
CIB ลุยทลายโกดัง “หน้ากากอนามัยเถื่อน” ติดโลโก้แบรนด์ Welcare ปลอม เสี่ยงอันตรายต่อผู้บริโภค
4 ธ.ค. 2025
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) เปิดปฏิบัติการตรวจค้นโกดังเก็บสินค้าในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ หลังได้รับรายงานว่ามีกลุ่มลักลอบผลิตและจำหน่าย “หน้ากากอนามัยปลอม” โดยใช้ชื่อและโลโก้ของแบรนด์ Welcare โดยไม่ได้รับอนุญาต เจ้าหน้าที่สามารถยึดของกลางได้รวมกว่า 160,000 ชิ้น

จากการตรวจสอบในพื้นที่โกดังต้องสงสัย เป็นสถานที่กักเก็บหน้ากากอนามัยปลอม ในพื้นที่ตำบลศีรษะจรเข้น้อย อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการพบ หน้ากากอนามัยปลอมกว่า 150,000 ชิ้น และ กล่องบรรจุภัณฑ์ปลอมอีกกว่า 5,000 กล่อง ซึ่งถูกเก็บไว้เตรียมจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์และร้านค้าปลีก โดยไม่มีเอกสารรับรองแหล่งที่มาและไม่มีใบอนุญาตผลิตสินค้าอย่างถูกต้อง เจ้าหน้าที่ระบุว่า หน้ากากอนามัยดังกล่าว ไม่ได้ผ่านมาตรฐานการผลิตด้านสุขอนามัยและความปลอดภัย ไม่มีการทดสอบประสิทธิภาพการกรองฝุ่นและเชื้อโรค ซึ่งอาจเสี่ยงต่อสุขภาพของผู้บริโภค โดยเฉพาะกลุ่มเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัว

เบื้องต้น ได้มีการเตรียมดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องในข้อหา ละเมิดเครื่องหมายการค้า ผลิตและจำหน่ายสินค้าไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองผู้บริโภค อีกทั้งหน้ากากปลอมดังกล่าวไม่ได้ผ่านกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐานด้านการป้องกันเชื้อโรคและฝุ่นละออง ไม่มีการทดสอบประสิทธิภาพการกรองแบคทีเรีย ฝุ่น PM2.5 หรือเชื้อไวรัส อาจสร้างความเสี่ยงต่อสุขภาพของผู้สวมใส่ โดยเฉพาะเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว

เจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมขยายผลติดตามตัวผู้ที่เกี่ยวข้องที่ได้ร่วมกันกระทำความผิดทั้งหมดมาดำเนินคดี ตามกฎหมายในความผิดตาม พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2534 ฐาน “มีไว้เพื่อจำหน่ายสินค้าที่ปลอมเครื่องหมายการค้าของผู้อื่นเอาชื่อ รูป หรือรอยประดิษฐ์ของบุคคลอื่นมาใช้ในทางการค้า เพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อว่าสินค้าเป็นของแท้” ของกลางทั้งหมดถูกยึดและนำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ด้าน Welcare ผู้ผลิตหน้ากากอนามัยแบรนด์ต้นแบบ เปิดเผยว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กับสินค้าที่ถูกยึด พร้อมเตือนผู้บริโภคให้ตรวจสอบแหล่งจำหน่ายก่อนซื้อ เนื่องจากหน้ากากปลอมอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพและมีประสิทธิภาพการป้องกันต่ำกว่ามาตรฐาน

Welcare ยังระบุเพิ่มเติมว่า บริษัทผลิตหน้ากากอนามัยและผลิตภัณฑ์สุขภาพภายใต้ระบบการควบคุมคุณภาพที่เข้มงวด รวมถึงได้รับการรับรองมาตรฐานที่เกี่ยวข้อง พร้อมเน้นย้ำว่าการใช้สินค้าปลอมที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสุขภาพ แม้ผู้บริโภคจะไม่สามารถมองเห็นความแตกต่างจากลักษณะภายนอกได้อย่างชัดเจน

ทั้งนี้ หน่วยงานรัฐได้ฝากเตือนประชาชนว่า หากพบการจำหน่ายสินค้าปลอม หรือสินค้าทางการแพทย์ไม่มีมาตรฐาน ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่โดยเร็ว เพื่อช่วยลดความเสี่ยงด้านสุขภาพ และสนับสนุนการบังคับใช้กฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพ
คดีดังกล่าวนับเป็นอีกหนึ่งสัญญาณเตือนเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของสินค้าปลอมในตลาดอุปกรณ์ทางการแพทย์ ซึ่งเป็นประเด็นที่มีผลโดยตรงต่อความปลอดภัยของสาธารณชน โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยืนยันว่าจะเร่งรัดดำเนินการตรวจสอบและกวาดล้างเครือข่ายสินค้าผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่อง เพื่อคุ้มครองสิทธิและความปลอดภัยของผู้บริโภค