
“อีคอมเมิร์ซ” ลมใต้ปีกที่ผลักดัน “แบรนด์ไทย” ให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด
17 ต.ค. 2025
ปัจจุบัน อีคอมเมิร์ซไม่ได้เป็นเพียงช่องทางการขาย แต่เป็นพื้นที่แห่งโอกาสทางธุรกิจที่ช่วยปลดล็อกศักยภาพและสร้างการเติบโตให้กับแบรนด์ไทยอย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าบิวตี้และแฟชั่น
โดยเมกะแคมเปญ 9.9 ที่ผ่านมาของลาซาด้า แบรนด์แฟชั่นผู้หญิงที่ครองอันดับขายดีที่สุดบนลาซาด้า ล้วนเป็นแบรนด์ไทยมาแรง อีกทั้งยังมียอดขายรวมเพิ่มขึ้นกว่า 55% เมื่อเทียบกับแคมเปญ 6.6
นอกจากคุณภาพสินค้า ดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ แบรนด์ดีเอ็นเอของคนไทยที่โดดเด่นแล้ว กลยุทธ์เชิงรุกที่ผสานเข้ากับพลังของแพลตฟอร์ม คือกุญแจสำคัญที่นำพาแบรนด์ไทยเข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายในวงกว้าง นำมาสู่การเติบโตและต่อยอดให้แบรนด์ไทยประสบความสำเร็จแบบติดจรวด โดยปัจจัยขับเคลื่อนความสำเร็จ ประกอบด้วย
1. โครงสร้างพื้นฐานอีคอมเมิร์ซที่แข็งแกร่ง สปริงบอร์ดต่อยอดความสำเร็จแบรนด์ไทย
เบื้องหลังความสำเร็จของแบรนด์ไทยบนอีคอมเมิร์ซอย่างลาซาด้า มีปัจจัยหลักมาจากโครงสร้างพื้นฐานของอีคอมเมิร์ซที่แข็งแกร่งและครบวงจร ซึ่งมอบโอกาสให้แบรนด์ไทยและผู้ประกอบการไทยทุกขนาดสามารถเข้าถึงตลาดที่กว้างขึ้น และสามารถต่อยอดธุรกิจได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โดยไม่จำเป็นต้องลงทุนมหาศาลเพื่อสร้างระบบการบริหารจัดการขึ้นมาใหม่
โดยแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซมีความพร้อมในการรองรับทุกความต้องการของแบรนด์ ตั้งแต่เทคโนโลยี โลจิสติกส์ ระบบการชำระเงินที่ปลอดภัยและหลากหลาย ตลอดจนการมอบประสบการณ์การช้อปปิงที่ไร้รอยต่อตั้งแต่ต้นจนจบ (end to end) ซึ่งล้วนเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยเสริมความพร้อมและเพิ่มโอกาสการเติบโตให้แบรนด์ไทยได้อย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน
แน่นอนว่า การมี “หน้าร้านดิจิทัล” เป็นอีกหนึ่งจุดแข็งของแพลตฟอร์มอย่างลาซาด้า ในการเพิ่มการมองเห็นและขยายการเข้าถึงโดยไม่มีข้อจำกัดด้านพื้นที่ ทำให้แบรนด์เข้าถึงฐานลูกค้าใหม่ได้อย่างกว้างขวาง อีกทั้งยังสามารถออกแบบร้านค้าบนแพลตฟอร์มเพื่อถ่ายทอดเอกลักษณ์และเล่าเรื่องราวของแบรนด์ได้อย่างเต็มที่
นอกจากนี้ แพลตฟอร์มอย่างลาซาด้า ยังมีหมวดสินค้าที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าเฉพาะกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็น LazMall ที่เน้นสินค้าแบรนด์แท้และสินค้าพรีเมียม LazLOOK ที่รวบรวมแฟชั่นสุดฮิต หรือ LazBEAUTY ที่เจาะกลุ่มนักช้อปสายบิวตี้แบบตรงใจ
-จากแคมเปญ 9.9 ที่ผ่านมา แบรนด์แฟชั่นผู้หญิงขายดี 5 อันดับล้วนเป็นแบรนด์สัญชาติไทย ประกอบด้วย endless holiday, lookbooklookbook, MITR, AIMER, Rally Movement
-lookbooklookbook แบรนด์แฟชั่นสัญชาติไทยที่ exclusive บนลาซาด้า ทำยอดขายเกินปีละ 100 ล้านบาท
2. สร้างดีมานด์ต่อเนื่องด้วยเปิดตัวสินค้าใหม่-เอ็กซ์คลูซีฟคอลเลคชัน-พรีออเดอร์
หนึ่งสูตรสำเร็จที่เห็นได้ชัดสำหรับแบรนด์ไทย คือการสร้างแรงจูงใจในการช้อปปิงอย่างต่อเนื่องด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ และสินค้าคอลเลกชันพิเศษอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งเป็นการสร้างดีมานด์และรักษาฐานลูกค้าให้กลับมาซื้อซ้ำ อีกทั้งการนำเสนอสินค้าเอ็กซ์คลูซีฟ ลิมิเต็ดคอลเลกชัน หรือจำกัดช่วงเวลาสำหรับพรีออเดอร์ เฉพาะบนแพลตฟอร์ม
ซึ่งช่วยกระตุ้นความต้องการของตลาด สร้างความตื่นเต้น สร้างกระแสให้แบรนด์และสินค้าเป็นที่สนใจ ตลอดจนการมอบความรู้สึกพิเศษ (Exclusivity) ความต้องการที่จะเป็นเจ้าของสินค้าก่อนใคร (Urgency) ให้กับนักช้อปอยู่เสมอ โดยกลยุทธเหล่านี้ถือว่า “เวิร์ก” สำหรับแบรนด์ไทย โดยเฉพาะในหมวดหมู่แฟชัน แม้ในช่วงกระแสเศรษฐกิจซบเซา ส่งผลให้ยอดขายเพิ่มสูงขึ้น และเป็นกระแสในกลุ่มลูกค้าและโซเชียลมีเดียอย่างต่อเนื่อง
-แบรนด์ lookbooklookbook เปิดตัวคอลเลคชัน The Girl Next Door ร่วมคอลแลปกับนักร้องสาว วี-วิโอเลต วางจำหน่ายแบบเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะบนลาซาด้ารับแคมเปญ 9.9 ที่ผ่านมา สร้างปรากฏการณ์ sold-out ในหลักวินาที จนต้องเปิดพรีออเดอร์เพื่อตอบรับความต้องการของลูกค้าต่อเนื่อง
-Rally Movement แบรนด์ที่สร้างปรากฏการณ์กระเป๋า 'Sold Out' ภายในไม่กี่วินาที ด้วยการส่งรุ่นใหม่ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็น 'It-Bag' ที่สาวๆ ทุกคนต้องมี
3. จับเทรนด์ไว เสิร์ฟอินไซต์ลูกค้าด้วยดาต้า
การปรับตัวอย่างรวดเร็วเพื่อตอบอินไซต์ ความต้องการ พฤติกรรม และเทรนด์ผู้บริโภคในปัจจุบันเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการดำเนินธุรกิจในยุคดิจิทัล การเปิดร้านบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ จึงมาพร้อมเครื่องมือหลากหลายที่ช่วยประมวลข้อมูลจำนวนมากเป็นดาต้าเชิงลึกที่เป็นประโยชน์ต่อทิศทางการเติบโตของแบรนด์ เช่น เครื่องมือของลาซาด้า อย่าง Business Advisor แดชบอร์ดที่ช่วยสรุปและวิเคราะห์ยอดขายและเจาะกลุ่มลูกค้าอย่างแม่นยำ
หรือ Opportunity Center เครื่องมือที่แนะนำสินค้าที่มีความต้องการ ซื้อสูง หรือสินค้าที่นิยมในตลาด ช่วยให้แบรนด์ไทยสามารถนำเสนอสินค้า โปรโมชัน ได้ตรงใจลูกค้า ซึ่งล้วนเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้แบรนด์เข้าไปนั่งอยู่ในใจของนักช้อป (Top of Mind) ด้วยความเข้าใจอินไซต์และทันกระแสอย่างแท้จริง
นอกจากนี้ การเข้าใจความต้องการของลูกค้าจากรีวิว การให้คะแนนด้านสินค้าและการบริการยังช่วยให้แบรนด์ สามารถนำฟีดแบคของลูกค้าไปพัฒนาเพื่อสร้างประสบการณ์เชิงบวกและเติบโตได้อย่างยั่งยืน
-Fundao แบรนด์กระเป๋าคนไทยที่ไม่ได้มีเพียงดีไซน์โดดเด่น แต่เน้นฟังก์ชันที่ตอบโจทย์อินไซต์ของผู้หญิงวัยทำงานที่ต้องการความคล่องตัว จนขึ้นแท่นอีกหนึ่งแบรนด์ไทยที่ติดอันดับขายดีบนลาซาด้าอย่างต่อเนื่อง
-แคมเปญลาซาด้า 9.9 ที่ผ่านมา Fundao ติด Top 5 แบรนด์ LazMall ขายดีที่สุดบนลาซาด้า ในหมวดหมู่กระเป๋า โดยเป็นแบรนด์สัญชาติไทยหนึ่งเดียวในลิสต์ (5 อันดับแบรนด์ขายดีในหมวดหมู่กระเป๋าจากแคมเปญ 9.9 1. Samsonite 2. American Tourister 3. Fundao 4. Coach 5. Tumi)
4. เสริมแกร่งแบรนด์ไทยด้วยฟีเจอร์หลากหลาย พร้อม AI ช่วยโปรโมตสินค้าเต็มศักยภาพ
อีกปัจจัยสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของแบรนด์ไทย คือ การดึงศักยภาพของฟีเจอร์และเครื่องมือบนแพลตฟอร์มมาใช้ประโยชน์อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการเข้าร่วมแคมเปญ การใช้ฟีเจอร์เสริมเพื่อเพิ่ม conversion อย่างคูปองส่วนลด คูปองส่งฟรี เกมและการสะสมเหรียญ ซึ่งกระตุ้นการตัดสินใจซื้อได้ทันที หรือการดึงทราฟฟิกจาก LazLive หรือ Lazada Affiliate ก็ถือเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ช่วยเพิ่มผู้เข้าชมร้าน
นอกจากนี้ ลาซาด้ายังมีเครื่องมือการตลาดที่ขับเคลื่อนด้วย AI เพิ่มโอกาสในการมองเห็น และเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่มีแนวโน้มจะซื้อสูง ซึ่งเป็นหัวใจของการทำตลาดดิจิทัลในยุคปัจจุบัน ทั้งหมดช่วยให้แบรนด์ไทยสามารถสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันและสร้างและแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซให้พื้นที่แห่งโอกาสทางธุรกิจพร้อมยอดขายที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง
-JOURNAL แบรนด์ความงามและเครื่องหอม ซึ่งวางขายบน LazMall เพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ซื้อและมอบประสบการณ์สินค้าพรีเมียม โดยแบรนด์ยังได้ใช้เครื่องมือ Sponsored Max เพื่อบริหารงบโฆษณาและปรับแคมเปญให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
โดยในแคมเปญ 6.6 ที่ผ่านมา แบรนด์ทำยอดขายเติบโตกว่า 200% (จากค่าเฉลี่ยของแคมเปญ Double Digit) และสร้างรายได้แตะ 7 หลัก จากการเพิ่มการมองเห็นและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างแม่นยำ