“Mental Wellness ธุรกิจที่กำลังโต เพราะคนเครียดสะสม” สรุปอินไซต์ตลาด Wellness ที่น่าสนใจ จาก CEO ของ BDMS Wellness Clinic

“Mental Wellness ธุรกิจที่กำลังโต เพราะคนเครียดสะสม” สรุปอินไซต์ตลาด Wellness ที่น่าสนใจ จาก CEO ของ BDMS Wellness Clinic

11 ก.ค. 2025
นายแพทย์ตนุพล วิรุฬหการุญ ประธานคณะผู้บริหาร บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก และ บีดีเอ็มเอส เวลเนส รีสอร์ท บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) 
ได้ให้สัมภาษณ์พิเศษภายในงาน THACCA Splash - Soft Power Forum ในหัวข้อ Wellness Economy 5.0 : ขับเคลื่อนสุขภาพไทย สู่ Soft Power ระดับโลก
โดยบทความนี้ MarketThink ก็ได้สรุปอินไซต์ที่น่าสนใจในแวดวงอุตสาหกรรม Wellness มาให้แล้ว
1. Mental Wellness น้องใหม่ในอุตสาหกรรม Wellness โตไวมาก เพราะคนปัจจุบันเครียดเยอะ
กลุ่มอุตสาหกรรมย่อย Mental Wellness มีความสำคัญมากขึ้นหลังเหตุการณ์โควิด 19 ประกอบกับสาเหตุที่ผู้คนในปัจจุบันมีความเครียดสะสมมากจากหลายสาเหตุ 
เช่น เครียดจากการใช้โซเชียลมีเดีย, การรับข้อมูลข่าวสารมากเกินไป, การพักผ่อนน้อย, การทำงาน, การเลี้ยงดูลูก จนทำให้เกิดภาวะที่เรียกว่า Mental Stress และ โรค NCDs (Non-Communicable Diseases)
ซึ่งเป็นกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง หรือก็คือไม่ได้เกิดจากเชื้อโรคและไม่สามารถติดต่อไปสู่คนอื่นได้ เช่น โรคเบาหวาน ความดัน มะเร็ง โรคอ้วน เครียดเรื้อรัง โรคจิตเวช
โดยโรคเหล่านี้ก็เกิดมาจาก Mental Wellness ที่ไม่มีคุณภาพ เกิดความเครียดสะสมมาก ๆ และส่งผลให้พฤติกรรมการใช้ชีวิต การบริโภค การนอน ไม่เหมาะสมนั่นเอง
ซึ่งในมุมธุรกิจของ Mental Wellness มีกลุ่มเป้าหมายที่น่าสนใจก็คือ กลุ่มคนที่นอนไม่หลับ 
ทำให้เกิดผลิตภัณฑ์หรือบริการออกมามากมาย เช่น เตียงและหมอนช่วยให้นอนหลับ ที่อุดหู ที่ปิดตา หรือโรงแรมเพื่อสุขภาพ
2. Wellness Tourism ในสังคมโลก
ประเทศไทยมีเป้าหมายเป็น Medical Hub จึงต้องการทูตสุขภาพ เพื่อส่งเสริมให้ชาวต่างชาติเดินทางมาท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่ไทยเพิ่มด้วย 
โดย Key สำคัญก็คือ KOL และสื่อที่สามารถช่วยโปรโมตภาพลักษณ์เชิงสุขภาพที่ดีของไทยได้ แต่ภาคธุรกิจก็ต้องมีการจัดการที่ดี บริการมีคุณภาพ และมีความน่าเชื่อถือด้วย
นอกจากนี้ Soft Power มากมายของไทย ก็มีส่วนทำให้คนต่างชาติอยากจะมาท่องเที่ยวที่ไทย เช่น นวดแผนไทย มวยไทย ยาดม อาหารไทย สถานที่ท่องเที่ยว
ทั้งหมดนี้ ถ้าทุกภาคส่วนบูรณาการร่วมกัน กลายเป็น Ecosystem ที่เคลื่อนไหวไปด้วยกันได้ ก็จะช่วยให้อุตสาหกรรม Wellness และ Wellness Tourism ขับเคลื่อนไปได้ โดยไม่ต้องกลัวเรื่องการแข่งขันกับประเทศอื่น ๆ
3. ภาษีทรัมป์ จะกระทบกับอุตสาหกรรม Wellness หรือไม่ ?
ตามความเห็นของคุณหมอตนุพล มองว่า เรื่องภาษีทรัมป์จะกระทบกับภาคส่งออกมากกว่า แต่สำหรับ Wellness ที่เป็นภาคบริการและเป็นการจับจ่ายใช้สอยภายในประเทศไทยแล้ว น่าจะไม่ส่งผลอะไรมาก
อีกทั้ง กลุ่มเป้าหมายของธุรกิจ Wellness ไม่ใช่บุคคลทั่วไป แต่เป็นกลุ่มคนที่มีกำลังซื้อสูง มีความรู้ ความกังวลและห่วงใยในสุขภาพของตัวเองและครอบครัว
ซึ่งคนกลุ่มนี้จะเดินทางท่องเที่ยว เพื่อพักผ่อน บำบัดร่างกาย หรือรักษาโรคในต่างประเทศอยู่แล้ว ไม่ว่าเหตุการณ์ทางการเมือง สงคราม เศรษฐกิจและการค้าของโลกจะเป็นอย่างไรก็ตาม
สิ่งที่สำคัญกว่าก็คือ การสนับสนุนจากภาครัฐ เพื่อให้อุตสาหกรรมนี้เติบโตมากกว่า เช่น ช่วยลดภาษีธุรกิจ หรือออกนโยบายที่สนับสนุนด้านสุขภาพ เช่น เพิ่มภาษีสิ่งที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์กับร่างกาย
เพราะประเทศไทยก็มีศักยภาพอย่างมากในการขึ้นเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรม Wellness 
จากความพร้อมทั้งทางด้านเครื่องมือ เทคโนโลยี ความรู้เชิงวิชาการ งานวิจัย บุคลากร ขาดแต่การสนับสนุนอย่างเป็นระบบและรูปธรรมเท่านั้น
ดังนั้น ถ้าประเทศไทยวางตัวดี ๆ ในสังคมโลก ไม่ให้นักเดินทางเกิดความกังวลเรื่องความมั่นคงก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร และเหตุการณ์การขึ้นภาษีของทรัมป์ก็ไม่ใช่เหตุการณ์น่ากังวลสักเท่าไรในความคิดของคุณหมอ
© 2025 Marketthink. All rights reserved. Privacy Policy.