
กรณีศึกษา ความท้าทายของตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ในอนาคต
9 มิ.ย. 2020
สั่งรถยนต์ออนไลน์ รอรถยนต์ที่สั่งไว้มาส่งถึงหน้าบ้าน
เรื่องนี้อาจเป็นเรื่องที่คนไทยยังไม่เคยเห็น
แต่นี่คือกระแสใหม่ของวงการรถยนต์ไฟฟ้าในทวีปอเมริกาเหนือและยุโรป
เรื่องนี้อาจเป็นเรื่องที่คนไทยยังไม่เคยเห็น
แต่นี่คือกระแสใหม่ของวงการรถยนต์ไฟฟ้าในทวีปอเมริกาเหนือและยุโรป
เมื่อเรื่องเป็นแบบนี้
คนที่เจอความท้าทาย คงหนีไม่พ้นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์..
คนที่เจอความท้าทาย คงหนีไม่พ้นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์..
แต่ไหนแต่ไรมา ถ้าอยากได้รถยนต์ใหม่สักคัน
ก็ต้องสั่งจองผ่าน “ตัวแทนจำหน่าย” ของรถยนต์แต่ละแบรนด์
ตัวแทนจำหน่าย เป็นตัวกลางในการส่งเสริมและทำยอดขายให้กับผู้ผลิต
ก็ต้องสั่งจองผ่าน “ตัวแทนจำหน่าย” ของรถยนต์แต่ละแบรนด์
ตัวแทนจำหน่าย เป็นตัวกลางในการส่งเสริมและทำยอดขายให้กับผู้ผลิต
รายได้ของตัวแทนจำหน่ายมาจากสองส่วนหลักๆ คือ
1. รายได้จากค่าคอมมิชชันและโบนัสจากยอดขาย
2. รายได้จากการให้บริการหลังการขายของศูนย์บริการ
1. รายได้จากค่าคอมมิชชันและโบนัสจากยอดขาย
2. รายได้จากการให้บริการหลังการขายของศูนย์บริการ
หมายความว่า ยิ่งตัวแทนจำหน่ายทำยอดขายได้มากเท่าไร
ค่าคอมมิชชันและโบนัสที่ได้จากส่วนแบ่งยอดขายก็ยิ่งมากขึ้น
ค่าคอมมิชชันและโบนัสที่ได้จากส่วนแบ่งยอดขายก็ยิ่งมากขึ้น
ที่สำคัญ เมื่อขายรถยนต์ได้จำนวนมาก
รายได้ในอนาคตของศูนย์บริการ ก็จะมากขึ้นตามไปด้วย
รายได้ในอนาคตของศูนย์บริการ ก็จะมากขึ้นตามไปด้วย
ในส่วนบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ ถ้าบริษัทส่งมอบรถได้มาก
ก็จะทำให้รายได้และกำไรเติบโตมากตามไปด้วย
ก็จะทำให้รายได้และกำไรเติบโตมากตามไปด้วย
ผู้ผลิตได้กำไร ตัวแทนจำหน่ายได้ส่วนแบ่งและโบนัส
เรื่องนี้ก็ได้ประโยชน์ร่วมกันทั้งคู่
เรื่องนี้ก็ได้ประโยชน์ร่วมกันทั้งคู่
แต่โมเดลการขายรถยนต์แบบที่ว่ามานี้ กำลังถูกท้าทาย..
เมื่อ Tesla เจ้าตลาดแห่งวงการรถยนต์ไฟฟ้า ใช้วิธี “ขายตรง” โดยไม่ผ่านตัวแทนจำหน่าย
โชว์รูมของตัวแทนจำหน่ายถูกเปลี่ยนเป็นร้านโชว์ตัวอย่างรถยนต์ตามห้างสรรพสินค้า
โชว์รูมของตัวแทนจำหน่ายถูกเปลี่ยนเป็นร้านโชว์ตัวอย่างรถยนต์ตามห้างสรรพสินค้า
พนักงานขาย เปลี่ยนเป็นพนักงาน Tesla ที่มีหน้าที่แค่แนะนำ ไม่ต้องปิดการขาย ไม่ต้องทำยอด
การจองรถยนต์เปลี่ยนจากผ่านตัวแทนจำหน่าย มาเป็นการจองผ่านเว็บไซต์
การเข้าศูนย์บริการ เปลี่ยนมาเป็นการส่งทีมช่างไปซ่อมให้ถึงที่บ้าน
การเข้าศูนย์บริการ เปลี่ยนมาเป็นการส่งทีมช่างไปซ่อมให้ถึงที่บ้าน
โมเดลการขายแบบนี้ ได้รับผลตอบรับที่ดีจากคนอเมริกัน และช่วยให้ Tesla ประหยัดต้นทุนมหาศาล
Tesla ไม่ต้องเสียต้นทุนค่านายหน้า ค่าคอมมิชชัน และโบนัสให้ตัวแทนจำหน่าย
Tesla ไม่ต้องเสียต้นทุนค่านายหน้า ค่าคอมมิชชัน และโบนัสให้ตัวแทนจำหน่าย
ผู้ซื้อก็มีอิสระในเลือกชมสินค้ามากขึ้น ทั้งในเว็บไซต์ และหน้าร้าน
ถ้าแค่ Tesla เจ้าเดียวก็คงไม่สร้างแรงกระเพื่อมมากเท่าไร
แต่เมื่อไม่นานนี้ Volkswagen ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ในเยอรมนี
ก็กำลังเตรียมใช้โมเดลลักษณะคล้ายกันนี้ในการขายรถยนต์ไฟฟ้าในยุโรป
ก็กำลังเตรียมใช้โมเดลลักษณะคล้ายกันนี้ในการขายรถยนต์ไฟฟ้าในยุโรป
กรณีของ Volkswagen ยังไม่ตัดตัวแทนจำหน่ายทิ้งเสียทีเดียว
ตัวแทนจำหน่ายจะถูกเปลี่ยนสถานะไปเป็นพาร์ตเนอร์ที่คอยดูแลลูกค้าที่นำรถมาเข้าศูนย์บริการ
ตัวแทนจำหน่ายจะถูกเปลี่ยนสถานะไปเป็นพาร์ตเนอร์ที่คอยดูแลลูกค้าที่นำรถมาเข้าศูนย์บริการ
หมายความว่า ค่าคอมมิชชันที่เคยได้จากยอดขาย
จะเปลี่ยนไปเป็นค่าคอมมิชชันจากการให้บริการเมื่อลูกค้านำรถยนต์มาเข้าศูนย์
จะเปลี่ยนไปเป็นค่าคอมมิชชันจากการให้บริการเมื่อลูกค้านำรถยนต์มาเข้าศูนย์
แม้หลายคนจะบอกว่า ศูนย์บริการสร้างรายได้ไม่น้อยให้กับตัวแทนจำหน่าย
แต่เนื่องด้วยรถยนต์ไฟฟ้ามีกลไกการทำงานที่ไม่ซับซ้อนเหมือนรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน
แต่เนื่องด้วยรถยนต์ไฟฟ้ามีกลไกการทำงานที่ไม่ซับซ้อนเหมือนรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน
ระบบหลักมีเพียงแค่ระบบแบตเตอรี่ ระบบขับเคลื่อน และซอฟต์แวร์สั่งการ
หลายคนจึงคาดกันว่า รถยนต์ไฟฟ้าอาจไม่ต้องพึ่งพาศูนย์บริการมากนัก
ซึ่งจะกระทบต่อรายได้จากค่าบริการของตัวแทนจำหน่ายในอนาคต
หลายคนจึงคาดกันว่า รถยนต์ไฟฟ้าอาจไม่ต้องพึ่งพาศูนย์บริการมากนัก
ซึ่งจะกระทบต่อรายได้จากค่าบริการของตัวแทนจำหน่ายในอนาคต
ด้วยตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่เริ่มขยายตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
นั่นหมายความว่า ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์
กำลังเจอความท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการขายและการให้บริการ
นั่นหมายความว่า ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์
กำลังเจอความท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการขายและการให้บริการ
และสุดท้ายโมเดลการขายแบบนี้
อาจถูกนำมาใช้กับการขายรถยนต์ทุกประเภททุกแบรนด์ทั่วโลก
อาจถูกนำมาใช้กับการขายรถยนต์ทุกประเภททุกแบรนด์ทั่วโลก
แม้เรื่องนี้จะยังอยู่ห่างไกลจากประเทศไทยพอสมควร แต่โลกในตอนนี้หมุนเร็วขึ้นมาก
อย่างในกรณีนี้
ผู้ผลิตบางรายเริ่มบริหารกระบวนการขายด้วยตัวเองแล้ว
ผู้ผลิตบางรายเริ่มบริหารกระบวนการขายด้วยตัวเองแล้ว
และเมื่อใดที่ผู้ผลิตมีต้นทุนในการขายตรงต่ำกว่าต้นทุนที่ต้องจ่ายให้ตัวแทนจำหน่าย
เมื่อนั้น ตัวแทนจำหน่าย ก็ไม่ใช่สิ่งจำเป็นของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์อีกต่อไป..
เมื่อนั้น ตัวแทนจำหน่าย ก็ไม่ใช่สิ่งจำเป็นของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์อีกต่อไป..