สรุป Use Case จริง ใช้ “Nano-Banana” ของ Google เครื่องมือ AI สร้างรูปฟิกเกอร์ ที่กำลังฮิต ๆ ทำอะไรได้อีกบ้าง ?

สรุป Use Case จริง ใช้ “Nano-Banana” ของ Google เครื่องมือ AI สร้างรูปฟิกเกอร์ ที่กำลังฮิต ๆ ทำอะไรได้อีกบ้าง ?

2 ก.ย. 2025
0. การเข้าใช้งานเครื่องมือ AI “Nano-Banana” แบบง่าย ๆ
เมื่อไม่นานมานี้ Google เพิ่งประกาศเปิดตัวเครื่องมือ AI ใหม่ เป็นเครื่องมือที่ช่วยสร้างและตัดต่อรูปภาพได้ง่าย ๆ ผ่านการพิมพ์คำสั่ง (Prompt)
ซึ่งเครื่องมือนี้ชื่อว่า “Gemini 2.5 Flash Image” หรือมีอีกชื่อหนึ่งคือ “Nano-Banana”
เครื่องมือนี้ สามารถเข้าใช้งานได้ง่าย ๆ ผ่าน Gemini
โดยกดเลือกโมเดลด้านบนให้เป็น “2.5 Flash” ส่วนที่กรอบพิมพ์คำสั่งให้เลือกคำว่า “Create Image” เพียงเท่านี้ เราก็สามารถพิมพ์คำสั่งสร้างรูปภาพที่ต้องการได้เลย
_______________________
1. ลบพื้นหลังออกจากบุคคลหรือวัตถุ หรือในทางกราฟิกจะเรียกกันว่า “ไดคัต (Die-Cut)”
ตัวอย่างเช่น
Prompt : ลบฉากหลังออกจากผู้ชายคนนี้ ให้พื้นหลังโปร่งแสง เป็นไฟล์ PNG
ผลลัพธ์ : สามารถทำออกมาได้อย่างแนบเนียน แต่ไฟล์ที่ได้ออกมาคือรูปที่เป็นฉากขาว ไม่ใช่ไฟล์ที่ลบพื้นหลังออกไปแล้ว หรือต่อให้เราบอกว่าขอเป็นไฟล์ PNG และเป็นภาพโปร่งแสง ก็ยังไม่ได้เป็นภาพ Die-Cut จริง ๆ
เพราะฉะนั้นหากต้องการนำรูปวัตถุไปตัดต่อ เราจำเป็นต้องตัดพื้นหลังสีขาวออกจากวัตถุอีกทีหนึ่ง
_______________________
2. เปลี่ยนพื้นหลัง หรือวัตถุต่าง ๆ ให้มีรูปแบบหรือสไตล์ ตามที่ต้องการ
ตัวอย่างเช่น
Prompt : เปลี่ยนห้องด้านหลัง ให้มีฉากเป็นเหมือนในการ์ตูนเรื่อง Oggy and the Cockroaches
ผลลัพธ์ : จากผลลัพธ์ จะเห็นว่า จุดเด่นหนึ่งที่สำคัญมาก ๆ ของ Nano-Banana คือการคงใบหน้าของคนได้เป็นอย่างดี แตกต่างจากเครื่องมือ AI อื่น ๆ ที่อาจทำให้ใบหน้าของคนในภาพเปลี่ยนไป
ส่วนคำสั่งที่ให้ช่วยเปลี่ยนพื้นหลังตามคำสั่ง ถือว่าทำได้ดี
โดยองค์ประกอบภายในห้องจะมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ส่วนหนึ่งมาจากการใช้องค์ประกอบเด่น ๆ ของเนื้อหาการ์ตูน อย่างหลอดไฟ และตู้เย็น มาปรับแต่ง แต่ยังสามารถจัดวางองค์ประกอบต่าง ๆ ได้อย่างมีมิติ
_______________________
3. เปลี่ยนลายเสื้อบางตำแหน่ง โดยการนำรูปลายที่ต้องการใส่ลงไป และป้อนคำสั่งตำแหน่งที่ต้องการอย่างละเอียด
ตัวอย่างเช่น
Prompt : เอาตัวอักษร Samsung จากรูป ไปใส่บนเสื้อบริเวณอกด้านซ้ายของผู้ชายในรูป
ผลลัพธ์ : องค์ประกอบอื่น ๆ ภายในฉากยังอยู่ครบ ไม่มีการเปลี่ยนแปลง รวมถึงใบหน้าของบุคคลก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลง
แต่หากสังเกตดี ๆ จะเห็นได้ว่าฉากหลังมีการขยายออกไปเล็กน้อย ซึ่งก็ทำได้เนียนจนแทบไม่รู้สึกถึงความแตกต่าง
_______________________
4. ลองตกแต่งห้อง ด้วยการนำสินค้าเข้ามาใส่
ตัวอย่างเช่น
Prompt : วางเตียงนอนในรูปบริเวณริมหน้าต่าง และวางโซฟาในรูปไว้ตรงข้ามกับเตียง
ผลลัพธ์ : จากรูปจะเห็นได้ว่าองค์ประกอบที่เอามาใส่จะมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย อย่างเตียงที่ดูเล็กเกินไป หรือโซฟาที่ให้ความรู้สึกว่าดูสั้นเกินไป
แต่โดยรวมก็สามารถจัดองค์ประกอบออกมาได้ดี เช่น แสง และเงาที่ตกกระทบวัตถุ ที่แสดงให้เห็นถึงการวางองค์ประกอบต่าง ๆ ได้อย่างแนบเนียน
_______________________
5. ทดสอบใส่เสื้อผ้าแบรนด์ต่าง ๆ
ตัวอย่างเช่น
Prompt : เปลี่ยนเสื้อ และนาฬิกา ของผู้ชายคนนี้ให้เป็นแบบในรูป
ผลลัพธ์ : จากรูปจะเห็นได้ว่าแม้ว่าอัตราส่วนรูปภาพที่ใส่ลงไปจะเป็นแนวนอน แต่รูปที่ได้ออกมาเป็นแนวตั้ง แม้ว่าจะพิมพ์คำสั่งว่าขอรูปแบบในอัตราส่วนเดิมแล้วก็ตาม
แต่รูปที่ได้ออกมา ก็ถือว่าทำได้ดี ไม่ว่าจะแสงที่ตกกระทบกับเนื้อผ้า หรือเงาที่ตกกระทบในส่วนต่าง ๆ ก็ทำออกมาได้ดี
_______________________
- ส่วนวิธีการสร้างโมเดลฟิกเกอร์ขนาดต่าง ๆ ที่กำลังเป็นที่นิยมตอนนี้ สามารถพิมพ์คำสั่งได้ตามนี้
Prompt : ใช้ภาพนี้สร้างฟิกเกอร์ สเกล 1/7 วางอยู่บนแผ่นอะคริลิกใส
ฉาก : หน้าจอ Apple Display ขนาด 32 นิ้ว ที่กำลังเปิดหน้าจอโปรแกรม Blender โชว์ฟิกเกอร์ในมุมมองต่าง ๆ พร้อมหน้าต่างอื่น ๆ เหมือนกำลังทำงาน
แสง : สมจริงเหมือนการถ่ายสินค้า
พื้นหลัง : ห้องทำงานสีขาว ที่ตกแต่งด้วยรูปภาพ และโมเดลรถ F1
ผลลัพธ์ : ผู้ใช้สามารถพิมพ์ชุดคำสั่งเป็นภาษาไทยหรืออังกฤษก็ได้ โดยตัวอย่างจะใช้เป็นภาษาไทยทั้งหมด เพื่อแสดงให้เห็นว่า Gemini ก็สามารถทำความเข้าใจภาษาไทยได้เป็นอย่างดี
โดยผลลัพธ์ที่ได้จะไม่ซ้ำกันสักรูปแบบ หากผู้ใช้ไม่ชอบ ก็สามารถกดปุ่ม “Redo” เพื่อทำซ้ำอีกทีก็ได้
© 2025 Marketthink. All rights reserved. Privacy Policy.