
อธิบาย การตลาด 7Ps ที่ต่อยอดจาก 4Ps ผ่านแบรนด์ดัง LA GLACE ที่ออกสินค้าใหม่ ๆ ให้ฮิตได้ตลอด
6 พ.ย. 2025
“LA GLACE” คือแบรนด์เครื่องสำอางไทย ยอดขาย 420 ล้านบาท
ที่น่าสนใจคือ นี่คือแบรนด์ของคนรุ่นใหม่ ที่สร้างปรากฏการณ์ไลฟ์สดขายสินค้า จนสร้างยอดขายกว่า 100 ล้านบาท ภายใน 25 ชั่วโมงมาแล้ว
ที่น่าสนใจคือ นี่คือแบรนด์ของคนรุ่นใหม่ ที่สร้างปรากฏการณ์ไลฟ์สดขายสินค้า จนสร้างยอดขายกว่า 100 ล้านบาท ภายใน 25 ชั่วโมงมาแล้ว
รวมถึงไม่ว่าจะออกสินค้าอะไรมา ก็เป็นกระแสและเป็น Hero Product ได้ตลอด ทั้งบลัชดำ, โทนเนอร์แพด และมาสคาราคิ้ว
คำถามที่สำคัญคือ แล้ว LA GLACE สร้างปรากฏการณ์เหล่านี้ได้อย่างไร ?
หนึ่งในเครื่องมือที่ช่วยเราวางกลยุทธ์ธุรกิจแบบง่าย ๆ แต่ครอบคลุมคือ “7Ps Marketing Mix” ที่ต่อยอดมาจากเครื่องมือที่หลายคนรู้จักกันดีอย่าง 4Ps
บทความนี้ MarketThink จะชวนมาวิเคราะห์กลยุทธ์ธุรกิจ LA GLACE ด้วย 7Ps กัน..
- 4Ps คือส่วนประสมการตลาด หรือ Marketing Mix ที่เรารู้จักกันว่ามีเรื่อง Product, Price, Place, Promotion
ส่วน 7Ps Marketing Mix เป็นส่วนประสมการตลาด ที่ต่อยอดจาก 4Ps ให้ครอบคลุมหลากหลายมุมยิ่งขึ้น เพื่อช่วยวางแผนกลยุทธ์ ให้ธุรกิจแข็งแกร่งรอบด้านมากกว่าเดิม
ซึ่งส่วนประกอบของ 7Ps Marketing Mix ได้แก่
1. Product (คุณลักษณะของสินค้า)
2. Price (ราคาของสินค้า)
3. Place (สถานที่จำหน่าย)
4. Promotion (โปรโมชันส่งเสริมการขาย)
5. People (พนักงานขายสินค้า)
6. Process (กระบวนการจัดการการทำงาน)
7. Physical Evidence (ประสบการณ์ที่มอบให้กับลูกค้า)
2. Price (ราคาของสินค้า)
3. Place (สถานที่จำหน่าย)
4. Promotion (โปรโมชันส่งเสริมการขาย)
5. People (พนักงานขายสินค้า)
6. Process (กระบวนการจัดการการทำงาน)
7. Physical Evidence (ประสบการณ์ที่มอบให้กับลูกค้า)
จะเห็นว่ามีอีก 3 เรื่องเพิ่มขึ้นมาจาก 4Ps คือ People, Process และ Physical Evidence
เมื่อรู้จัก 7Ps Marketing Mix กันเรียบร้อยแล้ว ลองมาวิเคราะห์ผ่านเคส LA GLACE กัน
1. Product (สินค้าหรือบริการ)
หากลองสังเกตดูที่สินค้าของ LA GLACE จะพบว่า สินค้าแต่ละ SKU มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
เช่น บลัชดำ เป็นเจ้าแรก ๆ ที่ทำบลัชเนื้อ Jelly Balm และยังทำแบบเปลี่ยนสีตามค่า pH ของผิวผู้ใช้แต่ละคนอีกด้วย
เช่น บลัชดำ เป็นเจ้าแรก ๆ ที่ทำบลัชเนื้อ Jelly Balm และยังทำแบบเปลี่ยนสีตามค่า pH ของผิวผู้ใช้แต่ละคนอีกด้วย
เมื่อเป็นแบบนี้ จึงทำให้หลายคนที่เห็นสินค้านึกออกหรือจดจำได้ทันทีว่า นี่คือสินค้าจากแบรนด์อะไร และยังมีกิมมิก หรือลูกเล่นที่ซ่อนอยู่ในตัวสินค้าอยู่เสมอ ทำให้สินค้าเป็นที่ชื่นชอบของกลุ่มเป้าหมาย
ซึ่งถ้าถามว่า LA GLACE ขายดีแค่ไหน ?
นอกจากยอดขายในปี 2566 ที่ทำรายได้ 420 ล้านบาทแล้ว สินค้าต่าง ๆ ยังติดอันดับสินค้าขายดี บนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซด้วย ทั้งบลัชดำ, ลิปไอติมลากลาส และโทนเนอร์แพดลากลาส
2. Price (ราคา)
การตั้งราคาสินค้าของแบรนด์ LA GLACE มักมีราคาอยู่ที่ หลักสิบไปจนถึงหลักร้อยบาท
ซึ่งเป็นกลยุทธ์การตั้งราคาแบบ Economy Pricing ที่เน้นการตั้งราคาเพื่อให้สินค้าเข้าถึงง่าย แต่ได้สินค้าที่มีคุณภาพ
เพื่อจับกลุ่มลูกค้าในกลุ่มคน Gen Z ซึ่งเป็นทั้งนักเรียน นักศึกษา หรือคนที่เพิ่งเริ่มทำงานใหม่ ๆ ซึ่งยังมีรายได้ไม่มากนัก
3. Place (ช่องทางการจัดจำหน่าย)
LA GLACE เป็นแบรนด์ที่มีช่องทางการจัดจำหน่ายที่หลากหลาย ทั้งตามร้านขายสินค้าความงามในศูนย์การค้า
แต่ช่องทางที่เด่นที่สุดคือ การขายสินค้าผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ และไลฟ์คอมเมิร์ซ เช่น Shopee และ TikTok Shop
ซึ่ง LA GLACE มียอดขายจาก Shopee คิดเป็นสัดส่วนราว ๆ 55% ของยอดขายทั้งหมด
โดยแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ และไลฟ์คอมเมิร์ซ เป็นช่องทางการจัดจำหน่ายที่สามารถใช้กลยุทธ์ Content Marketing เพื่อใช้กระตุ้นการตัดสินใจซื้อของลูกค้าได้ในทันที และ LA GLACE ก็เก่งเรื่องการทำคอนเทนต์ต่าง ๆ อยู่แล้ว
4. Promotion (การส่งเสริมการขาย)
กลยุทธ์การตลาด หรือการสื่อสารที่ LA GLACE ใช้กระตุ้นการตัดสินใจซื้อของลูกค้า ที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดคือ การใช้กลยุทธ์ Content Marketing ที่ใช้คอนเทนต์ประเภทต่าง ๆ บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย กระตุ้นการตัดสินใจซื้อ และสร้างความผูกพันกับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็น
- คอนเทนต์ที่ LA GLACE ทำเอง
โดยใส่ไอเดียครีเอทิฟ และความแปลกใหม่เข้าไป ให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมาย เช่น คอนเทนต์รีวิว และคอนเทนต์ที่นำสินค้าเข้าไปประยุกต์
- คอนเทนต์จากอินฟลูเอนเซอร์คนอื่น ๆ
ที่นำสินค้าของ LA GLACE ไปใช้ แล้วนำมาบอกต่อ จนเป็นเหมือน User-Generated Content รูปแบบหนึ่ง
โดยความน่าสนใจของการทำคอนเทนต์ของ LA GLACE ก็คือ เฟรมเวิร์กการทำคอนเทนต์ให้น่าสนใจของ LA GLACE ต้องมีองค์ประกอบเหล่านี้
- Awareness เน้นการทำคอนเทนต์ให้ลูกค้าเห็นบ่อย ๆ
- Image เน้นการทำคอนเทนต์สร้างภาพลักษณ์ ให้มีความแตกต่างและโดดเด่น
- Quality เน้นการทำคอนเทนต์นำเสนอคุณภาพของสินค้า ด้วยความแตกต่าง
- Identity เน้นการสร้างตัวตนที่ชัดเจน และแตกต่างของแบรนด์
- Storytelling เน้นการสร้างเรื่องราวเบื้องหลัง เพื่อสร้างความผูกพันให้กับแบรนด์
5. People (ทรัพยากรบุคคล)
ในองค์ประกอบนี้ว่าด้วยเรื่องของทรัพยากรบุคคล
กรณีของ LA GLACE บุคคลแรกที่มีความเกี่ยวข้องก็คือ คุณไอติม-เอมลินทร์ ธีรธนากิตติพงษ์ ผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์ LA GLACE
กรณีของ LA GLACE บุคคลแรกที่มีความเกี่ยวข้องก็คือ คุณไอติม-เอมลินทร์ ธีรธนากิตติพงษ์ ผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์ LA GLACE
เป็นผู้มีบทบาทสำคัญต่อการกำหนดทิศทางการทำธุรกิจ การพัฒนาสินค้า และการตลาดของแบรนด์
โดยคุณไอติมได้ใช้ภาพลักษณ์ของตัวเอง มาเป็นข้อได้เปรียบในการสร้างภาพลักษณ์ และการทำการตลาดของแบรนด์ ให้มีความแตกต่างจากแบรนด์อื่น ๆ ตามหลักการ CEO Branding
และคุณไอติมยังมีแนวคิดในการเลือกบุคคลที่จะเข้ามาทำงานร่วมกับ LA GLACE ที่น่าสนใจ คือการให้ความสำคัญกับเรื่องเหล่านี้
- Growth Mindset พร้อมที่จะเติบโต
- เคมีการทำงานที่เข้ากันได้ดี
- ต้องเป็นคนดื้อ และกล้าเถียง
- เคมีการทำงานที่เข้ากันได้ดี
- ต้องเป็นคนดื้อ และกล้าเถียง
เพื่อให้ได้พนักงานที่พร้อมลุยไปกับคุณไอติม และแบรนด์ LA GLACE
6. Process (กระบวนการ)
LA GLACE มีกระบวนการพัฒนาสินค้าที่ยึดความต้องการของลูกค้า และผู้บริโภคในตลาดเป็นหลัก โดยรับฟังความคิดเห็น เพื่อพัฒนาสินค้าให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าอยู่เสมอ
ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดก็คือ LA GLACE มีการมอนิเตอร์ “คีย์เวิร์ด” บนโลกออนไลน์ ที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์สินค้าความงามอยู่ตลอดเวลา รวมแล้วกว่า 6,000 คีย์เวิร์ด
เพื่อเก็บอินไซต์ ทั้งคำติชม และเทรนด์ใหม่ ๆ ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่เสมอ เพื่อปรับตัวให้เข้ากับความต้องการของลูกค้าแบบเรียลไทม์
7. Physical Evidence (ประสบการณ์ของลูกค้า)
ประสบการณ์ที่ลูกค้าได้รับจากแบรนด์ LA GLACE ที่จับต้องได้มากที่สุด ก็คือ Brand Identity ของ LA GLACE
ซึ่งเป็นแบรนด์ที่มีภาพลักษณ์ที่แสดงออกถึงความกล้า ความแตกต่าง ความเฟียร์ซ และชอบโดดเด่น สะท้อนผ่านสินค้า แพ็กเกจจิง หน้าเว็บไซต์ รวมถึงการสื่อสาร จากทุกช่องทางของแบรนด์
ทั้งหมดนี้ก็คือ 7Ps Marketing Mix
แนวคิดที่ใช้วางแผนกลยุทธ์การตลาด เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด ผ่าน 7 องค์ประกอบรอบด้าน
ที่อธิบายให้เข้าใจแบบง่าย ๆ จากเคสจริงของ LA GLACE แบรนด์เครื่องสำอาง ที่กำลังฮิตอยู่ตอนนี้..