สรุปอินไซต์ จาก BONCAFÉ กาแฟจะเป็นสินค้า “Luxury” ที่แบรนด์ ไม่ควรขายแค่รสชาติ แต่ต้องขายประสบการณ์

สรุปอินไซต์ จาก BONCAFÉ กาแฟจะเป็นสินค้า “Luxury” ที่แบรนด์ ไม่ควรขายแค่รสชาติ แต่ต้องขายประสบการณ์

11 ก.ค. 2025
เมื่อวานนี้ คุณอุษาพรรณ อินทีวรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร บริษัท บอนกาแฟ (ประเทศไทย) ได้มาให้ข้อมูล และอินไซต์เรื่องธุรกิจกาแฟที่น่าสนใจ ภายในงาน “Thailand Coffee Fest 2025” ที่อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น เซ็นเตอร์ ฮอลล์ 7 เมืองทองธานี
แล้วอินไซต์ของธุรกิจกาแฟมีอะไรน่าสนใจบ้าง ? MarketThink สรุปมาให้เป็นข้อ ๆ
BONCAFÉ เป็นผู้ให้บริการด้านธุรกิจกาแฟแบบครบวงจร เป็นทั้งผู้ผลิต และผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ด้านกาแฟ
รวมถึงเป็นผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น เครื่องทำกาแฟแบรนด์ชั้นนำจากต่างประเทศ โดยมีลูกค้าส่วนใหญ่เป็น B2B มากถึง 80%
ตั้งแต่ปี 2011 มีมาตรการที่กำหนดให้ผู้นำเข้าเมล็ดกาแฟ ต้องมีการรับซื้อผลผลิตภายในประเทศในอัตราส่วน 2:1
คือ ผู้นำเข้าต้องรับซื้อผลผลิตกาแฟภายในประเทศในฤดูกาลถัดไป เป็นปริมาณสองเท่าของปริมาณที่นำเข้าจริง
แต่ในปัจจุบัน จากการที่ความนิยมดื่มกาแฟในประเทศมีสูงขึ้นอย่างมาก
ทำให้มาตรการนี้มีการผ่อนปรนให้ผู้นำเข้าสามารถนำเข้าเมล็ดกาแฟจากประเทศเพื่อนบ้านได้ในเขตการค้าเสรีอาเซียน (AFTA) แต่ก็มีระบุว่าให้ใช้เมล็ดกาแฟในประเทศให้มากขึ้นเช่นกัน
ราคาเมล็ดกาแฟในไทย สูงกว่าราคาโลก
เพราะฉะนั้นการเลือกใช้วัตถุดิบในไทยก็จะส่งผลให้ต้นทุนสูงขึ้น เนื่องจากผู้ผลิตมีต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น
ประกอบกับความต้องการบริโภคที่เพิ่มขึ้น และผลผลิตที่ได้ลดลง ส่งผลให้ราคาเมล็ดกาแฟในไทยสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมา
เทรนด์กาแฟไทย เริ่มเป็นที่นิยมในช่วงหลังโควิด หรือก็คือช่วงปี 2020-2023 หลังจากนั้นความนิยมก็เริ่มลดลงตามสภาพเศรษฐกิจในปี 2024-2025 เนื่องจากกำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง
พฤติกรรมการดื่มกาแฟของคนไทยส่วนใหญ่พบว่า ชอบดื่มกาแฟคั่วเข้ม มีรสขมอ่อน ๆ แต่ไม่ถึงกับไหม้
เทรนด์กาแฟในอนาคตมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้จะช้าลงตามสภาพเศรษฐกิจ แต่จะถูกพัฒนาเป็น “Luxury Product”
โดยจะเห็นได้ว่า ปัจจุบันกาแฟแบบ Specialty มีมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะรสนิยมการดื่มกาแฟของคนไทยเริ่มเปลี่ยนไป
โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ คนเมือง และผู้บริโภคที่มีความเข้าใจในประสบการณ์เชิงลึกจะมองว่าไม่ใช่แค่ “ดื่มกาแฟเพื่อตื่น” แต่เป็น “ดื่มกาแฟเพื่อสัมผัสรสนิยม”
ธุรกิจกาแฟต้องเริ่มปรับตัว จากเดิมที่เติบโตผ่านการเน้นขายปริมาณ ต้องปรับเป็น Value Drive หรือก็คือการขายคุณค่ามากขึ้น
ไม่ว่าจะเป็น การใส่เรื่องราวของเมล็ดกาแฟแต่ละชนิด และการเลือกใช้อุปกรณ์คุณภาพดีในการชงกาแฟออกมาให้มีคุณภาพ
ธุรกิจกาแฟที่เน้นจำหน่ายให้ธุรกิจเป็นหลักอย่าง BONCAFÉ ก็ขยายฐานลูกค้าสู่ B2C มากขึ้น ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป
โดยมองว่า อนาคตอาจปรับเป็นลูกค้า B2B ในสัดส่วน 60% และลูกค้า B2C ในสัดส่วน 40%
ซึ่งตอนนี้ BONCAFÉ ก็ได้ขยายช่องทางการจัดจำหน่ายเพื่อให้เข้าถึงลูกค้า B2C มากขึ้น ทั้งช่องทางออนไลน์ และออฟไลน์
กลยุทธ์หลัก ๆ ที่ BONCAFÉ ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องคือการมีบริการ “ครบจบในที่เดียว” ไม่ว่าจะเป็นการให้คำปรึกษา การให้สินเชื่อ ไปจนถึงการช่วยดูแลหลังการขายเมื่อพบเจอปัญหา
ข้อกังวลหลัก ๆ จากการขึ้นภาษีของสหรัฐอเมริกา มองว่าวัตถุดิบที่ธุรกิจกาแฟได้รับผลกระทบมากที่สุดคือเรื่องไซรัปที่ต้องนำเข้าจากสหรัฐอเมริกา
© 2025 Marketthink. All rights reserved. Privacy Policy.