รู้จัก Bombardier Global 7500 เครื่องบินเจ็ตส่วนตัวสุดหรู ที่มหาเศรษฐีทั่วโลก นิยมใช้

Bombardier Global 7500 กลายเป็นเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว ที่คนไทยน่าจะเคยได้ยินชื่อผ่านหูผ่านตากันมาบ้างในช่วงนี้ ในฐานะเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว ที่มหาเศรษฐี และคนดัง ใช้เดินทางไปในที่ต่าง ๆ ทั่วโลก

แล้ว Bombardier Global 7500 มีความน่าสนใจอย่างไร ?

ทำไมจึงกลายเป็นพาหนะคู่ใจเมื่อครั้งต้องเดินทางไกล ของทั้งมหาเศรษฐี และคนดังระดับโลก

MarketThink สรุปความน่าสนใจ ของเครื่องบินรุ่นนี้ ให้อ่านกันในโพสต์นี้

Bombardier Global 7500 เป็นเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว ที่มีพิสัยการบินไกลเป็นพิเศษ (Ultra Long-Range Business Jet) ที่พัฒนาขึ้นโดย Bombardier Aviation บริษัทผู้ผลิตเครื่องบินสัญชาติแคนาดา 

ซึ่ง Bombardier Global 7500 ได้ชื่อว่าเป็นเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกในปัจจุบัน

โดย Bombardier ได้เริ่มต้นโครงการพัฒนา Bombardier Global 7500 เมื่อปี 2010 ก่อนที่จะขึ้นบินเป็นครั้งแรกในปี 2016 และเริ่มให้บริการกับผู้โดยสารได้จริงในปี 2018

แต่ความน่าสนใจจริง ๆ ของ Bombardier Global 7500 อยู่ตรงที่สเป็กของเครื่องบินรุ่นนี้ ที่ได้ชื่อว่าเป็นเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว ที่มีความสุดในทุกด้าน เช่น

- บินได้ไกลสูงสุด 14,260 กิโลเมตร

หากเปิดดูข้อมูลที่อยู่บนเว็บไซต์ของ Bombardier จะพบว่า เครื่องบินเจ็ตส่วนตัวรุ่นนี้ สามารถทำการบินจากสิงคโปร์ไปยังดูไบ ลอนดอน รวมถึงเมืองใหญ่อื่น ๆ ในยุโรปได้แบบสบาย ๆ

หรือหากออกเดินทางจากฮ่องกง ก็จะสามารถเดินทางไปยังลอสแอนเจลิส ในประเทศสหรัฐอเมริกาได้เลยทีเดียว

- ทำความเร็วสูงสุด 982 กิโลเมตร/ชั่วโมง

และสามารถเลือกอัปเกรดความเร็วเพิ่มขึ้นเป็น 1,160 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ 

ซึ่งถือเป็นความเร็วที่สูงมาก ๆ เป็นรองเพียงเครื่องบินความเร็วเหนือเสียง Concorde ที่ปัจจุบันเลิกใช้งานไปแล้วเท่านั้น

- ใช้เครื่องยนต์ GE Passport

ที่มีประสิทธิภาพสูง ทรงพลัง แต่มีเสียงรบกวนต่ำ ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายสูงสุดให้กับผู้โดยสาร รวมถึงยังมีต้นทุนการบำรุงรักษาที่ต่ำอีกด้วย

- ปีกของเครื่องบิน ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษ

เรียกว่า Flĕx Wing ที่ Bombardier ระบุว่าเหมือนมีโช้กอับลอยอยู่กลางอากาศ ออกแบบมาเพื่อลดแรงสั่นสะเทือนเมื่อเครื่องบินเจอกับสภาพอากาศแปรปรวน 

ทำให้ห้องโดยสารของ Bombardier Global 7500 มีแรงสั่นสะเทือนที่น้อยลง และสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

- ห้องโดยสารที่ออกแบบมาให้หรูหราเป็นพิเศษ

สามารถบรรทุกผู้โดยสารได้สูงสุด 19 คน ตามการออกแบบห้องโดยสารแบบมาตรฐาน โดย Bombardier Global 7500 จะแบ่งห้องโดยสารออกเป็นส่วน ๆ เพื่อความเป็นส่วนตัว ได้แก่

โซนของลูกเรือ อยู่ที่ด้านหน้าสุดของเครื่องบิน ติดกับห้องนักบิน

โซนรับประทานอาหาร และห้องประชุม

โซนความบันเทิง มีหน้าจอทีวีขนาดใหญ่ และระบบเสียงแบบ Immersive

โซนห้องพักผ่อน เป็นเหมือนห้องนอนลอยฟ้า

และโซนห้องน้ำ และห้องอาบน้ำ ที่อยู่ด้านหลังสุดของเครื่องบิน

โดยที่ห้องโดยสารทุกโซน จะมีหน้าต่างขนาดใหญ่พิเศษ และระบบไฟส่องสว่างที่ออกแบบมาเพื่อลดอาการ Jet Lag เมื่อเดินทางไกลโดยเฉพาะ

และมหาเศรษฐีผู้เป็นเจ้าของเครื่องบิน ยังสามารถปรับแต่งการออกแบบ และการตกแต่งห้องโดยสาร ได้อย่างอิสระอีกด้วย

ในขณะที่ห้องนักบิน (Cockpit) ก็ได้รับการออกแบบด้วยเทคโนโลยีทันสมัย มีระบบความปลอดภัยแบบครบครัน และใช้ระบบควบคุมการบินแบบ Fly-by-Wire เหมือนเครื่องบินโดยสารขนาดใหญ่ เหมาะกับการบินทั้งระยะสั้น และระยะไกล

จากความล้ำทั้งหมดของ Bombardier Global 7500 ทำให้เครื่องบินรุ่นนี้มีราคาสูงถึง 75 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2,415 ล้านบาท) เลยทีเดียว

ซึ่งแม้ว่าจะมีราคาที่สูงขนาดนี้ แต่ Bombardier ระบุว่า ในปัจจุบันเครื่องบินรุ่นนี้ส่งมอบ และให้บริการกับมหาเศรษฐี และคนดังทั่วโลก ไปแล้วมากกว่า 200 ลำ

โดยตัวอย่างของมหาเศรษฐีและคนดังที่เป็นเจ้าของ Bombardier Global 7500 ก็อย่างเช่น

- Kylie Jenner เซเลบริตีชื่อดัง 

- Niki Lauda อดีตนักแข่งรถ Formula One

- Matt Damon นักแสดง และผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดัง

รวมถึง Bernard Arnault มหาเศรษฐีและ CEO ของเครือแบรนด์หรู LVMH ก็เคยเป็นเจ้าของเครื่องบินรุ่นนี้เช่นกัน แต่ได้ขายเครื่องบินรุ่นนี้ไปแล้ว เนื่องจากเหตุผลด้านความเป็นส่วนตัว

และนอกจากนี้ ยังมีมหาเศรษฐีรวมถึงคนดังอีกหลายคน เคยโดยสารบน Bombardier Global 7500 มาแล้ว ผ่านการให้บริการของบริษัทเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว แม้จะไม่ได้เป็นเจ้าของก็ตาม

อ้างอิง :

- https://bombardier.com/en/aircraft/global-7500
- https://en.wikipedia.org/wiki/Bombardier_Global_7500 
- https://simpleflying.com/bombardier-global-7500-celebrity-guide/