง
“บริษัท ฉายแสง แอด.เวนเจอร์
จำกัด” และ “The
Ghost Radio”
“เราเล็งเห็นถึงศักยภาพของ
“The
Ghost Radio” ในฐานะ
Hub
Community เรื่องผีอันดับ
1
ของประเทศไทย
ซึ่งมีฐานแฟนคลับที่เหนียวแน่นและมีอิทธิพลอย่างมากต่อผู้ที่ชื่นชอบเรื่องราวแนวสยองขวัญ
นอกจากนี้ โปรเจกต์ “Ghost
Light” ยังได้รวมตัวกับผู้กำกับที่มีความสามารถในวงการภาพยนตร์
เพื่อสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพที่น่าจับตามองต่อไป
และผมมั่นใจว่า “Ghost
Light” จะกลายเป็น
Business
Unit ที่แข็งแกร่ง
และสามารถผลิตภาพยนตร์แนวสยองขวัญที่มีเอกลักษณ์
ตอบโจทย์ผู้ชมทั้งในประเทศและต่างประเทศได้อย่างแน่นอน”
นายชัยวัฒน์ กล่าว
สำหรับการเปิดตัวโปรเจกต์ของ
“Ghost
Light” คือ
ภาพยนตร์เรื่องแรก “ข้างบ้าน”
จะต้องพิจารณาจากปัจจัยหลายด้าน
ไม่ใช่เพียงแค่ความนิยมของเรื่องเล่าเท่านั้น
แม้บางเรื่องจะมีกระแสแรง
ยอดวิวถล่มทลาย หรือได้รับความนิยมสูงสุด
แต่เป็นเพียง ช่วงสั้นๆ
ที่ไม่สามารถขยายเป็นภาพยนตร์ที่น่าสนใจได้
ก็อาจไม่เหมาะสมสำหรับการสร้างเป็นภาพยนตร์
ดังนั้นจึงได้ใช้ระยะเวลาในการพิจารณาจากองค์ประกอบสำคัญ
เพื่อให้ “ข้างบ้าน”
เป็นภาพยนตร์ที่สะท้อนวัฒนธรรมและเข้าถึงผู้ชมได้กว้างขวาง
ได้แก่ 1.)
ความ
Related
กับผู้ชม
เรื่องราวที่เข้าถึงและทำให้ผู้คนรู้สึกมีส่วนร่วมได้
2.)
ความสนุกและน่าติดตาม
สามารถเล่าเรื่องได้อย่างน่าสนใจและดึงดูดผู้ชมได้
และ 3.)
แนวคิดที่เป็นสากล
(Universal
Message)
มีประเด็นที่สามารถสื่อสารไปยังตลาดต่างประเทศได้
กลุ่มเป้าหมายหลักของภาพยนตร์
“ข้างบ้าน” มุ่งเน้นไปที่ผู้ชมชาวไทยเป็นอันดับแรก
โดยเฉพาะกลุ่ม Young
Generation ได้แก่
Gen
Z และ
Gen
Y เป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก
เนื่องจากเป็นผู้ชมที่ให้ความสำคัญกับประสบการณ์การดูหนังในโรง
และยังคงให้ความสนใจกับภาพยนตร์แนวสยองขวัญ
เนื่องจาก “ข้างบ้าน”
เป็นภาพยนตร์ที่สร้างขึ้นร่วมกับ
“The
Ghost Radio” จึงมีความโดดเด่นทั้งในด้านภาพ
เสียง และบรรยากาศที่ออกแบบมา
เพื่อการรับชมในโรงภาพยนตร์โดยเฉพาะ
นอกจากนี้
อีกกลุ่มเป้าหมายสำคัญคือ
แฟนรายการ “The
Ghost Radio” ซึ่งมีฐานผู้ติดตามที่เหนียวแน่น
และให้ความสนใจเรื่องราวเกี่ยวกับความลี้ลับและสยองขวัญ
กลุ่มนี้ถือเป็นอีกหนึ่งกลุ่มหลักที่คาดว่าจะให้การสนับสนุนภาพยนตร์
“ข้างบ้าน”เป็นอย่างดี
ความคาดหวังสำหรับภาพยนตร์
“ข้างบ้าน” อาจไม่ได้มุ่งเน้นเรื่องรายได้เป็นหลัก
เพราะเป็นเรื่องของอนาคตที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้แน่ชัด
แต่สิ่งสำคัญคือ ความตั้งใจและทุ่มเทของ
“Ghost
Light” ทำให้ภาพยนตร์
“ข้างบ้าน” มีคุณภาพ
เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุด
ทำให้ผู้ชมไม่รู้สึกผิดหวังกับการถ่ายทอดเรื่องราวในรูปแบบภาพยนตร์
โดยเฉพาะแฟน ๆ “The
Ghost Radio” ที่คุ้นเคยกับเรื่องเล่าต้นฉบับ
เพื่อตอบแทนการรอคอยของแฟนๆ
ทั้งจาก “The
Ghost Radio” รวมทั้งผู้ติดตามผลงานของ
ผู้กำกับภาพยนตร์ “ก้องเกียรติ
โขมศิริ” และคอหนังสยองขวัญชาวไทย
ในปีนี้ ฉายแสง แอด. เวนเจอร์ จำกัด มีแนวทางขยายความร่วมมือกับพันธมิตรในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งมอบประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายให้กับผู้ชม โดยเริ่มต้นจากโปรเจกต์แรก “Ghost Light” ซึ่งเป็นการร่วมมือกับ ”The Ghost Radio” ในการสร้างภาพยนตร์ “ข้างบ้าน” กำกับการแสดงโดย ก้องเกียรติ โขมศิริ ส่วนโปรเจกต์ที่สอง เพิ่งมีการเปิดตัวไปในงานแถลงข่าว คือ Food Track รัก (ลัก) หมูเด้ง ภาพยนตร์คอมเมดี้ครอบครัวที่ถูกออกแบบให้เข้าถึงทุกเพศทุกวัย พร้อมมอบความสนุกและความประทับใจให้กับผู้ชม ที่นำแสดงโดย มาริโอ้ เมาเร่อ, แจ๊ส ชวนชื่น, หม่ำ จ๊กมก และ แจ็ก แฟนฉัน และโปรเจกต์ที่สาม เป็นการกำกับภาพยนตร์ครั้งแรกของพี่อี๊ด โปงลาง โดยมี Working Title โปรเจกต์ว่า “ ผีน้อย” ที่นำเสนอเรื่องราวความรักระหว่าง “ผีน้อย” กับ “ตำรวจเกาหลี” เป็นภาพยนตร์โรแมนติก-ดราม่า ผสมคอมเมดี้นิดๆที่จะถ่ายทำในประเทศเกาหลี ด้วยบรรยากาศและโลเคชั่น สวยงาม คาดว่าจะสร้างความตื่นเต้นให้กับแฟนๆ ของ พี่อี๊ด โปงลาง และแฟนหนังไทยอย่างแน่นอน
นอกจากนี้ ยังมีอีก 2-3 โปรเจกต์ที่อยู่ในระหว่างการพัฒนา ซึ่งจะมีการประกาศไลน์อัพอย่างเป็นทางการในอนาคต และที่ขาดไม่ได้คือความร่วมมือกับ “เนรมิตหนัง ฟิล์ม” ซึ่งจะมีภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ให้แฟนๆ ชาวไทยได้ตื่นเต้นกันตลอดทั้งปี ถือเป็นพันธมิตรหลักที่สำคัญของบริษัท ฉายแสง แอด. เวนเจอร์ ในการผลักดันอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยให้เติบโตต่อไป