
“จากชานบ้าน.. สู่ชานใจของลูกค้า” ถอดกลยุทธ์ความสำเร็จ Charn คอมมูนิตี้มอลล์ แนวใหม่ที่ครองใจคนแจ้งวัฒนะ
23 ก.ค. 2025
ทุกวันนี้ แจ้งวัฒนะกลายเป็นย่านที่ทั้งคึกคักและมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
แต่หากมองย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ ย่านนี้กลับยัง “ขาด” พื้นที่สีเขียว พื้นที่แฮงเอาต์ รวมถึงร้านอาหารดี ๆ ที่กำลังเป็นกระแส ซึ่งปกติแล้วจะรวมตัวกันอยู่ในใจกลางเมืองเท่านั้น
Charn at The Avenue จึงถือกำเนิดขึ้น เพื่อให้คนแจ้งวัฒนะได้ออกมาพบปะสังสรรค์ พักผ่อนในบรรยากาศที่ร่มรื่น และมาเติมเต็มสีสันของชีวิตที่ขาดหายไป



และตอนนี้ Charn ก็เปิดให้บริการมาครบ 1 ปีกว่าแล้ว ด้วยจำนวนคนโดยเฉลี่ยที่เข้ามาใช้บริการสูงถึง 20,151 คนต่อวัน จึงเป็นข้อพิสูจน์ได้ว่า Charn เป็นจุดหมายปลายทางในใจของคนแจ้งวัฒนะไปแล้ว

แล้วทำไม Charn ถึงกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตของคนแจ้งวัฒนะได้ภายในระยะเวลาแค่ 1 ปี ?
MarketThink จะชวนทุกคนมาสำรวจกลยุทธ์ความสำเร็จของคอมมูนิตี้มอลล์แห่งนี้กัน
MarketThink จะชวนทุกคนมาสำรวจกลยุทธ์ความสำเร็จของคอมมูนิตี้มอลล์แห่งนี้กัน
1. ความคึกคักภายใน Charn ที่เกิดจากการเข้าใจความต้องการของลูกค้า
เบื้องหลังของ Charn คือการเริ่มต้นจากความต้องการที่แท้จริงของคนแจ้งวัฒนะ
ซึ่งได้มาจากการทำ Quantitative Research และ Focus Group (Concept Test) ที่เผยให้เห็นว่าผู้คนต้องการพื้นที่พบปะและทำกิจกรรมร่วมกันได้อย่างเต็มที่
Charn จึงออกแบบและพัฒนาขึ้นมา จากความต้องการของคนในย่านนี้จริง ๆ เพื่อเป็นสถานที่ให้ผู้คนได้พักผ่อนหย่อนใจท่ามกลางพื้นที่สีเขียวอันร่มรื่น เป็นพื้นที่นัดเจอของครอบครัว เพื่อนฝูง และสัตว์เลี้ยง ได้ออกมาใช้เวลาร่วมกัน
และตลอดระยะเวลากว่า 1 ปีที่เปิดให้บริการมา มีคนในย่านแจ้งวัฒนะหลั่งไหลเข้ามาใช้บริการที่ Charn เป็นจำนวนมาก เฉลี่ยสูงถึง 20,151 คนต่อวัน



นับเป็นความสำเร็จอย่างยิ่งสำหรับคอมมูนิตี้มอลล์ที่มีพื้นที่ขายขนาด 19,757 ตารางเมตร
โดยผลสำรวจจาก Post Opening Survey (Vitamins Research, 2025) ชี้ว่า 71% ของผู้บริโภคมีรายได้ครัวเรือนอยู่ในระดับ A+ ถึง B ซึ่งถือว่ามีกำลังซื้อค่อนข้างสูง
และนั่นก็ทำให้ Charn ปิดการจองพื้นที่ร้านค้าเต็ม 100% โดยร้านค้าส่วนใหญ่พร้อมเปิดให้บริการครบแล้ว และจะมีการเปิดร้านค้าใหม่ที่กำลังเป็นกระแส ในช่วงไตรมาส 4 ในปี 2025

และคาดว่าในอนาคตยังมีร้านค้าที่น่าสนใจและร้านค้า Concept ใหม่อีกมาก ต่อคิวมาเปิดที่นี่ ตั้งตารอกันได้เลย
เรียกได้ว่า กลยุทธ์ศึกษาความต้องการของลูกค้าและยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer Centric) ที่ถึงแม้จะคลาสสิกแค่ไหน แต่ก็ยังเป็นกลยุทธ์ที่ใช้ได้ผลมาจนถึงทุกวันนี้
2. Charn สามารถดึงร้านค้าแบรนด์ดังต่าง ๆ จากใจกลางเมือง มาเปิดในที่เดียวกันได้สำเร็จ
Charn ประสบความสำเร็จอย่างมาก ก็เพราะได้เนรมิตสิ่งที่ลูกค้าต้องการมาไว้ ณ ที่แห่งนี้ทั้งหมดแล้ว
ด้วยการคัดสรรและรวบรวม Anchor Tenant หรือผู้เช่ารายใหญ่ แบรนด์ร้านค้า และร้านอาหารต่าง ๆ ที่อยู่ในกระแสจากใจกลางเมือง มารวมตัวเป็นจำนวนมากได้สำเร็จ
เรียกได้ว่า แบรนด์ร้านค้าและร้านอาหารของที่นี่ครบ จบจริงจนเหมือนยกทั้งย่านฮิตของกรุงเทพฯ มาไว้ในคอมมูนิตี้มอลล์เดียวเลย


ยกตัวอย่าง แบรนด์ตัวท็อปจากใจกลางเมือง เช่น
- Villa Market
- Major Cineplex
- Too Fast To Sleep
- Lemon Farm
- Sushiro
- Eat Am Are
- Lucky Suki
- นักล่าหมูกระทะ
- BHC
- Saemaeul
- After You
- Villa Market
- Major Cineplex
- Too Fast To Sleep
- Lemon Farm
- Sushiro
- Eat Am Are
- Lucky Suki
- นักล่าหมูกระทะ
- BHC
- Saemaeul
- After You



นอกจากนี้ Charn ก็ยังยกทัพร้านอาหารคุณภาพและการันตีความอร่อยมาเปิดอีกด้วย เช่น
- Katei Shabu
- Red Panda Yakiniku
- Pata Plantation
- Onzen Kawa Shabu
- สกุลดี
- Katei Shabu
- Red Panda Yakiniku
- Pata Plantation
- Onzen Kawa Shabu
- สกุลดี



ตัวอย่างแบรนด์ร้านอาหารและเครื่องดื่มที่ Charn คัดสรรมาให้แล้ว เช่น
- Jian Cha
- Rolling Roasters
- BEARHOUSE
- Lele Juice Bar
- Thank You Cup
- Boost Juice
- Sol Coffee
- Jian Cha
- Rolling Roasters
- BEARHOUSE
- Lele Juice Bar
- Thank You Cup
- Boost Juice
- Sol Coffee


นอกจากนี้ ยังมีร้านค้าไลฟ์สไตล์, คลินิกเสริมความงามและกายภาพบำบัด, สถาบันสอนพิเศษ และธนาคาร มารวมไว้ ณ ที่แห่งนี้เรียบร้อยแล้ว ครบ จบ ทุกอย่างในที่เดียว
ทำให้มีผู้คนเข้ามาใช้บริการ Charn กันเป็นจำนวนมาก เพราะคนในพื้นที่ไม่จำเป็นต้องเดินทางไกล เพื่อเข้าไปในเมืองอีกต่อไป

นับเป็นการยกระดับไลฟ์สไตล์และคุณภาพชีวิตของคนกรุงเทพตอนเหนือโดยตรง และเป็นจุดขายที่ลูกค้าหลายคนต่างพูดถึงและให้การยอมรับ
3. คอนเซปต์งานออกแบบสถาปัตยกรรม และภูมิสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น
แปลนพื้นที่ใน Charn ถูกออกแบบให้เป็น Open Space ทำให้พื้นที่มีความโปร่ง โล่ง และลูกค้าเดินหาร้านค้าในโครงการได้ง่ายและสะดวกสบาย


ซึ่งนับว่าเป็นจุดแข็งของ Charn ที่ลูกค้าหลายคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกัน
อีกทั้งในช่วงที่ผู้คนมาใช้เวลาทำกิจกรรมที่นี่จะรู้สึกถึงความอบอุ่น และผ่อนคลาย เหมือนกับช่วงเวลาที่คนในครอบครัวได้มากินข้าว ต้อนรับแขก หรือทำกิจกรรมร่วมกันที่ “ชานบ้าน” กันอย่างสบายใจ
นอกจากนี้ ในโครงการยังเปลี่ยนพื้นที่ขายกว่า 3,100 ตารางเมตร ให้กลายเป็นพื้นที่สีเขียวร่มรื่น จากการเลือกสรรพันธุ์ไม้หลากหลายพันธุ์มาผสมกัน

และด้วยความลงตัวของการออกแบบสถาปัตยกรรมและภูมิสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานกันได้อย่างลงตัว
ก็ทำให้ Charn เหมาะกับการมาเดินเล่นชิล ๆ เสพบรรยากาศ และถ่ายรูปสวย ๆ ลงโซเชียล
ก็ทำให้ Charn เหมาะกับการมาเดินเล่นชิล ๆ เสพบรรยากาศ และถ่ายรูปสวย ๆ ลงโซเชียล
ด้วยความสวยงามโดดเด่นนี้เองก็ทำให้ IF (Integrated Field) และ Shma SoEn ผู้ออกแบบโครงการ Charn ได้รับรางวัลชนะเลิศการประกวด Bluescope Design Award 2024 อีกด้วย

ซึ่งทั้งหมดนี้ก็ได้สะท้อนถึงความตั้งใจของโครงการที่อยากให้ทุกคนได้รับประสบการณ์และช่วงเวลาที่ดี ๆ กลับไป ตามสโลแกน “The Heart of the Home”
และต้องบอกว่า นับตั้งแต่วันแรกที่ Charn เปิดให้บริการ ก็ได้รับเสียงตอบรับอย่างดี จากทั้งฝั่งร้านค้าผู้ประกอบการและฝั่งลูกค้า

4. การพัฒนาพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อคืนความสุขให้ลูกค้า
ทว่า Charn ก็ยังไม่หยุดเท่านั้น แต่ได้พัฒนาการให้บริการลูกค้าอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อให้ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการคอมมูนิตี้มอลล์ได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด เช่น
- พัฒนาพื้นที่ เพื่อเปิดโซนใหม่บริเวณชั้น 2 อาคาร A ให้เป็นพื้นที่สีเขียว และรองรับร้านค้าใหม่ ๆ ที่จะเปิดในช่วงไตรมาส 4 ของปี 2025
- มีกิจกรรม Workshop จาก Charn ให้เข้าร่วมเป็นประจำ เช่น กิจกรรม Charmed at Charn เป็นกิจกรรมร้อยลูกปัดให้ทุกคนได้ร่วมสนุก เปรียบเสมือนการนำกำไรกลับมามอบให้ลูกค้าผ่านกิจกรรมน่ารัก ๆ นั่นเอง
- การจัด Market Event ตามเทศกาลต่าง ๆ ให้ลูกค้าได้เดินเล่น เที่ยว ชิม ช็อป
- มีพื้นที่สำหรับสัตว์เลี้ยง ตอกย้ำความเป็น Pet Friendly
- มีที่จอดรถ EV Porsche Charging Station และสามารถรองรับรถไฟฟ้าได้ทุกรุ่น


ทั้งหมดนี้ก็คือ เรื่องราวของ Charn at The Avenue คอมมูนิตี้มอลล์ย่านแจ้งวัฒนะ ที่ใครก็ตามผ่านมาแจ้งวัฒนะ จะต้องนึกถึง Charn at The Avenue เป็นจุดหมายปลายทางเป็นอันดับแรก ๆ
และมาเติมเต็มส่วนที่ขาดไปในย่านนี้ ให้กลายเป็นย่านที่มีชีวิตชีวา เต็มไปด้วยความคึกคัก และ Charn เองก็เติบโตอย่างเป็นธรรมชาติไปพร้อม ๆ กันกับแจ้งวัฒนะ
#GROWINGWITHCHAENGWATTANA
#CHARNATTHEAVENUE
#CHARNATTHEAVENUE