
เอฟโวลูชั่นสกิน x ยันฮี ทำอย่างไรให้ขายสินค้าได้ 10 ล้านชิ้น ยอดขายแตะพันล้าน
30 ธ.ค. 2025
ถ้าถามว่าอุตสาหกรรมไหนในไทยที่กำลังมาแรงบ้าง ?
หนึ่งในนั้นคงหนีไม่พ้น ตลาดสุขภาพ-ความงาม ที่ปัจจุบันตลาดนี้เติบโตกว่า 8-10% ต่อปี ซึ่งถือว่าสูงมาก ๆ
และไม่ใช่แค่นั้น เพราะพฤติกรรมของผู้บริโภคไทยก็กำลังเข้าสู่ยุค “Social Commerce First”
หรือเทรนด์ซื้อขายสินค้าผ่านทางแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียและแพลตฟอร์ม E-Commerce
หรือเทรนด์ซื้อขายสินค้าผ่านทางแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียและแพลตฟอร์ม E-Commerce
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กลุ่มคนในวัย 30-45 ปี ที่ให้ความสำคัญกับสินค้าที่มีมาตรฐานด้านการแพทย์และความปลอดภัย และมักจะซื้อสินค้าเดิมซ้ำอยู่บ่อย ๆ
ด้วยปัจจัยข้างต้นนี้ ก็ทำให้ตลาดสุขภาพ-ความงามน่าสนใจเป็นอย่างมาก
จนเข้าสู่ภาวะ Red Ocean หรือภาวะที่ตลาดมีคู่แข่งเข้ามาจำนวนมาก และเกิดการแข่งขันสูง
จนเข้าสู่ภาวะ Red Ocean หรือภาวะที่ตลาดมีคู่แข่งเข้ามาจำนวนมาก และเกิดการแข่งขันสูง
ซึ่งจากสถานการณ์นี้ก็ทำให้หลาย ๆ แบรนด์ต้องปรับตัวกับตลาดที่เปลี่ยนไป
ไม่ว่าจะเป็น การพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ดียิ่งขึ้น, การเก็บข้อมูลลูกค้าแล้วนำไปวิเคราะห์ต่อ หรือการหาพาร์ตเนอร์ทางธุรกิจ
โดยกรณีศึกษาเกี่ยวกับธุรกิจด้านสุขภาพ-ความงามหนึ่งที่น่าสนใจก็คือ
ความร่วมมือระหว่างเอฟโวลูชั่นสกิน (Evolution Skin) และโรงพยาบาลยันฮี
ความร่วมมือระหว่างเอฟโวลูชั่นสกิน (Evolution Skin) และโรงพยาบาลยันฮี
แล้วทั้ง 2 ธุรกิจนี้ เขาทำการตลาดและสร้างความร่วมมือกันอย่างไร ?
บทความนี้ MarketThink จะพาทุกคนไปดูเคสการตลาดนี้แบบเจาะลึกกัน
บทความนี้ MarketThink จะพาทุกคนไปดูเคสการตลาดนี้แบบเจาะลึกกัน
ย้อนกลับไปกว่า 10 ปีที่แล้ว ในยุคที่การขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ยังไม่ได้รับความนิยมเหมือนในปัจจุบัน และผู้คนก็นิยมซื้อสินค้าผ่านช่องทางออฟไลน์อยู่
แต่เอฟโวลูชั่นสกิน และโรงพยาบาลยันฮี มองเห็นเทรนด์อนาคตที่กำลังมา นั่นก็คือ
การซื้อขายสินค้าออนไลน์จะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แบบฉุดไม่อยู่ และเทรนด์ด้านสุขภาพ และความสวยงามจะมาแรง เนื่องจากผู้คนทุกเพศ ทุกวัย จะหันมาสนใจดูแลตัวเองกันมากขึ้น
ทั้งเอฟโวลูชั่นสกิน และโรงพยาบาลยันฮี จึงได้เริ่มทำสัญญาความร่วมมือทางกลยุทธ์ขึ้นมานับแต่นั้น
โดยเอฟโวลูชั่นสกิน ทำหน้าที่เป็น Growth Partner แบบครบวงจร เนื่องจากเป็นผู้พัฒนาและบริหารระบบ E-Commerce แบบครบวงจร
ทั้งด้านการบริหารช่องทาง E-Commerce (Shopee, Lazada, TikTok Shop), Social Commerce, เทเลเซลส์, Content, CRM, ระบบ AI วิเคราะห์ข้อมูลผู้บริโภค
ขณะที่โรงพยาบาลยันฮีเป็นผู้นำด้านสุขภาพและความงามของประเทศไทย จึงรับหน้าที่พัฒนาและวิจัยผลิตภัณฑ์เฉพาะทาง โดยทีมแพทย์และเภสัชกรของทางโรงพยาบาลเอง
ซึ่งความสำเร็จของความร่วมมือที่ผ่านมา ก็ทำให้สินค้าของโรงพยาบาลยันฮีหลายรายการเติบโตจนขึ้นแท่น Top Brand Online ตัวอย่างเช่น
- อาหารเสริมสุขภาพ Yanhee Callyn Plus และ Yanhee Gluta Alpha X
- เซรั่มบำรุงผิวหน้า Yanhee Red Energy Serum และ Yanhee Anti-Melasma Serum
- ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม Teezeer Hair Series ที่มียอดขายรวมกว่า 10 ล้านชิ้น และผลักดันรายได้รวมของแบรนด์แตะระดับ 1,000 ล้านบาท
และถ้าให้วิเคราะห์ปัจจัยถึงความสำเร็จของความร่วมมือนี้ ก็คงหนีไม่พ้นกลยุทธ์การตลาดของทั้ง 2 แบรนด์ ที่เข้าใจเทรนด์และพฤติกรรมของผู้บริโภคยุคใหม่ที่เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ในทุก ๆ วัน
และเอฟโวลูชั่นสกิน ก็ยังปรับแนวคิดจาก “ยิงโฆษณาให้ดัง” กลายเป็น “สร้างคุณภาพให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ” อีกด้วย เพื่อให้ผู้ใช้ผลิตภัณฑ์มีความ Loyalty กับแบรนด์ในประเทศไทย
กลยุทธ์การตลาดที่น่าสนใจก็เช่น
- ระบบควบคุมคุณภาพระดับการแพทย์ ทำให้สินค้าและบริการมีคุณภาพในระดับสูงอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ
- การพัฒนาสูตรเฉพาะทางที่แก้ Pain Point ได้จริง ทำให้ลูกค้าเชื่อมั่นในคุณภาพของสินค้าและกล้าแนะนำให้ผู้อื่นใช้ต่อ
- โครงสร้าง Data และระบบหลังบ้านที่รองรับการ Scale ระยะยาว ทำให้ธุรกิจและแบรนด์สามารถนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ และปรับปรุงสินค้าให้ตรงความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ระบบสมาชิก Loyalty Program สะสมคะแนนจากทุกการซื้อ และแลกเป็นส่วนลดหรือคูปอง ที่สามารถนำไปใช้เป็นส่วนลดสินค้า หรือใช้ในโรงพยาบาลยันฮีได้
- ใช้เครื่องมือการตลาด อย่างระบบ CRM เพื่อเก็บข้อมูล Pain Point และจัดการความสัมพันธ์ของลูกค้าแบบรายบุคคล
- ระบบ AI ที่นำมาใช้ช่วยวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้ซื้อ ทำให้วิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- E-Smart Platform เชื่อมระบบการขายทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น Shopee, Lazada, TikTok Shop และ Social Commerce ทำให้แบรนด์สามารถจัดการสต๊อกและข้อมูลลูกค้าหลังบ้านได้ดียิ่งขึ้น
- ระบบ Training ทีมขาย ทำให้ขายสินค้าได้ตรง Pain Point ช่วยเพิ่มยอดขายสินค้าให้มากขึ้น
จากความสำเร็จทั้งหมดนี้ก็ทำให้ คุณปิยลักษณ์ อุดมชาติ ประธานกรรมการ บริษัท เอฟโวลูชั่นสกิน จำกัด เผยถึงการประกาศต่อสัญญาความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับโรงพยาบาลยันฮี ยาวถึงปี 2575
เพื่อตอกย้ำถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพของระบบการบริหารจัดการและการตลาดแบบครบวงจรของบริษัท ที่สามารถขับเคลื่อนแบรนด์สุขภาพ-ความงามไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว
พร้อมกับเผยวิสัยทัศน์ในช่วงปี 2569-2570 ว่า ธุรกิจต้องการเติบโตในเชิงคุณภาพ พร้อมทั้งจะขยายไลน์สินค้าเฉพาะทางเพิ่มอีกด้วย เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าเพิ่มขึ้น
โดยเป้าหมายของเอฟโวลูชั่นสกินในอีก 2 ปีข้างหน้าประกอบไปด้วย 3 ด้านหลัก ได้แก่
1. Customer Scaling หรือการเพิ่มฐานลูกค้า
โดยเอฟโวลูชั่นสกินตั้งเป้าเพิ่มฐานลูกค้าเป็น 400,000 ราย พร้อมวางแผนสร้างมูลค่าตลอดอายุการใช้งานลูกค้า หรือ LTV เพิ่มขึ้นเป็น 10 ปี ในระยะยาว
2. Product Expansion หรือการเพิ่มไลน์สินค้าใหม่ ๆ
เอฟโวลูชั่นสกินตั้งใจจะพัฒนาไลน์ผลิตภัณฑ์แบบ Specialized มากขึ้น ตัวอย่างเช่น
- ผลิตภัณฑ์เพื่อผิวแพ้ง่าย
- ผลิตภัณฑ์ Anti-aging 35+
- ผลิตภัณฑ์แก้ผมร่วง
- สินค้ากลุ่มผู้ชาย
- ผลิตภัณฑ์เพื่อผิวแพ้ง่าย
- ผลิตภัณฑ์ Anti-aging 35+
- ผลิตภัณฑ์แก้ผมร่วง
- สินค้ากลุ่มผู้ชาย
3. Commercial Growth หรือการสร้างการเติบโตทางการค้า
ไม่ว่าจะเป็น เพิ่ม AOV ต่อออร์เดอร์ผ่านคอนเทนต์สร้างดีมานด์, Influencer และกลยุทธ์แบบ Data-driven Marketing
จากที่เล่ามาทั้งหมด จะเห็นได้ว่า อาณาจักรความงามและสุขภาพนั้นยิ่งใหญ่และมีมูลค่าเยอะมาก
แต่ทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย ถ้าธุรกิจหนึ่ง ๆ ต้องทำทุกอย่างด้วยตัวคนเดียว
แต่ทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย ถ้าธุรกิจหนึ่ง ๆ ต้องทำทุกอย่างด้วยตัวคนเดียว
การทำธุรกิจร่วมกับพาร์ตเนอร์ จึงเป็นกลยุทธ์การตลาดที่น่าสนใจอย่างมากในปัจจุบัน
เพราะนอกจากทั้งคู่จะได้มาแชร์ความรู้ความเชี่ยวชาญที่ตัวเองมีอยู่แล้ว ก็ยังได้ฐานลูกค้าและช่องทางการขายสินค้าเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังได้ภาพลักษณ์ ภาพจำของแบรนด์พาร์ตเนอร์มาช่วยโปรโมตสินค้าได้อีกด้วย
อ้างอิง :
- ข่าวประชาสัมพันธ์จาก เอฟโวลูชั่นสกิน
- ข่าวประชาสัมพันธ์จาก เอฟโวลูชั่นสกิน