
สรุปทุกเรื่องที่ต้องรู้ รถไฟฟ้า 20 บาท ตลอดสาย ก่อนเปิดลงทะเบียนจริง 25 สิงหาคมนี้
22 ส.ค. 2025
ล่าสุด โครงการรถไฟฟ้า 20 บาท ตลอดสาย ของรัฐบาล เตรียมเปิดให้ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ์ได้ในวันจันทร์ที่ 25 สิงหาคม ที่จะถึงนี้
ก่อนที่จะเริ่มคิดค่าโดยสาร 20 บาท ตลอดสายได้จริง ในวันที่ 1 ตุลาคม ที่จะถึงนี้
MarketThink สรุปทุกเรื่องที่ต้องรู้ สำหรับเตรียมลงทะเบียนรับสิทธิ์ รถไฟฟ้า 20 บาท ตลอดสายในโพสต์เดียว
1. รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เปิดลงทะเบียนผ่านแอป “ทางรัฐ”
เปิดให้ลงทะเบียนรับสิทธิ์ได้ ตั้งแต่เวลา 00.01 น. ของวันที่ 25 สิงหาคม (ช่วงรอยต่อระหว่างวันอาทิตย์และวันจันทร์) ที่จะถึงนี้
โดยไม่มีการจำกัดระยะเวลาการลงทะเบียนรับสิทธิ์ รวมถึงไม่มีการจำกัดจำนวนผู้รับสิทธิ์ เช่นเดียวกัน
นั่นหมายความว่า ไม่ว่าจะลงทะเบียนตอนไหน จะช้าหรือเร็ว ก็ได้รับสิทธิ์ทุกคน
โดยสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันทางรัฐ ได้บน Google Play Store สำหรับสมาร์ตโฟนระบบ Android
และ App Store สำหรับสมาร์ตโฟนระบบ iOS
2. ลงทะเบียนรับสิทธิ์ ต้องใช้อะไรบ้าง ?
การลงทะเบียนรับสิทธิ์ รถไฟฟ้า 20 บาท ตลอดสาย มีเงื่อนไขสำคัญคือ ต้องเป็น “คนไทย” เท่านั้น
สิ่งที่ต้องใช้ในการลงทะเบียน ได้แก่
- บัตรประจำตัวประชาชน
- บัตร Rabbit (ต้องเป็นบัตร Rabbit ที่ผูกกับ Rabbit Wallet หรือ LINE PAY แล้วเท่านั้น)
- บัตร EMV Contactless (บัตรเดบิต / บัตรเครดิต ที่มีสัญลักษณ์ Contactless คล้ายรูป WiFi)
โดยผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 10 ปี ผู้ปกครองต้องพาไปลงทะเบียน ที่ห้องจำหน่ายตั๋วบนสถานีรถไฟฟ้าได้ทุกสาย เพื่อให้เป็นไปตาม พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA)
3. ใช้บัตรใบไหน กับรถไฟฟ้าสายอะไรได้บ้าง
บัตร Rabbit (ที่ผูกกับ LINE PAY หรือ Rabbit Wallet) จะใช้ได้กับ
- รถไฟฟ้า BTS สายสุขุมวิท
- รถไฟฟ้า BTS สายสีลม
- รถไฟฟ้าสายสีทอง
- รถไฟฟ้าสายสีเหลือง
- รถไฟฟ้าสายสีชมพู
หากใครยังไม่มี สามารถซื้อบัตร Rabbit ได้ที่ห้องจำหน่ายตั๋วบนสถานีรถไฟฟ้าทั้ง 4 สายข้างต้นนี้ และนำไปผูกกับ LINE PAY หรือ Rabbit Wallet ได้ด้วยตัวเอง ก่อนนำไปลงทะเบียนรับสิทธิ์รถไฟฟ้า 20 บาท ตลอดสาย
ส่วนบัตร EMV Contactless จะใช้ได้กับ
- รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน
- รถไฟฟ้าสายสีม่วง
- รถไฟฟ้าสายสีแดง
- รถไฟฟ้าสายสีเหลือง
- รถไฟฟ้าสายสีชมพู
- รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์
ซึ่งบัตร EMV Contactless นี้ มีทั้งบัตรเดบิต และบัตรเดบิตของธนาคารต่าง ๆ
รวมถึงบัตร EMV Contactless ที่ออกโดยรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (บัตร MRT EMV) รวมถึงบัตรแมงมุม EMV ของรฟม. ก็ใช้ได้เช่นกัน
4. เงื่อนไขการคิดค่าโดยสาร รถไฟฟ้า 20 บาท ตลอดสาย
ผู้โดยสารจะถูกคิดค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เมื่อแตะเข้า-ออก จากระบบรถไฟฟ้าด้วยบัตร Rabbit หรือบัตร EMV Contactless ที่ได้ลงทะเบียนรับสิทธิ์บนแอปพลิเคชันทางรัฐเท่านั้น
และไม่ว่าจะเดินทางข้ามรถไฟฟ้ากี่สาย ก็เสียค่าโดยสารเพียง 20 บาท เท่ากัน
- ในกรณีที่เดินทางด้วยรถไฟฟ้า ที่ต้องใช้ทั้งบัตร Rabbit และ บัตร EMV Contactless ก็จำเป็นต้องลงทะเบียนบัตรทั้ง 2 ใบในระบบ เพื่อใช้งานรถไฟฟ้าทั้งหมดได้อย่างครอบคลุมในราคา 20 บาท
เช่น ขึ้นรถไฟฟ้า BTS สายสีลม สถานีศาลาแดง ให้แตะบัตร Rabbit
แต่ถ้าจะเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สถานีสีลม ต้องแตะด้วยบัตร EMV Contactless
- อีกเงื่อนไขเงื่อนไขสำคัญคือ ต้องทำการเปลี่ยนสายภายในเวลา 30 นาที โดยเริ่มนับตั้งแต่การแตะบัตรออกจากรถไฟฟ้าสายหนึ่ง ไปแตะบัตรเข้าที่รถไฟฟ้าอีกสายหนึ่ง
และหากมีการใช้บัตรที่ไม่ได้ลงทะเบียนไว้กับแอปพลิเคชันทางรัฐ ก็จะต้องเสียค่าโดยสาร ในราคาปกติ
ส่วนในกรณีที่ค่าโดยสารเดิมมีราคาไม่ถึง 20 บาท ก็จะเสียค่าโดยสารในราคาเท่าเดิม โดยไม่ต้องจ่ายแพงขึ้น แต่อย่างใด
อ้างอิง :